BMW X2 … ภาระกิจการสานต่อความยอดเยี่ยมของรถอเนกประสงค์ Sport Activity Vehicle
จากครอบครัวตระกูล X ของแบรนด์ BMW ที่เคยมีกันเพียง X1, X3, X4, X5 และ X6 ล่าสุดค่ายใบพัดฟ้า-ขาว เผยทายาทใหม่ออกมาให้ชม พร้อมรายละเอียดกันแล้วกับ BMW X2 ผู้มาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของไลน์อัพรถอเนกประสงค์ Sport Activity Vehicle … ซึ่งบอกได้เลยว่าไม่นานเกินรอ สำหรับสาวก Bimmer ชาวไทย เพราะ BMW Thailand จัดให้แน่นอน
BMW X2 รถอเนกประสงค์ ผู้มากับสไตล์จากรุ่นพี่
งานดีไซน์ของ X2 นั้น เรียกได้ว่าเป็นรถ Sports Activity Coupe ด้วยการหยิบยืมสไตล์จากรุ่นพี่มาใช้ก็ได้ โดยมีแนวทางมาจาก X4 และ X6 เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่มุมมองจากด้านหลังของ X2 จะมากับรูปทรงแบบ Coupe บนมิติตัวถังความยาว 4,360 มม. ความกว้าง 1,824 มม. ความสูง 1,526 มม.
ซึ่งจะมีความต่างจาก BMW X1 เล็กน้อย คือ ความยาวสั้นลง 2 ซม. และความสูงที่ลดลงอีก 7 ซม. ส่วนความยาวฐานล้อนั้นมีขนาดเท่ากันที่ 2,670 มม. พร้อมด้วยการกำหนดให้มีระยะโอเวอร์แฮ็งค์ที่สั้น เส้นสายงานดีไซน์ที่ดูสปอร์ต แข็งแกร่ง
ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศเพียง 0.28 Cd คือ ผลงานจากรายละเอียดงานดีไซน์ที่ผสมผสานความทันสมัย และความสปอร์ตอย่างลงตัว เช่น ในส่วนของกระจังหน้าไตคู่ดีไซน์ใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งยังเป็นครั้งแรกที่ออกแบบให้ส่วนล่างของตัวกระจังมีความยาวกว่าด้านบน พร้อมด้วยการสร้างความโดดเด่นด้วยซี่กระจังโทนสีดำเงา High-gloss Black และขอบโครเมี่ยม
ในส่วนของชุดกันชนหน้านั้นมากับช่องดักอากาศทรง 6 เหลี่ยม และจะรับการตกแต่งในสไตล์ที่ต่างกันตามแต่ละรุ่นย่อย คือ Sport, M Sport และ M Sport X นอกจากนี้ทุกรุ่นยังได้รับการติดตั้งชุดไฟหน้าแบบ LED และชุดไฟ Daytime Driving Light แบบ LED มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
โดยสำหรับรุ่นย่อย M Sport และ M Sport X นั้นจะมากับความหล่อเต็มขั้นด้วยล้ออัลลอยด์ขนาด 19 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และมีขนาด 20 นิ้วเป็นออพชั่นให้เลือก ส่วนรุ่นเริ่มต้นนั้นจะมากับขนาด 17 นิ้วลาย V-Spoke อีกทั้งแต่ละลายของล้อนั้นยังมากับงานดีไซน์ให้เข้ากันกับชุดสเกิร์ตด้านข้าง ซึ่งในรุ่น SE และรุ่น Sport จะมากับโทนสีดำ ในขณะที่เวอร์ชั่น M Sport X จะมากับโทนสีเทา Frozen Grey
ทางด้านหลังนั้นมากับจุดเด่นหลักๆ คือ เสา C-Pillars ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากสิ่งที่เรียกว่า BMW Hofmeister ซึ่งเป็นงานดีไซน์สไตล์รุ่นพี่ในอดีตอย่าง BMW 2000 CS หรือ BMW 3.0 CSL และนำมาใช้เป็นครั้งแรก พร้อมกับเพิ่มความทันสมัยเข้าไปด้วยแนวเส้นหลังคาสไตล์ Coupe ที่เสริมด้วยสปอยเลอร์ด้านหลัง
รวมไปถึงชุดกันชนหลังที่ออกแบบให้ดูแข็งแกร่ง และทำให้ตัวรถดูกว้างขึ้น โดยในรุ่น SE และ Sport ได้เพิ่มความสะดุดตาด้วยการตกแต่งจากโทนสีดำ Matt Black ในขณะที่รุ่น M Sport นั้นมากับดีไซน์ที่ดูคล้ายกับ Diffuser และเลือกใช้โทนเข้มแบบ Dark Shadow Metallic เพิ่มความดุ
ปิดท้ายด้วยรุ่น M Sport X ที่ติดตั้ง Diffuser หลังโทนสีเทา Frozen Grey มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ตามด้วยจุดเด่นอย่างชุดไฟท้ายรูปทรง L shape แบบ LED และชุดท่อไอเสียคู่ทรงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 90 มม.
