Audi RS5 Sportback ตัวแรง “โคตรหล่อ” น้องใหม่สายพันธ์ RS แห่งแผนก Audi Sport
“หล่อ” จนอดใจไม่ไหว เลยต้องเอามาให้สาวกค่าย Audi ในเมืองไทยให้ได้ชมกัน กับน้องใหม่ล่าสุดแห่งราชวงศ์สายพันธ์แรง กับ Audi RS5 Sportback ผลผลิตจากแผนก Audi Sport ที่โชว์ตัวไปในงาน New York International Auto Show ที่ผ่านมา
Audi RS5 Sportback ความสมดุลย์ระหว่าง “ดีไซน์ และสมรรถนะ”
RS5 Sportback คือ ตัวแรงที่พัฒนามาจากโมเดล A5 ในสไตล์คล้ายรถ 5 ประตูที่ออกแบบในสไตล์ Coupe ซึ่งแผนก Audi Sport ได้จับมาแต่งตัวใหม่ในอารมณ์แบบ Motorsport พร้อมด้วยแรงบันดาลใจจากตัวแรงยุคอดีตอย่าง Audi 90 quattro IMSA GTO ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Born on the Track. Built for the Road.”
ประกอบด้วย กระจังหน้าแบบ Singleframe ที่ออกแบบใหม่ให้มีขนาดกว้างขึ้น อัพเกรดความดุดันด้วยช่องดักอากาศลายรังผึ้ง พร้อมกับตอกย้ำความพิเศษด้วยตราสัญลักษณ์ RS ขนาดใหญ่ และตัวอักษร “Quattro” บริเวณขอบล่าง ตามด้วยการติดตั้งชุด Spoiler ใต้กันชนหน้าโทนสีอลูมิเนียมด้าน
ส่วนในด้านข้างมากับจุดเด่นด้วยกระจกมองข้างโทนสีอลูมิเนียมด้าน เสริมด้วยความสะดุดตาจากวัสดุตกแต่ง Side Skirt สีดำเงา ปิดท้ายด้วยด้านหลังที่มากับความสปอร์ตจากชุดกันชนหลังพร้อม Diffuser ออกแบบให้รับกับชุดไอเสีย RS เสริมด้วย Spoliler ฝากประโปรงหลังสีดำเงา และการประทับตรา RS เพื่อบ่งบอกสายพันธ์
ภายในห้องโดยสารยังคงเป็นพื้นฐานของอนุกรม A5 แต่ได้รับการใส่ความสปอร์ต เพื่อกลายร่างเป็นสู่เวอร์ชั่น RSเช่น เบาะนั่ง, พวงมาลัยหุ้มหนังทรง D-Shaped, แป้นเหยียบแบบสปอร์ตทำจากวัสดุสแตนเลส ปิดท้ายด้วยการใส่ออพชั่น Audi Sport Package มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
“แรงเต็มข้อ” กับสมรรถนะที่จัดให้โดย Audi Sport
น้องใหม่ตระกูล RS รุ่นนี้มากับพื้นฐานเครื่องยนต เครื่องยนต์เบนซินพิกัด 2.9 ลิตรแบบ V6 TFSI เสริมความแรงด้วยระบบอัดอากาศ Bi-Turbo ใหม่ ที่มากับการปรับแต่งบุคคลิกให้เหมาะสมกับความเป็นยนตรกรรมในตระกูล RS จนได้พละกำลังสูงสุดถึง 444 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุดในระดับ 600 นิวตันเมตร ด้วยรอบเครื่องยนต์แบบ Flat-Torque ซึ่งมีให้ใช้ตั้งแต่ 1,900 ไปจนถึง 5,000 รอบต่อนาที
ส่วนระบบส่งกำลังนั้นมากับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Tiptronic ที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นใหม่ เพื่อสร้างอารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ต ด้วยการถ่ายทอดกำลังที่กระชับ รวดเร็ว โดยสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-60 ไมล์ ได้ใน 4 วินาที ในขณะที่ระดับความเร็วสูงสุดนั้นหยุดเอาไว้ที่ 155 ไมล์/ชม. แต่ถ้าใส่ออพชั่น Dynamic Plus Package เข้าไปจะสามารถทำได้ถึง 174 ไมล์/ชม. พร้อมด้วยการติดตั้งฟังค์ชั่น Dynamic Ride Control เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยสามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ได้ถึง 4 โหมด คือ Comfort, Auto, Dynamic และ Individual
ด้านระบบขับเคลื่อนยังคงสร้างความมั่นใจด้วยระบบ Quattro Permanent Four-Wheel Driver โดยมีสัดส่วนการกระจายแรงขับเคลื่อนแบบ 40:60 พร้อมด้วยการติดตั้งระบบล็อคเฟืองท้าย Self-Locking Center Differential และระบบ Traction Control System มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ตามด้วยระบบช่วงล่างที่มากับสไตล์ RS ซึ่งลดระดับความสูงลงอีก 7 มม. พร้อมด้วยการอัพเกรดรูปแบบช่วงล่างด้านหน้าแบบ Five-Link Suspension ใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีการลดน้ำหนัก เพื่อให้มีอรรถรสความสปอร์ตที่มากขึ้น