BMW i7 … เปิดศักราชใหม่ ยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยม พลังไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดตัวยนตรกรรมซีดานพรีเมี่ยมขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นล่าสุด BMW i7 ภายใต้แนวคิด “FORWARDISM” ตอกย้ำความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการก้าวสู่ศักราชใหม่แห่งสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ และการขับเคลื่อน

BMW i7

 นำเสนอผ่าน 3 รุ่นย่อย คือ i7 xDrive60 M Sport (First Edition) ราคา 7,599,000 บาท พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard, i7 xDrive60 M Sport ราคา 7,849,000 บาท พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard และ i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso ราคา 8,599,000 บาท พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard

BMW i7

โดยจุดเด่นที่สำคัญก็คือ การอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ที่เน้นการใช้งาน ผสมผสานด้วยด้วยความหรูหราของการออกแบบทั้งภายนอก และภายใน ตลอดจนกลิ่นอายความสปอร์ตที่สัมผัสได้จากการเลือกวัสดุตกแต่งภายนอกโทนสีดำเงา และสปอยเลอร์หลังดีไซน์ M ที่ลงตัวกับรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวปราดเปรียวบริเวณตัวถังด้านหลัง

BMW i7

ซึ่งมีการเพิ่มเส้นสายแนวนอน เข้าไปเพื่อสร้างความมอบความรู้สึกกว้างขวาง โอ่อ่า และทรงพลัง เช่น ชุดไฟท้ายทรง “L” พร้อมงานดีไซน์รูปทรงเรขาคณิตแบบกระจกเป็นครั้งแรก ตามด้วยการตกแต่งจากวัสดุโครเมี่ยมบริเวณด้านล่างเพื่อสะท้อนความสง่างาม

BMW i7

ในมุมมองด้านหน้าได้รับการตีความใหม่ทั้งหมด เพื่อสะท้อนรูปลักษณ์ให้ทันสมัย และโดดเด่นยิ่งขึ้น เช่น การออกแบบไฟหน้าทรงกลมแบบ Adaptive LED พร้อมระบบปรับองศา ผลิตขึ้นจากคริสตัลสวารอฟสกี้ “Iconic Glow” และไฟ LED จำนวน 22 ดวง ที่ส่องสว่างผ่านคริสตัลจากด้านหลัง ส่วนกระจังหน้าอันเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมกรอบเรืองแสง เพื่อมอบความงดงามตระการตา ด้วยความสามารถในการแสดงกราฟฟิกแสงระยิบระยับ เมื่อผู้ขับขี่เข้าใกล้ตัวรถ ตั้งแต่กระจังหน้าทรงไตคู่ไปจนถึงไฟหน้าคริสตัล และไฟส่องพื้นอีกด้วย

BMW i7

นอกจากนี้ฟีเจอร์สำคัญๆ ก็ยังคงติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น ระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System) เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถปลดล็อก และสตาร์ทรถได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ พร้อมระบบช่วยผ่อนแรงกระแทกขณะปิดประตูที่ทำได้อย่างเงียบ และนุ่มนวล โดยใน i7 xDrive60 M Sport และ i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso จะมาพร้อมกับระบบเปิด และปิดประตูอัตโนมัติ ช่วยพิ่มความสะดวกสบายได้มากขึ้น

BMW i7

ภายในห้องโดยสารมากับความเพลิดเพลินในการขับขี่ที่มากขึ้นไปอีกขั้น ด้วยเบาะนั่งแบบมัลติฟังค์ชั่น ที่มีระบบนวดผ่อนคลาย สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหลัง รวมถึงระบบอุ่นเบาะทุกที่นั่ง, ระบบระบายอากาศ สำหรับเบาะที่นั่ง และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 โซน

BMW i7

ตามด้วยระบบ BMW Live Cockpit Professional ที่แสดงข้อมูลรถยนต์ได้โดยไม่รบกวนสมาธิระหว่างขับขี่,  ระบบ BMW ConnectedDrive รวบรวมบริการดิจิทัลที่เชื่อมต่อรถยนต์กับโลกภายนอกอย่างชาญฉลาด ไปจนถึงระบบตรวจสอบระยะไกล Telematics Service และการให้บริการด้านการจราจร ตลอดจนความสะดวกสบายจากระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่, การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มือถือ และระบบความบันเทิงจากเครื่องเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Bowers & Wilkins Diamond ให้เพลิดเพลินไปกับคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด จากลำโพงที่ติดตั้งมาให้รวมทั้งหมดกว่า 39 ตัว

