รีวิว : BMW 730Ld ตอนที่ 3 Performance
หลังจากขึ้นมาบน BMW 730Ld เหยียบเบรก กดปุ่ม Start Engine เรียบร้อย ก็กดปุ่ม “ P ” เผื่อปลดเบรคมือที่อยู่ข้างคอนโซล กดปุ่มข้างคันเกียร์ลากลงมาที่ “ D ” ก็พร้อมออกเดินทาง
Journey First Class In Car
แต่ก่อนจะไปเรามารู้จักกับเครื่องยนต์ที่อยู่ใต้ฝากระโปรงก่อน เครื่องยนต์ดีเซลใหม่แบบ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบา พร้อมด้วยเทคโนโลยีอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผันและเทคโนโลยีระบบฉีดน้ำมันด้วยหัวฉีด Piezo ที่สามารถฉีดน้ำมันด้วยแรงดันสูงถึง 1,800 บาร์ เครื่องยนต์ดีเซลที่มีน้ำหนักเพียงแค่ 185 กิโลกรัมเครื่องนี้สามารถผลิตแรงบิดมหาศาลถึง 540 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์ 1,750-2,500 รอบและกำลังสูงสุดถึง 218 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติไฟฟ้า 6 สปีด ซึ่งถือว่าเป็นรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีสูงสุดคันหนึ่งที่มีการประกอบขึ้นในเมืองไทย เราจะออกเดินทางไปจังหวัดระยองกัน
เครื่องยนต์
พอถึงทางด่วนเส้นบางปะกงไม่รอช้าครับ ลองจับความเร็วจาก 0-100 กม.ชม. ดูประมาณ 8.1 วินาที แต่ไม่น่าเชื่อว่าเครื่องยนต์แค่ 218 แรงม้าดีเซล จะสามารถลากตัวถังที่มีความหนักขนาดนี้ได้ปลิวเลยทีเดียว คืออารมณ์เวลากดคันเร่งจมหลังติดเบาะเลยครับ ผมลองเปลี่ยนมาใช้โหมด Manual ดูบ้าง ทำได้โดยง่ายแค่พลักคันเกียร์ออกไปด้านซ้าย แล้วก็ใช้ “ + ” และ “ – ” ก็จะได้อารมณ์การขับขี่ที่สนุกขึ้น พอเข้าถนนเส้นผ่านหน้าสนามพีระฯ ถนนก็โล่งเป็นใจให้ลองความเร็วสูงสุดพอดี จากที่ผมอยู่ความเร็วประมาณ 60 กม.ชม. กดคันเร่งจมลองไปไม่นานก็ทะลุ 200 กม.ชม. แบบไม่รู้ตัว คือมองทางผ่านกระจกรู้สึกว่าไม่เร็วเท่าไร เพราะตัวรถนิ่งมาก ต่อจากนั้นไม่นานผมก็มาอยู่ที่ความเร็ว 235 กม.ชม. แล้วก็ขับด้วยความเร็วนี้ประมาณ 2 กม. ก็โดนพี่ตำรวจเรียก คงไม่ต้องถามว่าผมผิดข้อหาอะไร แต่เพื่อความกระจ่างแก่ใจก็เลยถามว่าผมวิ่งมาเร็วเท่าไร เครื่องมือของตำรวจแจ้งว่า 232 กม.ชม. ถือว่าคุมครับสำหรับค่าปรับ 400 บาท ในเรื่องอัตราเร่งถือว่าต่างจากรถหรู..หรูทั่วไปมาก เพราะอัตราเร่งขึ้นเร็วมากจริง..จริง เรียกได้ว่าเป็นรถที่ขับมันส์เลย ถ้าหลับตาลืมความใหญ่โตไปซะก็นึกว่าขับรถสปอร์ตอยู่
เรื่องเสียงลมหรือเสียงเครื่องไม่มีโอกาสเล็ดลอดเข้ามาให้ได้ยิน ห้องโดยสารเก็บเสียงอย่างดี พอมาถึงระยองขอแวะสักเดี๋ยวไปซื้อขนมมาทานในรถดีกว่าจะได้ลองไปนั่งข้างหลังดูบ้าง แน่นอนต้องลองเปิด TV ดู ปุ่มเปิดหาไม่อยากครับ อยู่ตรงช่องแอร์ด้านหลัง ทำงานแยกกันระหว่างซ้าย-ขวา แต่ต้องมาใช้ปุ่มควบคุมตรงที่เท้าแขวนอันเดียวกัน เบาะสามารถปรับระดับไฟฟ้าจนคุณพอใจครับ ถือว่านั่งสบายกว่าโซฟาที่บ้านอีก
