รีวิว : BMW X1 sDrive 20d นำสมัย ปราดเปรียวคล่องตัว และต้องมีความเป็นอเนกประสงค์สำหรับไลฟ์สไตล์คนเมือง
ภาวะน้ำท่วมที่เกินขึ้นในบ้านเรานี้…ทำให้ทัศนคติในการเลือกซื้อรถยนต์ของผู้บริโภค เปลี่ยนแปลงไปมาก จากที่เคยคิดซื้อรถซีดานหรูมาใช้ อาจต้องเปลี่ยนใจหันมามอง SUV กันบ้างแล้ว ฉบับนี้ผมจึงนำ SUV ราคาเบาๆ ของค่ายใบพัดสีฟ้า ในรุ่น BMW X1 sDrive 20d มาให้ทุกท่านได้ลองสัมผัสไปพร้อมๆ กันกับผมครับ
The new formula for joy
พูดถึงรถในสไตล์ SUV ที่เรารู้จักกันดี ถ้ามาจากค่าย BMW เค้าจะเรียกกันว่า SAV ( Sport Activity Vehicles ) ซึ่งเป็นคำจำกัดความของตัวรถสไตล์นี้ ที่ทาง BMW บรรหยัดขึ้นมาเองเพื่อให้เหมาะกับคุณสมบัติของตัวรถมากที่สุด ก่อนที่จะไปเริ่มดูรายละเอียดกัน เรามาดูคอนเซ็ปต์ของ BMW X1 sDrive 20d ก่อน ซึ่งเป็นรถอเนกประสงค์แบบครอสโอเวอร์ เน้นความนำสมัย ปราดเปรียวคล่องตัว และต้องมีความเป็นอเนกประสงค์สำหรับไลฟ์สไตล์คนเมือง พร้อมความโดดเด่นด้วยอารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ตเต็มขั้นในสไตล์ของ BMW
Off-Roader of the Year
นอกจากนั้นยังมีการันตีจาก “Off-Roader of the Year” โดยนิตยสาร Off Road ในคลาส Crossover ทาง BMW ก็ได้ตำแหน่งที่ 1 ไปครอง โดยชนะใจผู้มีสิทธิ์โหวตด้านความปราดเปรียวคล่องตัว คุณสมบัติการขับขี่ที่ผสมผสานความสปอร์ต และตำแหน่งการขับที่ให้ทัศนวิสัยที่ดี นอกจากนั้น BMW X1 ยังเป็นรถอเนกประสงค์แบบครอสโอเวอร์ที่มีอัตราการประหยัดน้ำมันที่น่าประทับใจที่สุดใน คลาสอีกด้วย และในด้านความปลอดภัย BMW X1 ยังผ่านมาตรฐานการทดสอบชน EuroNCAP ระดับ 5 ดาว
รูปลักษณ์ภายนอก
ในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก BMW X1 sDrive 20d เป็นรถสไตล์ครอสโอเวอร์ที่สามารถผสมผสานความสปอร์ตและความล้ำสมัย ได้อย่างลงตัว BMW X1 ได้เอาคุณสมบัติที่โดดเด่นของรถยนต์อเนกประสงค์อย่างความบึกบึน ความสูงของใต้ท้องรถ และตำแหน่งนั่งขับสูงผนวกรวมเข้ากับคุณสมบัติของรถยนต์แบบสปอร์ตซาลูน เช่น โอเวอร์แฮงค์สั้น ฐานล้อยาวได้อย่างสมบูรณ์แบบ รูปทรงของ BMW X1 มีสัดส่วนที่เน้นถึงความสปอร์ตล้ำสมัย ด้วยความยาวตัวรถ 4.45 เมตร ความยาวฐานล้อ 2.76 เมตร ฝากระโปรงหน้ายาว และแนวหลังคาลาดเอียงลงในด้านท้าย มันจึงมีรูปลักษณ์ที่สะท้อนถึงความสปอร์ตได้อย่างมีสไตล์ ในขณะเดียวกันมันก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของรถบีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ย์ X ไว้อย่างเหนียวแน่น ทั้งซุ้มล้อทรงเหลี่ยมที่บึกบึน พื้นผิวตัวถังเน้นเหลี่ยมสัน และสัญลักษณ์ไตคู่ของ BMW ขนาดใหญ่มีมาครบทุกจุดครับ
Joy is always simple.
