รีวิว : ALL NEW Honda Accord ( ออล นิว ฮอนด้า แอคคอร์ด ) “ ที่สุดแห่งความเลอค่า ”

รถยนต์ที่ผมรู้สึกว่า “เกินความคาดหมาย” ในหลายๆ เรื่องรวมทั้งการเปิดตัวแบบอลังการ และยังมีโฆษณาทางทีวีที่สามารถสะท้อนตัวผลิตภัณฑ์ให้ผมรู้สึกถึงคำว่า “ที่สุดแห่งความเลอค่า” ได้อย่างซาบซึ้ง คงต้องยกให้ ALL NEW Honda Accord ( ออล นิว ฮอนด้า แอคคอร์ด ) และผมยังมีทีเด็ดกว่าการทดสอบสมรรถนะปกติ เพราะงานนี้ขอลัดฟ้าไปทดสอบ ALL NEW Honda Accord Prototype กันที่ Motegi twin ring @Japan ก่อนที่ทางฮอนด้าจะจัดทดสอบเวอร์ชั่นขายจริง

 

เลอค่า…ด้วยโปรเจ็คเตอร์ทรงเพชร

ตำนาน 37 ปีแห่งการเดินทางของ HONDA Accord ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นำเสนอนวัตกรรมอันล้ำสมัยให้ประจักษ์กับสายตาชาวโลกอย่างสม่ำเสมอ วันนี้ก้าวมาถึงเจนเนอเรชั่นที่ 9  ยกระดับให้ Accord เป็นมากกว่ารถหรู โดย ALL NEW Honda Accord ( ออล นิว ฮอนด้า แอคคอร์ด ) มาพร้อมกับวลีที่ว่า “เลอค่า” ด้วย จากที่ผมเห็นตัวรถครั้งแรก คำว่า “เลอค่า” ซึ่งจะสะท้อนจากไฟโปรเจ็คเตอร์ทรงเพชร ประกอบกับการดีไซน์ที่หรูหรา สง่างาม และสปอร์ต ผสมออกมาเป็นรูปลักษณ์ที่ทันสมัย พร้อมความโดดเด่นด้วยกระจังหน้า U Shape สีโครเมียม เสากลางรถสีดำหรูแบบเปียโนแบล็ค และไฟท้าย LED ในความรู้สึกผม ตัวก่อนหน้านี้ก็มีความหรูหราพอตัวอยู่แล้ว แต่ใน ALL NEW Honda Accord ( ออล นิว ฮอนด้า แอคคอร์ด ) ปรับตัวรถให้สั้นลง เพื่อหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้น เติมความโดดเด่นในบางจุดเช่น “ไฟหน้า” ได้ลงตัวที่สุด แล้วยังเติมกล้องที่ใต้กระจกมองข้างด้านซ้ายเพื่อความปลอดภัยในการเปลี่ยนเลน

 

เลอค่า…ด้วยฟังก์ชั่นระดับพรีเมียม

ภายในห้องโดยสารกว้างขึ้นกว่าเดิมคุมสีแบบทูโทนตัดขอบด้วยโครเมียมเพื่อความเลอค่าน่าสัมผัส อย่างครบครันด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมี่ยม ทั้ง เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Memory Seat) และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (Active Noise Control) และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual zone ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อมระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System) ที่สำคัญยังมีหน้าจอแสดงข้อมูลแบบอัจฉริยะ i-MID หน้าจอแสดงข้อมูลขนาด 8 นิ้ว ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ ระบบสั่งการแบบ Smart Interface ที่ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการทำงานของระบบเครื่องเสียง ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth และข้อมูลรถยนต์ผ่านหน้าจอควบคุมอัจฉริยะระบบสัมผัส (On-demand Touch Panel)

 

ระบบ CMBS

ด้านความปลอดภัยมีให้มากมายทั้ง ระบบ CMBS ซึ่งเป็นระบบเตือนการชนด้านหน้าด้วยเรดาห์พร้อมระบบช่วยเบรก เพื่อช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็ว หรือเบรกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการชนหรือลดความรุนแรงจากการชน เทคโนโลยี Honda LaneWatch ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ช่วยลดจุดบอดและเพิ่มทัศนวิสัยด้านข้างขณะเปลี่ยนเลน ระบบไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติ Active Cornering Light เพิ่มความสว่างขณะเลี้ยวรถในเวลากลางคืน กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ ช่วยเติมเต็มทัศนวิสัยด้านหลัง พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED Daytime Running Lights ถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ Dual i-SRS ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ i-Side Airbag ม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags ม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain

