Bentley Mulsanne W.O. Edition by Mulliner เหนือชั้นแบบ Limited Edition กับจำนวนเพียง 100 คันในโลก
เบนท์ลี่ย์ ประเทศไทยโดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัว แทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย สร้างบรรทัดฐานใหม่ เอาใจเศรษฐีเมืองไทย ด้วยยนตรกรรมอันทรงคุณค่ากับ Bentley Mulsanne W.O. Edition by Mulliner ในแบบ Limited edition เพียง 100 คัน เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบศตวรรษ
Bentley Mulsanne W.O. Edition by Mulliner เวอร์ชั่นระลึกถึงผู้ก่อตั้ง
ในปี 1919 Walter Owen (W.O.) Bentley ได้ก่อตั้งบริษัทซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการดำเนินธุรกิจที่เรียบง่ายในการสร้างสรรค์ “รถยนต์ที่รวดเร็ว รถยนต์ที่ดีเยี่ยมที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับรถในระดับเดียวกัน” ซึ่งนี่คือหลักปรัชญาในการกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนองค์กรของ Bentley นับแต่นั้นเป็นต้นมา รวมถึงเป็นแรงผลักดัน และพัฒนาจนกระทั่งขึ้นเป็นผู้นำในแวดวงยนตกรรมระดับหรูหราของโลกจวบจนทุกวันนี้
และ Bentley Mulsanne W.O. Edition by Mulliner คือ ผลงานระดับ Masterpiece ที่ถือกำเนิดขึ้นเพื่อระลึกถึง Walter Owen (W.O.) Bentley ซึ่งแตกต่างอย่างเหนือระดับจาก Mulsanne ในสายการผลิตปกติ ด้วยฝีมือของบรรดาดีไซเนอร์จากแผนกตกแต่งพิเศษ Mulliner ที่ทุ่มเทถ่ายทอดทุกแรงบันดาลใจ สู่ยนตรกรรมที่มากับฐานะการครบรอบ 100 ปีตำนานยานยนต์หรูสายพันธ์อังกฤษ ที่จะกลายเป็นสะสมสุดล้ำค่าที่คู่ควรสำหรับนักสะสม
โดย Bentley Mulsanne W.O. Edition by Mulliner ยังคงใช้พื้นฐาน Mulsanne รุ่นปกติที่เปี่ยมด้วยความหรูหราสไตล์ Bentley ผสมผสานด้วยงานฝีมือชั้นเลิศแบบ Handmade ที่ละเอียดพิถีพิถันที่สุดในโลก บนเรือนร่างสีตัวถัง Onyx และสีที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการจาก Bentley’s Extensive Pallet
พร้อมความโดดเด่นจากฝากระโปรงหน้าคาดแถบโครเมียม และตราสัญลักษณ์ Flying B บริเวณกระจังหน้า ตลอดจนช่องดักอากาศกันชนหน้าแบบโครเมียม ซึ่งบ่งบอกความพิเศษด้วยแผ่นเพลทตัวอักษรลายมือชื่อ W.O. Bentley บริเวณด้านล่างของชุดกันชน และตราสัญลักษณ์ครบรอบ 100 ปีบนฝาครอบดุมล้อแบบ Self-Levelling ของล้ออัลลอยด์สีดำลาย Beluga และธรณีประตูทุกตำแหน่ง
ดีไซน์สุดท้ายจากปี 1930 สู่งานชั้น Limited ปี 2019
ไฮไลต์ของ Mulsanne W.O. Edition by Mulliner คือ ภายในห้องโดยสารที่มีจิตวิญญาณของ Bentley ในยุคอดีตรุ่น Bentley 8 Litre ยนตรกรรมสไตล์แกรนทัวริ่งอันยอดเยี่ยมชิ้นสุดท้ายจากงานดีไซน์ของ W.O. Bentley ถูกเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1930 ที่ฝากเอาไว้ให้แก่ Bentley Motors
ซึ่งคันหมายเลขทะเบียน GK 706 คือ โมเดลที่ออกจากสายการผลิตเป็นลำดับ 2 และเป็นรถยนต์ส่วนตัวของ W.O. ที่มี HJ Mulliner เป็นผู้ประดิษฐ์โครงสร้างตัวถังแบบซาลูนขนาด 12 ฟุต เพื่อวางลงบนแชสซีสแบบ Short-Wheelbase และขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ทรงพลังขนาด 8 ลิตร ก่อนมีเหตุจำเป็นให้ต้องขายไปในปี 1931
และได้รับการซื้อกลับมาอีกครั้งโดยบริษัท Bentley Motors ในปี 2006 พร้อมกับซ่อมบำรุง และปรับปรุงสภาพครั้งใหญ่ จนกลายมาเป็น “สัญลักษณ์ประจำตำแหน่ง” ของ Bentley CEO เพื่อเป็นการสืบสานตำนาน และรักษาขนบธรรมเนียมอันยิ่งใหญ่นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ย้อนรำลึกถึงอัจฉริยะภาพอันล้ำเลิศของผู้ก่อตั้งองค์กร โดยทุกวันนี้ได้รับการจัดแสดงไว้ภายในส่วนงาน Bentley Motors Lineage Exhibition ซึ่งตั้งอยู่ภายในสำนักงานใหญ่ ณ ประเทศอังกฤษ
โดยในการบูรณะ Bentley 8 Litre ครั้งนั้น ซิ้นส่วนสำคัญก็คือ “เพลาข้อเหวี่ยง” ที่ต้องเปลี่ยนชุดใหม่ แทนของเดิมอันเป็นตำนาน และกลายมาเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนสำคัญที่ได้ถูกบรรจุลงไปในบริเวณที่ท้าวแขนของโมเดลล่าสุด Bentley Mulsanne W.O. Edition by Mulliner ซึ่งเปิดเผยความงดงามด้วยกรอบกระจกใส โดยมีด้านล่างของกรอบกระจกติดตั้งแผ่นโลหะจารึกลวดลายที่แสดงออกถึงประดิษฐ์ศิลป์แห่งยนตกรรมสไตล์ Bentley
ซึ่งได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางสำคัญในการดีไซน์ภายในห้องโดยสาร ที่เน้นความร่วมสมัยสไตล์คลาสสิคแบบเดียวกับยุค 1930 เช่น การใช้งานไม้ประดับมุกของชุดเก็บอุปกรณ์ Cocktail Cabinet ที่ผลิตขึ้นอย่างประณีต เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์ของ Bentley 8 Litre อย่างกระจังหน้าลาย Matrix และโคมไฟคู่หน้า
ทั้งยังมีการใช้วัสดุคุณภาพสูงจำนวนมากที่นำมาใข้ตกแต่งทุกตารางนิ้ว รวมถึงวัสดุอลูมิเนียมที่เสริมแต่ง ตลอดจนการใช้ลวดลายสไตล์ Diamond เพื่อสร้างอารมณ์เรียบบหรู สื่อถึงความร่วมสมัยของศิลปะ Art Deco ทรงคุณค่า และการประดับลายมือชื่อของ W.O. ในหลากหลายจุดของห้องโดยสาร
ส่วนโทนสีมากับความน่าหลงใหล ด้วยเฉดแดง Fireglow Heritage และ Fireglow Hide พร้อมรายละเอียดการตัดเย็บตะเข็บสี Beluga, ลายไม้ Dark Stain Burr Walnut สีเข้ม และพรมปูพื้นขนแกะสีแดง ไม่เว้นแม้แต่ที่วางแก้วดีไซน์เรียบหรู จนถึงม่านบังสายตา เพื่อให้เพลิดเพลินกับระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารตอนหลังได้อย่างเต็มที่