BMW X3 M Competition / BMW X4 M Competition … เน้น “สไตล์” มากกว่า “สมรรถนะ”
ค่ายใบพัดฟ้า-ขาว โดยแผนก BMW M GmbH เสิร์ฟของแรงให้สาวก “รถอเนกประสงค์ขาโหด” ด้วยเวอร์ชั่นล่าสุด MY22 ของ 2 คู่แฝดต่างสไตล์ คือ BMW X3 M Competition แบบ SAV (Sports Activity Vehicle) และ BMW X4 M Competition ที่เร้าใจด้วยสไตล์ SAC (Sports Activity Coupe)
โดยทั้งคู่มากับความเปลี่ยนแปลงที่เน้นอารมณ์ความสปอร์ตให้เด่นชัด ตั้งแต่รูปลักษณ์ดุดันขึ้นด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ BMW Kidney Grill โทนสีดำ High-Gloss Black แบบชิ้นเดียวที่ปรับให้มีขนาดใหญ่ขึ้น มาพร้อมกับจุดเด่นจากงานดีไซน์ซี่กระจังแบบ M Double Kidney Bars รับกับชุดไฟหน้าแบบ Adaptive LED ที่ขยายความยาวขึ้นอีก 10 มม. ตามด้วยการยกระดับความปลอดภัยด้วยการติดตั้งกล้องมองหน้า iCam บริเวณกึ่งกลางกระจัง ขณะที่ด้านล่างมากับช่องดักอากาศทรง 6 เหลี่ยม Hexagona ประกบด้วยงานดีไซน์ใหม่ในรูปทรงแนวตั้งของช่องดักอากาศด้านข้าง เสริมด้วย Spoiler Lip ด้านล่างบริเวณใต้กันชน เพื่อเพิ่มคุณสมบัติทางด้านอากาศพลศาสตร์
ในมุมมองด้านหลังมีความแตกต่างตามสไตล์ของตัวถัง ซึ่ง X3 M Competition มากับความโดดเด่น และดุดันด้วยชุดไฟท้าย LED ใหม่โทนสีดำ ลงตัวกับงานออกแบบชุดกันชนท้าย พร้อม Diffuser ขนาดใหญ่โทนสีดำ High-Gloss Black และชุดท่อไอเสียคู่ M Sports Exhaust โทนสีดำเงา Black Chrome ส่วน X4 M Competition กับงานดีไซน์แบบ Coupe มากับแรงสะกดสายตาจากรูปทรงของชุดกันชนท้ายที่ออกแบบคล้าย “ทั่งตีเหล็ก” โทนสีดำ High-Gloss Black เช่นเดียวกับ ชุดท่อไอเสียคู่โทนสีดำ Black Chrome เช่นกัน
ด้านภายในห้องโดยสารทั้ง 2 รุ่น ยังคงเน้นอารมณ์ความสปอร์ต ด้วยการตกแต่งจากวัสดุอลูมิเนียมโทนสีดำ Dark Rhombicle และการแสดงตัวตันความเป็น BMW M ซึ่งประกอบด้วย เบาะนั่ง M Sports Seats ปรับไฟฟ้า ปักตราสัญลักษณ์ “M” หุ้มหนัง Merino และพวงมาลัยมัลติฟังค์ชั่น M Leather Steering Wheel พร้อมการเดินด้ายสี “M” และโลโก้ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
ตามด้วยฟังค์ชั่นอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และทันสมัยขึ้น ด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ BMW Operating System เวอร์ชั่น 7.0 ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น ผ่านการแสดงผลบนหน้าจอมาตรวัด BMW Live Cockpit Professional ขนาด 12.3 นิ้ว และชุดหน้าจอความบันเทิง Control Display ที่รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ตลอดจนระบบ BMW Connected Drive เสริมด้วยการติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่าง Driving Assistant Professional ที่นำมาใช้เป็นครั้งแรกอีกด้วย
สำหรับขุมพลังของทั้ง 2 รุ่น ยังคงจัดจ้านตั้งแต่สุ้มเสียงสุดเร้าใจด้วยระบบไอเสีย M Sports Exhaust สำหรับรองรับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ พร้อมตัวช่วยอย่าง BMW TwinPower Turbo ในการสร้างกำลังระดับ 510 แรงม้า โดยมีแรงบิดที่ปรับเพิ่มขึ้นอีก 50 นิวตันเมตร เป็น 650 นิวตันเมตร รับหน้าที่ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด M Steptronic with Drivelogic สู่ความมั่นใจจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ M xDrive All-Wheel Drive ที่มากับเฟืองท้ายแบบ Active M Differential ซึ่งจะกระจายกำลังอัตโนมัติตามสภาพการขับขี่
ตลอดจนความเฉียบคมในการควบคุมโดยระบบพวงมาลัยแบบ M Servotronic Steering เสริมด้วยฟังค์ชั่นการขับขี่ M Dynamic Mod, ระบบช่วงล่างแบบ Adaptive M Suspension และระบบเบรกแบบ M Compound ที่สะดุดตาด้วยชุดคาลิปเปอร์ โทนสีน้ำเงิน ประทับตราสัญลักษณ์ “M” ฝังอยู่ด้านในของล้ออัลลอยด์ใหม่ลาย 892M Star Spoke สีดำ Jet Black ขนาดใหญ่ 21 นิ้ว แต่เบาลงราว 2 กก./วง
ปิดท้ายด้วยความดุเดือดที่เผยตัวเลขอัตราเร่ง ซึ่งเคลมจาก 0-100 กม./ชม. เอาไว้ 3.8 วินาที หรือเร็วขึ้นจากเดิม 0.3 วินาที ขณะที่เพดานสูงสุดนั้นถูกจำกัดเอาไว้ที่ 250 กม./ชม. แต่สามารถขยับไปเป็น 285 กม./ชม. หากติดตั้งออพชั่น M Driver’s Package