BMW i7

นอกจากนี้ในห้องโดยสารด้านหลัง ยังมากับระบบความบันเทิงอันโดดเด่นด้วย BMW Theatre Screen หน้าจอแบบพาโนรามาขนาด 31.3 นิ้ว มาในรูปแบบ 32:9 และความละเอียดระดับ 8K ที่ทอดยาวลงมาจากหลังคา เพื่อแปลงโฉมที่นั่งตอนหลังให้เป็นโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ส่วนตัวสุดพิเศษ

BMW i7

ซึ่งในส่วนของหลังคาเองก็ไม่ธรรมดา เพราะออกแบบใหม่ให้เป็นกระจกพาโนรามา “Sky Lounge” พร้อมเส้นแสง LED อัจฉริยะที่ปรับเปลี่ยนได้ เติมเต็มให้บรรยากาศในห้องโดยสารให้หรูหรามากขึ้นไปอีกระดับ และลงตัวกับการตกแต่งที่มาพร้อมวัสดุบุหลังคาแบบ M Alcantara รวมถึงการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ถักด้วยวัสดุสีเงินแบบ M และคอนโซลกลางสีดำเงาแบบ Piano Finish Black

BMW i7

เทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ล่าสุด คือ อีกหนึ่งจุดเด่นที่ไม่ควรพลาด อาทิ ระบบ My Modes รุ่นใหม่ และระบบปฏิบัติการ BMW iDrive รุ่นล่าสุด ทั้งยังครบครันด้วยอุปกรณ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น จอแสดงผลดิจิทัลแบบโค้ง BMW Curved Display,แถบ BMW Interaction Bar, ระบบผู้ช่วย BMW Intelligent Personal Assistant ที่พัฒนาขึ้นใหม่, หน้าจอ BMW Head-up Display และฟังค์ชั่น Augmented View ที่ติดตั้งมาเป็นครั้งแรกบนจอแสดงข้อมูลหลังพวงมาลัย ตลอดจนระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ BMW IconicSounds Electric จาก Hans Zimmer ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีเอกลักษณ์สำหรับทุกโหมดการขับขี่

BMW i7

ขุมพลังของ i7 มากับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้พละกำลังรวม 544 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 745 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไฟฟ้า BMW xDrive และเทคโนโลยี BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 พร้อมแบตเตอรี่แรงดันสูงที่ 105.7 KW/h และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ส่งผลให้อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 19.6-18.4 KW/h /100 กิโลเมตร สามารถทำระยะทางขับเคลื่อนตามมาตรฐาน WLTP ได้สูงสุดที่ 625 กม. ส่วนอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ภายในเวลาเพียง 4.7 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 240 กม./ชม.

BMW i7

ทั้งยังมาพร้อมระบบช่วยการขับขี่รุ่น Professional, ระบบควบคุุมความเร็วอัตโนมัติ และฟังค์ชั่น Stop & Go ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่อการเข้าโค้งหรือเลี้ยว (Integral Active Steering)ส่วนระบบช่วงล่างทั้ง 3 รุ่นจะมากับถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ ซึ่งในรุ่นย่อย Gran Lusso เสริมด้วยระบบควบคุมช่วงล่าง Executive Drive Pro ที่ติดตั้งมาเป็นพิเศษ

BMW i7

ตลอดจนระบบความปลอดภัยอัจฉริยะสุดล้ำ ทั้งจากเซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor), ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection), ระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง, ระบบปกป้องคนเดินถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ทำงานร่วมกับระบบ Anti-lock Braking System (ABS) และระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist)

BMW i7

ราคารถใหม่

BMW รุ่น i7 xDrive60 M Sport (First Edition) ราคา 7,599,000 บาท พร้อม BSI Standard

BMW รุ่น i7 xDrive60 M Sport ราคา 7,849,000 บาท พร้อม BSI Standard

BMW รุ่น i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso ราคา 8,599,000 บาท พร้อม BSI Standard