รีวิว : BMW X3 xDrive20d xLine สัมผัสสมรรถนะทรงพลัง โฉบเฉี่ยว สไตล์ สปอร์ต บนเส้นทางออฟโรด ภายใต้ราคา 3,699,000 บาท รวมแพ็คเกจ BSI Standard (บริการบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม. และประกัน 3 ปีไม่จำกัดระยะทาง)
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย นำสื่อมวลชนสัมผัสประสิทธิภาพอันทรงพลังสไตล์สปอร์ตในกิจกรรมทดสอบรถยนต์ BMW X3 xDrive20d xLine ใหม่ ที่จัดขึ้นบนเส้นทางกรุงเทพฯ – อยุธยา – สระบุรี สัมผัสถึงสมรรถนะอันเหนือชั้นจากขุมพลังปราดเปรียว ผสานความสะดวกสบายสุดพรีเมียมจากยนตรกรรมสุดหรูเข้ากับความแข็งแกร่งแบบออฟโรด
BMW X3 xDrive20d xLine สุดยอดขุมพลังนวัตกรรมแห่งความสปอร์ต
BMW X3 xDrive20d xLine จัดเป็นรุ่นที่สาม โดยสืบทอดการผสานรูปลักษณ์แข็งแกร่งแบบออฟโรดเข้ากับความสปอร์ต สัดส่วนอันคุ้นตาของตัวรถ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้รับการออกแบบเพื่อรองรับ การกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ระหว่างเพลาหน้าและหลังเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ ความปราดเปรียวอันทรงพลังของรถยนต์ BMW X3 xDrive20d xLine ใหม่
ถูกเสริมให้ดุดันยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าคู่แบบหนา และไฟตัดหมอกแบบหกเหลี่ยมที่นำมาใช้เป็นครั้งแรกในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูตระกูล X โดยมาพร้อม ชุดแต่ง BMW Individual และ xLine กับล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วลาย Y-spoke
ภายใน BMW X3 xDrive20d xLine มาด้วยความคลาสสิคหรูหรายิ่งกว่ารถรุ่นก่อน พร้อมยกระดับความสะดวกสบายขึ้นอีกขั้นกับอุปกรณ์เสริมใหม่ล่าสุดด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน ชุดไฟเพิ่มบรรยากาศในห้องโดยสาร 6 สี ม่านบังแดดด้านข้างผู้โดยสารตอนหลังแบบอัตโนมัติ ฟังก์ชั่นมาตรฐานในส่วนเก็บสัมภาระด้วยพนักพิงเบาะหลังแบ่งพับแบบ 40:20:40 และหลังคากระจกแบบพาโนรามาที่เสริมให้ภายในตัวรถโปร่งสบายยิ่งขึ้น และ BMW Display Key แสดงสถานะและข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงควบคุมฟังก์ชั่นการทำงานอื่น ๆ ของรถอีกด้วย
BMW TwinPower Turbo ทรงประสิทธิภาพยิ่งกว่า ควบคู่การออกแบบเน้นน้ำหนักเบา
BMW X3 xDrive20d xLine ใหม่ โฉบเฉี่ยวด้วยเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo เครื่องยนต์ดีเซล4 สูบ ทำงานประสานเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic เครื่องยนต์อันทรงพลังให้กำลังสูงสุดที่ 140 กิโลวัตต์ / 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 400 นิวตันเมตร ส่งให้ BMW X3 xDrive20d xLine ใหม่ เร่งเครื่องจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 8 วินาที ก่อนที่จะพุ่งทะยานทำความเร็วสูงสุดที่ 213 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้านอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 17.6 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อย CO2 ที่ 150 กรัมต่อกิโลเมตร
เทคโนโลยี BMW EfficientDynamics ถูกนำมาใช้ในรถยนต์ BMW X3 xDrive20d xLine ใหม่ ซึ่งรวมถึงระบบส่งกำลังที่ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการออกแบบทุกสัดส่วนเน้นน้ำหนักเบา เช่น การนำอลูมิเนียมมาใช้เป็นส่วนประกอบมากขึ้นในเครื่องยนต์และช่วงล่างที่ช่วยลดน้ำหนักของตัวรถได้มากขึ้น
