Bentley Bentayga S … ส่วนผสมระหว่างความสปอร์ต และความหรูหรา
Bentley Bentayga S คือ ยนตรกรรมอเนกประสงค์ SUV สายหรู ที่ถูกต่อยอดพัฒนาขึ้นไปอีกระดับ เพื่อการนำเสนอความเร้าใจมากขึ้น ตั้งแต่การปรับโฉมรูปลักษณ์ ซึ่งมีการเพิ่มเติมรายละเอียดความดุดันผ่านการเลือกใช้โทนสีดำ เช่น เลนส์ชุดไฟทั้งด้านหน้า และด้านหลังแบบแบบ Dark Tint, บริเวณคิ้วขอบประตูโทนสีดำ Blackline และฝาครอบกระจกมองข้าง พร้อมล้ออัลลอยด์ที่มากับความใหญ่โตถึง 22 นิ้ว ไล่ไปจนถึงด้านท้ายที่มากับความสะดุดตาจากสปอยเลอร์หลังคาขนาดใหญ่ รับกับคิ้วกันชนท้าย และท่อไอเสียแบบ Sports Exhaust ดีไซน์ใหม่สีดำ ก่อนปิดท้ายด้วยตราสัญลักษณ์ตัวอักษร “S” สีดำ
ภายในห้องโดยสารยังคงมากับคอนเซ็ปต์ความหรูหรา ผสมความสปอร์ต เช่น เบาะนั่งแบบใหม่ตัดเย็บด้วยลวดลายที่มีเอกลักษณ์ รับกับโทนสีใหม่ และการเลือกใช้หนัง Alcantara® มาเป็นวัสดุเพิ่มความรู้สึกเร้าใจ ขณะที่ฟังค์ชั่นการใช้งาน และการอำนวยความสะดวกต่างๆ นั้นยังคงจัดมาให้ตามมาตรฐาน ยนตรกรรมจากค่าย Bentley
ภายใต้ฝากระโปรง คือ ขุมพลังเบนซินเจนเนอเรชั่นล่าสุด ที่มากับพิกัด 4.0 ลิตร แบบ V8 พร้อมระบบอัดอากาศ Twin-Scroll Turbocharged ซึ่งมอบเรี่ยวแรงสูงสุดมาให้ใช้ที่ 550 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร และส่งมอบความดุดันด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 4.5 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดที่ทำได้ 290 กม./ชม.
เสริมด้วยการยกระดับสมรรถนะความสปอร์ต จากการติดตั้งระบบ Bentley Dynamic Ride Active Anti-Roll Control ที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นใหม่เป็นครั้งแรกของโลกที่ใช้ระบบไฟฟ้า 48 โวลท์ทำหน้าที่ควบคุม ซึ่งสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วภายใน 0.3 วินาที ด้วยแรงบิดสูงถึง 1,300 นิวตันเมตร ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ด้วยอาการโคลงที่ลดลง พร้อมทั้งยังเพิ่มหน้าสัมผัสระหว่างยาง และพื้นถนน เพื่อสร้างเสถียรภาพมากขึ้น
รวมไปถึงให้การควบคุมที่ฉับไวขึ้นอีกราว 15% โดยเฉพาะในโหมดการขับขี่แบบ Sport ซึ่งประกอบด้วยผลงานจากระบบช่วงล่าง Air Suspension จากควบคุมของระบบ Electronic Stability Control และการปรับแต่งในสไตล์ Bentley Dynamic Ride Tune ที่มากับความโดดเด่นจากระบบ Bentley’s Torque Vectoring by Brake System ที่จะทำหน้าที่ช่วยสร้างแรงเบรกเบาๆ ให้ล้อหลังด้านในโค้ง เพื่อช่วยเพิ่มความคมให้การเลี้ยวโดยล้อหน้า
นอกจากนี้ Bentayga S ยังสามารถ “ลุย” ในแบบ Off-Road ได้อีกด้วยเช่นกัน จากโปรแกรมการขับขี่ที่มีรูปแบบให้เลือก เช่น Snow and Wet Grass (พื้นผิวหิมะ และพื้นผิวหญ้าเปียก), Dirt and Gravel (พื้นผิวฝุ่น และพื้นผิวกรวด), Mud and Trail (พื้นผิวโคลน หรือการลากจูง) และ Sand (พื้นผิวทราย) ไปจนถึงการลุยน้ำที่ทำได้ลึกถึง 500 เมตรเลยทีเดียว
