All new Honda Civic เจเนอเรชั่นที่ 11 ราคายั่วๆ 3 รุ่นย่อย เริ่มต้นที่ 964,900 บาท
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว All new Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค ใหม่) เจเนอเรชั่นที่ 11 (11th Generation) ตอกย้ำตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์ของยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมี่ยมซีดาน ผ่านความโดดเด่นประณีต…ในทุกรายละเอียด เริ่มจากเส้นสายโฉบเฉี่ยวรอบคัน โดยเฉพาะเวอร์ชั่นท็อปสุดอย่าง RS ที่เร้าใจด้วยดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟ
ตั้งแต่โทนสีใหม่อย่าง สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก), กระจังหน้า และกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS ประกบด้วยชุดไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน และไฟตัดหมอกคู่หน้า ต่อเนื่องด้วยมุมมองด้านข้างที่ดุดันด้วย กระจกมองข้างสีดำ พร้อมมือจับประตูด้านนอก และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 17 นิ้วสีดำ ก่อนส่งต่อไปยังด้านหลังที่มากับสไตล์เเฉพาะตัวจากชุดไฟท้ายแบบ LED รูปทรง C Line, เสาอากาศแบบครีบฉลาม, สปอยเลอร์หลังสีดำพร้อมสัญลักษณ์ RS และท่อไอเสียแบบคู่
ภายในห้องโดยสารของเวอร์ชั่น RS เต็มไปด้วยความสปอร์ตเร้าใจ ซึ่งประกอบด้วยโทนสี และรายละเอียดต่างๆ เช่น เบาะนั่งหุ้มหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง, แป้นคันเร่ง และเบรกแบบสปอร์ต ทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสุดล้ำสมัย ตั้งแต่ ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อมกุญแจแบบการ์ด (Honda Smart Key Card) ที่นำมาใช้เป็นครั้งแรก
ตามด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว (รุ่น EL+ และ EL ขนาด 7 นิ้ว), ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว (รุ่น EL+ และ EL ขนาด 7 นิ้ว) แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri, อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา ตลอดจนเทคโนโลยีการเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT)
ส่วนขุมพลังของทุกรุ่น จะมากับเครื่องยนต์ใหม่ ในพิกัด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC VTEC ที่พัฒนาไปอีกขั้น พร้อมการเสริมประสิทธิภาพด้วยระบบอัดอากาศ Turbocharger ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกได้ 3 รูปแบบ คือ ECON Mode เน้นประหยัด, Normal Mode ขับขี่ปกติสำหรับใช้งานทั่วไป และ Sport Mode เน้นอารมณ์สปอร์ต ซึ่งมีให้เฉพาะรุ่น RS โดยนอกจากความเร้าใจก็มีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงด้วยตัวเลข 17.2 กิโลเมตร/ลิตร และรองรับพลังงานทางเลือก E85 ได้อีกด้วย
ปิดท้ายด้วยความยอดเยี่ยมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้าเซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่นอกจากฟังค์ชั่นมาตรฐานแล้ว ยังได้ยังทำการยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการติดตั้งระบบใหม่ Lead Car Departure Notification System (LCDN) เพิ่มเติมมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อเสริมความมั่นใจร่วมกับ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System : CMBS), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow : ACCwith LSF), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System : LKAS), ระบบเตือน และช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam : AHB)
ตลอดจน ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch), ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor), กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera), ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake), ระบบ Auto Brake Hold, ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock), ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง (Front Passenger and Rear Seat Belt Reminder) และไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder) เป็นต้น
ราคารถใหม่
All new Honda Civic รุ่น RS ราคา 1,199,900 บาท
All new Honda Civic รุ่น EL+ ราคา 1,009,900 บาท
All new Honda Civic รุ่น EL ราคา 964,900 บาท