มาชมภายในซึ่งยังคงเอกลักษณ์ของ BMW ไว้เช่นเดิม สะท้อนแนวทางของรถครอสโอเวอร์ที่ผสมผสานความสปอร์ตและความอเนกประสงค์ได้ อย่างไร้ที่ติ ตำแหน่งการนั่งขับสูงตามสไตล์ Semi-Command ซึ่งนอกจากทำให้ผู้ขับขี่มีทัศนวิสัยที่ดีแล้ว ยังเป็นระดับความสูงที่สะดวกในการขึ้น-ลงรถด้วย ตำแหน่งของอุปกรณ์แสดงผลและปุ่มบังคับควบคุมต่างๆ ถูกวางไว้อย่างเหมาะสม ใช้งานง่ายสะดวกมือ ส่วนคอนโซลกลางและแดชบอร์ดที่เอียงทำมุมเข้าหาผู้ขับ ให้ความรู้สึกเฉกเช่นรถสปอร์ต
ภายใน
พระเอกของภายในคงหนีไม่พ้น iDrive ซึ่งเราน่าจะมาทำความรู้จักกับ iDrive ในรถ BMW กันสักหน่อยครับ แน่นอนว่าตอนนี้รถ BMW รุ่นใหม่ๆจะมี iDrive ติดมาให้เกือบทุกคันแล้ว ซึ่งตัว iDrive นี้ดีอย่างไรเราไปดูกันครับ ระบบ iDrive คือ นวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่บริษัท BMW ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการสื่อสารระหว่างเครื่องจักรกลและมนุษย์ มันคือ ปุ่มอลูมิเนียมสีเงินที่สามารถเชื่อมต่อระหว่างผู้ขับขี่กับการใช้งานได้เกือบทุกระบบของรถ BMW ซึ่งเป็นการสื่อสารและใช้งานในลักษณะเดียวกันกับระบบคอมพิวเตอร์ที่พบเห็นได้ทั่วไปในชีวิต ประจำวัน
การใช้งานปุ่มควบคุม iDrive จะมีความใกล้เคียงกับการใช้เมาส์ของคอมพิวเตอร์ จึงทำให้มันเป็นระบบที่ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงระบบต่างๆในรถเพื่อปรับแต่ง หรือดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ใช้งาน เพื่อรับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น การปรับแต่งผ่าน BMW Connected Drive ของระบบ iDrive สามารถเข้าถึงระบบต่างๆ ที่มีตัวเซนเซอร์อิเล็กทรอนิกส์ควบคุมเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนค่าตามความต้องการได้ อย่างสะดวกเช่น ปรับโหมดของการขับขี่,การปรับแต่งทิศทางลมและอุณหภูมิของระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล,ระบบเครื่องเสียงภายในห้องโดยสารทั้ง CD, MP3, USB ,ระบบนำร่องด้วยด้วยดาวเทียม, ระบบโทรศัพท์และระบบ DVD ฉะนั้นเราจึงควรศึกษา iDrive ให้คล่องก่อนจะใช้ในชีวิตประจำวัน
Fun unforgettable.
มารู้จักกับเครื่องยนต์ดีเซลสมรรถนะสูงแบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ที่มาพร้อมเทคโนโลยี EfficientDynamics ที่โดดเด่นด้านของสมรรถนะ ความประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เครื่องยนต์สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ถึง 177 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-3,000 รอบ โดยค่าเฉลี่ยการคายไอเสียคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำเพียง 160 กรัมต่อกิโลเมตร ซึ่งค่าดังกล่าวเป็นการวัดตามมาตรฐานการทดสอบของ EU คราวนี้ได้เวลาออกไปทดสอบกันแล้ว เริ่มจากสมรรถนะความเร็วที่โดดเด่น แม้จะเป็นเครื่องยนต์ 2.0 ดีเซล แต่พอกดคันเร่งครั้งใดก็เรียกสมรรถนะที่เกินคาด ไม่ว่าจะเรียกพละกำลังในเวลาเร่งแซงก็มาได้ทันใจ หรือจะหาความเร็วปลายก็มีมาให้เห็นไม่ต่ำกว่า 190 กม.ชม. โดยเข็มไมล์กวาดขึ้นแบบไม่หยุดยั้ง ไหลขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนอัตราเร่งช่วงต้นจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 8.3 วินาที ส่วนความโดดเด่นที่สุดคงเป็นเรื่องของความประหยัด ผมเดินทางทดสอบใช้ระยะทาง 189 กม. โดยใช้ความเร็วเฉลี่ยประมาณ 100 กม./ชม. ใช้เงินเติมน้ำมันไปแบบจิบๆ 316 บาท (ราคาน้ำมันดีเซล 29.19 บาทต่อลตร) เรียกได้ว่าทั้งขับสนุกและประหยัดไปพร้อมๆ กัน
Freedom for sports driving.
แน่นอนเป็นที่สุดสำหรับระบบช่วงล่าง ทั้งในด้านการกระจายน้ำหนักอย่างสมดุลหน้า-หลัง 50:50 และระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ต้องบอกเลยว่าแค่เห็นยี่ห้อก็มั่นใจในสมรรถนะการขับขี่ด้านช่วงล่างแล้ว แม้คันนี้จะมีความสูงที่มากของใต้ท้องรถ แต่ไม่ได้ทำให้สมรรถนะการเกาะถนนในทางตรงและทางโค้งหายไปแม้แต่น้อย แต่ในช่วงความเร็วต่ำๆ ผ่านคอสะพานอาจจะมีอาการกระแทกอยู่บ้าง เพราะต้องมีการปรับช็อคอัพให้มีความแข็งเพิ่มขึ้น ในความเร็วสูงจะได้มีการทรงตัวที่ดีเยี่ยม
คงไม่ต้องบรรยายอะไรมากครับ สำหรับ BMW X1 sDrive20d เพราะมาให้ครบทั้งรูปลักษณ์ที่สง่างาม หรูหรา อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน สมรรถนะอันทรงพลังและประหยัดน้ำมัน รวมถึงระบบช่วงล่างที่วางใจได้ทุกรูปแบบการขับขี่ ในราคาแค่ 3,399,000 บาท สำหรับแฟนพันธุ์แท้ BMW ไม่ควรพลาด
https://www.youtube.com/watch?v=EFDP4ZvWIDA
บทความแนะนำ
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู ใหม่ ในงาน BMW Xpo 2013
BMW X4 xDrive20d M Sport และ BMW 420i Gran Coupe M Sport เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ในงาน BMW Xpo 2014