แบตเตอรี่ สัญญาณเตือน ว่าใกล้กลับบ้านเก่า
ปัญหา แบตเตอรี่ หมดกลางทาง ดูจะเป็นปัญหาชวนหงุดหงิดใจเสียมากกว่า เพราะรู้แล้วว่า ทางแก้ คืออะไร ตรงไหน แต่กลับแก้ด้วยตัวเองตรงนั้นไม่ได้นี่สิ มันเลยทำพาลทำให้อารมณ์เสีย เสียเวลา ฉะนั้นทางแก้ก่อนที่จะเกิดปัญหาที่ว่านี้ ผู้ขับขี่ควรต้องรู้จักสังเกตอาการ หรือสัญญาณเตือนจาก แบตเตอรี่ ว่ามันกำลังจะลาโลกแล้วหรือยัง ครั้งสองครั้ง หรือสามครั้งยังพอไหว แต่อย่าปล่อยให้โคม่า เพราะเดี๋ยวจะกู่ไม่กลับเอาได้
อาการเตือนว่าควรต้องรีบเปลี่ยน แบตเตอรี่ ลูกใหม่
1. ไฟส่องสว่างในรถเริ่มไม่สว่างเท่าเดิม ข้อนี้ต้องเป็นคนที่ค่อนข้างมีเซ้นในการจับผิดความผิดปกติของรถ เวลาเราใช้รถอยู่ทุกวัน เราจะรู้ตัวเองเสมอว่า ไฟส่องสว่างภายใน เช่น มาตรวัด หรือไม่ก็นาฬิกา หรือไม่ก็ไฟอ่านหนังสือ หรืออาจจะเป็นไฟเรืองแสงสวิทช์ต่างๆ มักจะมีความสว่างลดลง แสดงว่านี่คืออาการเริ่มต้น อย่าปล่อยให้เรื้อรัง รีบนำไปเช็กว่าแบตเตอรี่มีความผิดปกติตรงไหน และต้องเปลี่ยนลูกใหม่มั้ย
2. กระจกไฟฟ้าทำงานอืดกว่าที่เคยเป็นอาการนี้เป็นตัวจับสังเกตได้ดี และง่ายทีเดียว เพราะส่วนใหญ่เรามักจะเปิด-ปิดใช้สวิทช์กระจกไฟฟ้าบ่อยครั้งทุกวัน ถ้าหากกดลง หรือกดขึ้น แล้วกระจกเลื่อนได้ช้ากว่าปกติ โดยให้สังเกตเสียงการทำงานของมอเตอร์ ให้สันนิษฐานว่า อาการเริ่มใกล้มากแล้ว หากดับเครื่องแล้วสตาร์ทใหม่อาจไม่ติดก็เป็นได้
3. เสียงสตาร์ทดัง แชะ..แชะ..แชะเวลาบิดกุญแจ หรือกดปุ่มสตาร์ท หากมีเสียงแชะ แชะ แล้วเครื่องไม่ติด หรือไม่ก็ ไม่มีเสียงสตาร์ทเลย บอกเลยว่า อาการนี้ต้องเปลี่ยนแบตลูกใหม่สถานเดียว เว้นแต่ว่า ก่อนหน้านี้คุณเปิดอุปกรณ์ที่ใช้ไฟ หรือเปิดสวิทช์กุญแจค้างไว้จนแบตหมด หากเป็นอย่างหลังก็ไม่ต้องเปลี่ยน แต่ต้องหาไฟมาพ่วง
4. เสียงหมุนของเครื่องเวลาสตาร์ท อ่อนแรงหากเจออาการที่ว่านี้ แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่า แบตเตอรี่คุณกำลังจะจากโลกนี้ไปแล้ว ถ้าเวลาบิดกุญแจแล้วเสียงสตาร์ทอ่อนแรง ต้องลากกันยาวๆ หากโชคดีเครื่องติดขึ้นมา ก็รอดตัวไป แต่ถ้าไม่ติด แล้วบิดสตาร์ทอีกรอบเสียงยิ่งระโหยโรยแรงไปมากกว่าเก่า อันนี้ต้องรีบพ่วงแบตแล้วไปเปลี่ยนลูกใหม่ซะ