BMW M2 Competition เวอร์ชั่นอัพเกรดสไตล์โหด ที่สาวก Bimmer ทั่วโลกตั้งตารอ
BMW M GmbH ปล่อยของเอาใจสาวก Bimmer ทั่วโลก ด้วยโมเดลล่าสุด BMW M2 Competition เวอร์ชั่นโหดจากพื้นฐานของ M2 Coupe ที่มาพร้อมความโดดเด่นในรูปลักษณ์ และเขี้ยวเล็บใหม่ที่อัพเกรดให้สมรรถนะร้ายกาจขึ้นอีกขั้น
สลัดคราบ M2 พื้นฐาน สู่ความดุแบบ BMW M2 Competition
จุดเด่นหลักๆ ของ BMW M2 Competition ที่ยั่วใจสาวก Bimmer ไปทั่วโลกก็คือ ขุมพลังบล็อคใหม่ที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับรุ่นพี่อย่าง BMW M3 และ BMW M4 แบบเบนซิน 6 สูบพ่วงระบบอัดอากาศ M TwinPower Turbo ที่ยังคงสืบสานแนวทางมาจากสนามแข่งเช่นเดิม ตั้งแต่ระบบฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และระบบระบายความร้อน
ซึ่งพ่นเรี่ยวแรงออกมาให้ใช้มากกว่าเดิมจากรุ่นพื้นฐาน คือ 370 แรงม้า พร้อมแรงบิด 465 นิวตันเมตรที่ Overboost เป็น 500 นิวตันเมตร ให้ขยับขึ้นไปถึงระดับ 410 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดแตะ 550 นิวตันเมตร ส่วนระบบส่งกำลังนั้นมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ M DCT ส่งกำลังสู่ล้อหลัง โดยในเกียร์ธรรมดานั้นสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 4.4 วินาที
ส่วนเกียร์อัตโนมัติ M DCT – Double Clutch Transmission นั้นมากับความจัดจ้านกว่าด้วยเวลาเพียง 4.2 วินาที พร้อมโหมดการขับขี่ Drivelogic ที่มีให้เลือก 3 รูปแบบ คือ Comfort, Sport และ Sport+ ในขณะที่ตัวเลขท็อปสปีดนั้นเท่ากันที่ 250 กม./ชม. เว้นแต่จัดออพชั่น M Driver’s Package เพิ่มเติมเข้าไปจึงจะขยับไปที่ 280 กม./ชม.
ทั้งยังมาพร้อมกับระบบล็อคเฟืองท้าย Active M Differential และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Dynamic Steering Control (DSC) ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ตามด้วยระบบช่วงล่างที่อัพเกรดใหม่เป็นวัสดุอลูมิเนียม เพื่อลดน้ำหนัก
ปรับรูปลักษณ์ เพื่อสื่อความเป็นเวอร์ชั่นพิเศษ และการอัพเกรดสมรรถนะ
มุมมองภายนอกของ M2 Competition นั้นมาจากการอัพเกรดขึ้นใหม่จากพื้นฐานของ M3 เช่น ด้านหน้าที่เปลี่ยนชุดกระจังใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และดุดันขึ้นด้วยโทนสีดำเงา High-Gloss Shadow Line Black พร้อมด้วยการปรับดีไซน์ของชุดกันชนหน้า และช่องดักอากาศด้านข้างใหม่ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับลมเพื่อระบายความร้อนได้ดีขึ้น
ในด้านหลังยังมากับการออกแบบชุดกันชนใหม่ พร้อมการตกแต่งในส่วนกึ่งกลางกันชนด้วยวัสดุโทนสีเข้มสไตล์ M Competition เพื่อให้รับกับชุดไอเสียแบบท่อคู่ซ้าย-ขวา ซึ่งชุดท่อไอเสียนี้จะมากับวาล์วเปิด-ปิด ควบคุมด้วยระบบอิเล็คทรอนิคส์ สำหรับสร้างสุ้มเสียงอันเร้าใจ