ระบบควบคุมล้ำสมัยใน BMW X3 xDrive20d xLine
BMW X3 xDrive20d xLine ใหม่ มาพร้อมกับปุ่มควบคุม iDrive สั่งงานด้วยระบบสัมผัสและจอแสดงผลความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ระบบการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ (BMW gesture control) ช่วยควบคุมระบบนำทางและฟังก์ชั่นสาระบันเทิงต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ในขณะเดียวกัน ระบบการสั่งงานด้วยเสียง (Intelligent Voice Control Assistance)
บทสรุปการทดสอบ
การทดสอบครั้งนี้ทาง เริ่มต้มด้วยการขับเจ้า BMW X3 xDrive20d xLine แบบ Free Run จากอาคาร ออลซีซั่น เพลส ถนนวิทยุ มุ่งหน้าสู่ร้านอาหาร แกรนด์เจ้าพระญา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อรับฟังรายละเอียด และข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถและกิจกรรมการทดสอบ
โดยช่วงแรกนี้ ถึงแม้จะเป็นเพียงช่วงสั้นๆในการขับ แต่ก็ได้สัมผัสถึงความสะดวกสบาย และความคล่องตัวที่ปราดเปรียว จนลืมไปว่ารถที่ขับมันคันใหญ่อยู่เหมือนกัน แต่บางจังหวะที่โยนเปลี่ยนเลนแรง จะออกอาการโยนย้วยไปบาง แต่ก็สามารถความคุมได้ไม่ยาก จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังเหมืองระเบิดหินที่จังหวัดสระบุรี เพื่อไปทดสอบสมรรถนะในแบบออฟโรด ของฐานต่างๆที่ทาง BMW จัดเตรียมไว้ โดยแบ่งการทดสอบเป็น 4 ฐาน ได้แก่ -เนินสลับ-ขึ้นเนินชัน –ลงเนินชัน -ไต่เนินเอียง เเละ 1ฐาน ประลองสลาลม
เริ่มต้นด้วยเนินสลับจุดนี้ก็ได้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive เมื่อล้อข้างใดข้างหนึ่งไม่ว่าจะด้านหน้า-หลังเกิดไม่สัมผัสพื้นและมีการหมุนฟรี ระบบก็สั่งการให้หยุดการถ่ายทอดกำลังไปที่ล้อนั้น ขณะเดียวก็ถ่ายทอดกำลังไปยังล้อที่สัมผัสพื้นแทน เพื่อให้รถสามารถเคลื่อนผ่านอุปสรรคนั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
ต่อเนื่องด้วยฐาน ขึ้น-ลงเนินชัน 4.5 เมตร เป็นการทดสอบ HDC หรือระบบความคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (เริ่มทำงานที่ความเอียง 10 องศา) รวมถึงระบบ Auto Hold ซึ่งการทำงานนั้นต่างจากระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางลาดชันหรือ HAC ทั่วไป โดย Auto Hold นั้นไม่จำกัดเวลาเบรกเพื่อหยุดการรถไหลของรถเมื่ออยู่บนทางลาดชัน ในขณะ HAC เมื่อปล่อยเบรกระบบจะทำงานเพียง 3 วินาทีเท่านั้น
ส่วนในช่วงการขับลงเนินเมื่อเปิดใช้งานระบบ HDC ก็ช่วยให้รถเคลื่อนตัวลงด้วยความเร็วอย่างเหมาะสม โดยที่ไม่ต้องแตะเบรก นอกจากนี้ยังสามารถปรับระดับความเร็วขณะลงได้ถึง 3 สเต็ป ที่สามารถปรับที่สวิตช์ครูสคอนโทรลบริเวณก้านพวงมาลัยฝั่งซ้าย
อีกฐานคือการขับบนเนินเอียง ระยะทางประมาณ 10 เมตร มีองศาความประมาณ 25 องศา (สเปกเคลมไว้ว่า X3 xDrive20d xLine คันนี้สามารถไต้เนินเอียงได้ถึง 45 องศา) โดยในจังหวะที่เคลื่อนผ่านสถานีนี้แบบนิ่งๆ ตัวเลของศาความเอียงแสดงโชว์บนหน้าจอบริเวณคอนโซลกลาง 23 องศา
สุดท้ายที่ถือว่าเป็น Spacail Stage หลังจากเสร็จสิ้น 3 สถานีแล้วก็ต่อเนื่องกับการขับจับเวลาแบบสลาลอม โดยมีการให้ลองขับก่อน 2 รอบและจับเวลาจริง 1 รอบ ซึ่งระบบ TRC หรือระบบควบคุมเสถียรภาพทำงานที่อย่างดีเยียม สามารถควบคุมรถได้อย่างง่ายดาย