มาตรฐานรถ Sport Activity Vehicle และดีไซน์ต่างตามรุ่นย่อย
X2 มากับภายในห้องโดยสารที่อัดแน่นด้วยคุณภาพวัสดุในทุกรุ่น แต่จะมีสไตล์ที่ต่างกันตามแต่ละรุ่นย่อย โดยมีไฮไลต์เป็นรุ่นท็อปเกรด อย่าง M Sport ที่มากับวัสดุผ้า Micro Hexagon Fabric Anthracite ผสมหนัง Alcantara เดินด้ายสีเหลือง หรือฟ้าตามแต่จะเลือกในขณะที่รุ่นสูงสุดอย่าง M Sport X จะมากับวัสดุหนัง Dakota พร้อมด้วยการตกแต่งรายละเอียดด้วยวัสดุสีดำเงา High-gloss Black, อลูมิเนียม และลายไม้สีน้ำตาลด้าน Matt Oak Grain
ส่วนความสะดวสบายนั้นมากับสไตล์ของรถอเนกประสงค์ด้วยห้องเก็บสัมภาระด้านหลังขนาด 470 ลิตร และเพิ่มเป็น 1,355 ลิตรได้ด้วยการปรับพับแบบ 40:20:40 รวมไปถึงออพชั่นอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ระบบ BMW ConnectedDrive และ BMW Connected ซึ่งควบคุมผ่าน iDrive Control เจนเนอเรชั่นที่ 6 โดยแสดงผลผ่านหน้าขอ Touch Control Display ขนาด 6.5 นิ้วบนคอนโซลหน้า ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่บานหลังคา Panoramic Roof ขนาดใหญ่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า
เวอร์ชั่น UK เน้นความสะใจในแบบ “ดีเซล TwinPower Turbo”
ในด้านสมรรถนะของ X2 นั้นยังคงพกพาความเร้าใจมาให้เมพิกัดด้วยเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ 3 โหมดหลักๆ คือ Eco Pro, Comfort และ Sport นอกจากนี้ยังเพิ่มความพิเศษให้กับรุ่นท็อปเกรดอย่าง M Sport และ M Sport X โดยการติดตั้งระบบช่วงล่างแบบ M Sport Suspension มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งจะช่วยลดระดับความสูงตัวรถลงมาอีก 10 มม.
โดยในเวอร์ชั่น UK ที่เปิดตัวนั้นจะมากับขุมพลังสุดเร้าใจด้วยเครื่องยนต์ดีเซล TwinPower Turbo ซึ่งจะมี 2 รุ่นเครื่องยนต์ให้เลือก เริ่มต้นกับรุ่นย่อย xDrive20d ที่มีกำลังที่ 190 แรงม้า และมีแรงบิดสูงถึง 400 นิวตันเมตร โดยทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 7.7 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยูที่ 221 กม./ชม.
ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic พร้อม Paddle Shift สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive ที่มาพร้อมการติดตั้งระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Descent Control มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
หลังจากนั้นจะมีรุ่นย่อยอื่นๆ เพิ่มเติมเข้ามาในไลน์อัพ คือ เครื่องยนต์เบนซินในรุ่น sDrive20i ตามด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ขับเคลื่อน 2 ล้ออย่าง sDrive18d และขับเคลื่อน 4 ล้ออย่าง xDrive18d