สำหรับมุมมองจากด้านข้างนั้นสะดุดสายตาด้วยกระจกมองข้างแบบ Double-Arm ดีไซน์ใหม่ ที่ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ รวมถึงล้ออัลลอยด์ขนาดใหญ่ที่มากับขนาด 19 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งฝังชุดเบรก M Sport สมรรถนะสูงรุ่นใหม่ล่าสุดไว้ภายใน โดยมีขนาด 400 มม. จับคู่คาลิปเปอร์ 6 Pot ไว้ที่ด้านหน้า และขนาด 380 มม. คู่กับคาลิปเปอร์แบบ 4 Pot ในด้านหลัง
Lightweight Technology ยังเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญของ M2 Competition ซึ่งได้รับการปรับเปลี่ยนไปใช้วัสดุ CFRP คาร์บอนไฟเบอร์ผสมพลาสติกเช่นเดียวรุ่นพี่อย่าง M3 และ M4 โดยเฉพาะในส่วนของบริเวณห้องเครื่องยนต์ ซึ่งนอกจากช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งแล้ว ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการควบคุมรถจากระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า M Servotronic ที่มาฟังค์ชั่นสำหรับปรับแต่งที่เรียกว่า MDM – M Dynamic Mode ได้ดียิ่งขึ้น
และ BMW M2 ยังเป็นโมเดลแรกของค่ายที่มากับการติดตั้งปุ่ม M Dynamic Performance Control บนคอนโซลกลาง สำหรับเลือกปรับโหมดสไตล์การขับขี่ที่ชื่นชอบ ซึ่งสามารถ Memory ความจำได้ถึง 2 ตำแหน่ง และเรียกใช้ได้อย่างง่ายดายจากปุ่ม M1 และ M2 บนพวงมาลัย
ในขณะที่ออพชั่นอันโดดเด่นอื่นๆ นั้นประกอบด้วย ปุ่ม Start/Stop Button สีแดงสด, ชุดไฟหน้าแบบ Adaptive LED และระบบควบคุมระยะการจอดด้านหน้า Front Park Distance Control
พร้อมด้วยภายในห้องโดยสารที่มากับสไตล์สปอร์ตเต็มรูปแบบ เช่น ชุดเบาะนั่งสปอร์ตหุ้มด้วยวัสดุหนังคุณภาพพรีเมี่ยมีดำ ตัดเย็บด้วยด้ายที่มีให้เลือก 2 สี คือ สีส้ม และสีน้ำเงิน แต่ถ้าเลือกจ่ายเพิ่มคุณจะได้ออพชั่นเป็นเบาะนั่ง M Sport Seat แบบ Bucket-Style ที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากงานมอเตอร์สปอร์ต พร้อมการประทับตราสัญลักษณ์ที่พนักพิง
รวมถึงการตัดเย็บ และตกแต่งที่มีให้เลือก 2 สี คือ สีส้ม สีน้ำเงิน เช่นกัน สำหรับส่วนของการตกแต่งอื่นๆ ก็จะประกอบด้วยแป้นเหยียบแบบ M, แผ่นรองเข่าข้างคอนโซลกลาง และกาบบันไดที่มาพร้อมสัญลักษณ์ M2 Competition
เรียกได้ว่าใส่ของมาให้แบบครบๆ ทีเดียวสำหรับ M2 Competition ซึ่งน่าจะเป็นอะไรที่ “ยั่ว” สาวก Bimmer ชาวไทยไม่น้อยทีเดียว แถมยังมั่นใจได้แน่นอนว่า BMW Thailand คงไม่พลาดที่จะนำเจ้าน้องเล็กเวอร์ชั่นพิเศษนี้เข้ามาจำหน่ายเศรษฐีชาวไทยได้มีโอกาสเป็นเจ้าของ
แต่งานนี้คงไม่ง่ายนัก เพราะเจ้าด้วยความ “พิเศษ” เต็มข้อ จึงทำให้น่าจะเป็นโมเดลที่มีการจำกัดการผลิต และโควต้าในการจำหน่ายในแต่ละประเทศ ฉะนั้นใครอยากได้ก็ให้ “รีบ” หน่อยแล้วกัน