รู้จักซักนิด “ชุดแต่ง” หรือ “Aerodynamic Part” คือ อะไร และ ทำอะไรได้บ้าง ก่อนติดตั้งให้กับรถสุดรัก
“รถยนต์” ได้กลายเป็นหนึ่งปัจจัยที่ใครต่อใครต่างก็ต้องการหามาครอบครอง ดังจะเห็นได้จากจำนวนรถป้ายแดงบนท้องถนน และที่น่าแปลกก็คือบางคันยังไม่ทันถอดป้ายแดงของแต่งก็ท่วมคัน โดยเฉพาะกับการเสริมหล่อภายนอกตัวรถ จนทำให้ผมอยาก “ปล่อยความลับเบาๆ” เกี่ยวกับ “ชุดแต่งรถ” หรือ “Aerodynamic Part” ซักเล็กน้อย
Aerodynamic Part ถือกำเนิดจากสนามแข่ง
“ชุดแต่งรถ” ทั้งหลายมีต้นกำเนิดมาจากวงการมอเตอร์สปอร์ต จึงทำให้มีชื่อเรียกเท่ห์ๆ ว่า Aerodynamic Part เนื่องจากเป็นการพัฒนา และคำนวนตามหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งประเด็นหลักก็คือ เพื่อให้รถแข่งเหล่านั้นใช้ความเร็วสูงได้ โดยไม่ “หมุน” หรือ “บิน” เนื่องจากการที่ “อากาศ” ไหลผ่านตัวรถด้วยความเร็วสูงจะทำให้เกิดทั้งแรงกด (Down Force) และแรงยก (Lift Force) ที่ส่งผลในเรื่องของเสถียรภาพการทรงตัว และการควบคุมอย่างเห็นได้ชัด ดังจะเห็นได้จากรถ Super Car สมรรถนะสูงต่างๆ หรือแม้กระทั่งรถแข่งเองก็ตาม ที่ต้องผ่านกระบวนการคิดค้น และพัฒนาจากในอุโมงค์ลม “Wind Tunnel”
“ชุดแต่ง” กับ “รถบ้านอยากหล่อ” และ “ความลับ” ที่คาดไม่ถึง
จากแค่การสวมชุดแต่งเพื่อเน้นสมรรถนะ สู่ยุคแห่งการพัฒนาควบคู่ไปกับความสวยงาม ทำให้เกิด “ชุดแต่ง” หรือ ชุด Aero Part มากมาย จากหลายสำนักแต่ง โดยเฉพาะในบ้านเรามีขายกันเกลื่อน ซึ่งแน่นนอนล่ะครับว่าไม่ได้เน้นเรื่องอากาศพลศาสตร์แม้แต่น้อย เพราะส่วนใหญ่ก็เน้นสวยงาม แนวซิ่งๆ กันไป โดยเฉพาะกับพวก “Wing” หลัง ที่ขนาดใหญ่พอจะตากผ้าได้ หรือแม้แต่บรรดา Part ต่างๆ ด้านหน้ารถ
ซึ่งชุดแต่งที่ไม่ได้ผ่านการคำนวนตามหลักอากาศพลศาสตร์ เมื่อใส่ลงไปกับรถมันจึงมีผลบ้างไม่มากก็น้อย ถ้าเบาๆ ก็น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจะทำให้เกิดการบริโภคน้ำมันมากเกินไป แต่ถ้าหนักขึ้นมาอีกก็จะทำให้รถด้อยการควบคุมไปเลย เพราะมันเมื่อซิ่งกันด้วยความเร็วทั้งแรงกด (Down Force) และแรงยก (Lift Force) ที่เกิดขึ้น โดยไม่มีความเกื้อหนุนกัน จะทำให้รถขาดเสถียรภาพที่ดีได้ แถมยังสร้างความเสี่ยงให้อาจเกิดอันตรายแบบคาดไม่ถึงอีกด้วย
คิดให้ดีก่อนใส่ “คุ้มมั้ย” กับสิ่งที่ได้รับ
การใส่ชุดแต่งให้กับรถสุดรัก นั้นไม่ใช่เรื่องผิด แต่ก็ต้องคิดให้เลือกให้เหมาะสม โดยเฉพาะในบ้านเราที่มีตัวเลือกให้เพียบ ทั้งจากร้านขายของแต่งๆ ต่างๆ และจากโรงานผู้ผลิตที่ออกแบบเอง เพราะฉนะนั้นมันจะมี “ความต่าง” ในเรื่องของทั้งวัสดุ มาตรฐานการผลิต และการออกแบบเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึง “ราคา” ที่เป็นปัจจัยหลัก เนื่องจาก “ของแท้” ที่นำจากต่างประเทศโดยตรงนั้นมีราคาสูง ซึ่งแน่นอนว่าเชื่อถือได้ทั้งในเรื่องของแบรนด์ และมาตรฐาน
ฉะนั้นถ้ามีทุนทรัพย์ก็จับยัดลงไป เพื่อให้ “ซิ่ง” ได้อย่างปลอดภัยแม้จะใช้ความเร็วสูงก็ตาม แต่ถ้ากระเป๋าแบนแฟนทิ้ง ก็ต้องดูตัวเลือกอื่น ที่อาจจะเป็น “ของมือสอง” หรือ “ของจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์” แทน ซึ่งอาจจะไม่ได้ผลิตขึ้นมาเพื่อเน้นเรื่องสมรรถนะบน High Speed มากนัก เพราะงั้นเราก็ควรที่จะลดดีกรีความห้าวในการ “ซิ่ง”ลงบ้าง เอาเป็นแนวขับโชว์ความงามดีกว่า เพราะคุณไม่รู้หรอกว่าชุดแต่งที่ขาดมาตรฐาน หรือไม่ได้ตามหลักอากาศพลศาสตร์เหล่านั้น มันสามารถทำร้ายอะไรคุณได้บ้าง หากซ่าส์ด้วยความเร็วสูงๆ