เมื่อผมได้สัมผัสลงที่เบาะนั่งเป็นครั้งแรกสะท้อนความรู้สึกสบาย กว้างขวางออกมาได้ดี การวางตำแหน่งของฟังก์ชั่นต่างๆ ก็ทำมุมเข้าหาผู้ขับขี่ทำให้ใช้งานได้ง่าย แต่ความโดดเด่นเป็นเรื่องการเก็บเสียงที่ทำได้ดีกว่าเดิม ทำให้อรรถรสในการขับขี่แบบ Luxury ชัดเจน

 

เลอค่า…ด้วยการรักษาสิ่งแวดล้อม

รถคันที่ผมได้ทำการทดสอบเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 2.4 ลิตร DOHC ใช้เทคโนโลยีเอิร์ธ ดรีม (Earth Dreams) เป็นรุ่นแรกของฮอนด้าในประเทศไทย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ฮอนด้าพัฒนาขึ้น เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่และเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันสูงสุด ด้วยการพัฒนาองค์ประกอบการสันดาปภายในและการใช้น้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มีแรงบิดสูงสุดที่ 225 นิวตัน-เมตร (23.0 กก.-ม.) ที่ 4,000 รอบต่อนาที กำลังสูงสุด 174 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที  รองรับการใช้น้ำมัน E85 ระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด เริ่มต้นความพิเศษของเครื่องยนต์บล็อคนี้ คือ น้ำหนักที่เบาลง การตอบสนองในส่วนของแรงบิดที่ดีขึ้นทำให้อัตเร่งดีขึ้นอย่างชัดเจน แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคงจะเป็นเรื่องของความประหยัดเชื้อเพลิงที่มากกว่า รวมถึงอัตราการปล่อยไอเสียที่น้อยมากๆ ตามเทคโนโลยีที่เรียกว่า “Earth Dreams”

 

เลอค่า…ด้วยการทรงตัวแบบ F1

ระบบช่วงล่างใหม่ที่มีน้ำหนักเบาลง 15 กก. พร้อมปรับจังหวะของช็อคอัพให้นิ่มนวลขึ้น แต่การทรงตัวเป็นเลิศขึ้นตามไปด้วย เป็นการพัฒนาโดยทีมพัฒนาจาก F1 ของฮอนด้า นอกจากนี้ยังใส่เทคโนโลยีเพิ่มเติมด้วยระบบช่วยควบคุมการทรงตัว VSA  ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย MA-EPS  ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA  ระบบป้องกันล้อล็อก ABS  และระบบกระจายแรงเบรก EBD  เพื่อให้สมบรูณ์แบบที่สุด แต่สิ่งที่ผมตอบคุณๆ ได้จากการที่ได้ลองสัมผัส คือ พวงมาลัยที่มีการตอบสนองที่เฉียบคมมากขึ้น ตอบสนองการควบคุมได้ดีกว่าเดิม ช่วงล่างที่นิ่มนวลแต่ไม่ยวบยาบในขณะการเข้าโค้ง ทำให้เสถียรภาพในโค้งตอบสนองดีขึ้น แต่หากว่าคุณเข้าโค้งแรงจนเกินสมรรถนะช่วงล่าง เทคโนโลยีอย่าง VSC ก็ยังจะเข้ามาช่วยเหลือให้คุณเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ

 

สำหรับการวางแผนการสื่อสารไว้ว่า “All My Desire” ทั้งหมดแห่งความปรารถนา และหากความปรารถนาทั้งหมดของคุณ คือ “ที่สุดแห่งความหรูหรา ที่สุดแห่งเทคโนโลยี ที่สุดแห่งการรักษาสิ่งแวดล้อม” ALL NEW Honda Accord ( ออล นิว ฮอนด้า แอคคอร์ด ) คงใช่ที่คุณตามหาครับ