BRABUS 900 Rocket Edition Mercedes-AMG G63 … ชนวนศึกมหาเศรษฐี เพราะทั้งโลกมีแค่ 25 คัน
BRABUS 900 Rocket Edition คือ ผลงานการอัพเกรดของสำนักแต่งชื่อดังแห่งแดนอินทรีเหล็กนามว่า BRABUS ที่ได้จับเอา Mercedes-AMG G63 พื้นฐานเดิมเครื่องยนต์เบนซิน 4.0 ลิตร แบบ V8 Twin-Turbocharged กำลัง 585 แรงม้า และแรงบิด 850 นิวตันเมตร มาเล่นแร่แปรธาตุใหม่ พร้อมกับใส่ความเป็น Limited Edition เข้าไปด้วยจำนวนการผลิต ที่ในโลกนี้จะมีเพียงแค่ 25 คัน
เพื่อสร้างยนตรกรรมอเนกประสงค์ Super-Sports SUV ในระดับ “อสูรร้าย” ด้วยการขยายความจุเป็น 4.5 ลิตร ก่อกำเนิดพลังทำลายพิกัด 900 แรงม้า ซึ่งเป็นที่มาของ “ชื่อ” พร้อมความน่าตื่นเต้นจากแรงบิด 1,250 นิวตันเมตร ที่ผนวกเข้ากับชุดเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการแหวกอากาศจาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.7 วินาที ภายใต้ท็อปสปีดจำกัดที่ 280 กม./ชม. บนความมั่นใจจากเสถียรภาพของระบบช่วงล่างใหม่ BRABUS RideControl Suspension ที่ออกแบบพิเศษ ให้กับเวอร์ชั่นพิเศษโดยเฉพาะ รวมถึงยางสมรรถนะสูงที่พัฒนาโดยพันธมิตรด้านเทคโนโลยีของ BRABUS ที่มีให้เลือกจาก 3 แบรนด์ คือ Continental, Pirelli และ Yokohama
โดยความเกรี้ยวกราดของสมรรถนะ ถูกนำเสนอผ่านเรือนร่างที่ได้รับการตีความ และอัพเกรดขึ้นใหม่ ภายใต้สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของสำนัก BRABUS ตั้งแต่โทนสีที่มีให้เลือกเพียงสีดำ “Signature Black” และ สีเทา “Stealth Gray” ตามด้วยการยกระดับพื้นฐานชุดรบ Widestar Aerodynamic Part สู่ฐานะ Rocket Edition ผ่านในส่วนขององค์ประกอบต่างๆ เช่น สปอยเลอร์ด้านหน้า, ช่องดักอากาศกันชนหน้า, ซุ้มล้อทั้งด้านหน้า และด้านหลัง, ฝากระโปรงหน้าคาร์บอนไฟเบอร์, สปอยเลอร์หลังคา และ Diffuser ท้ายรถ
เติมเต็มความโหดร้ายด้วยชุดท่อไอเสียสแตนเลส ปลายคาร์บอนไฟเบอร์โดย BRABUS วางตำแหน่งยื่นออกด้านข้างตัวรถ โดยจะมากับระบบ Valves Controlled สำหรับปรับเปลี่ยนน้ำเสียงผ่าน 2 โหมดหลักๆ คือ “Sport” และ “Coming Home” ตามด้วยการเปลี่ยนไปใช้ล้ออัลลอยด์ BRABUS Monoblock Platinum Edition Z ขนาด 24 นิ้ว สไตล์ Aero-Discs ทั้งยังเสริมรายบะเอียดเพื่อบ่งบอกสถานะทั้งในส่วนของระบบไฟ Ambience Light ภายนอก ตลอดจนตราสัญลักษณ์บริเวณช่องดักอากาศกระจังหน้า และโลโก้สีแดงด้านท้ายรถ
ส่วนภายในห้องโดยสารเรียกว่ายังคงมีกลิ่นอายของ Mercedes-AMG G63 แต่เพิ่มเติมความหรูหรา และความสปอร์ตมากขึ้น ด้วยการเลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมี่ยมที่รังสรรค์อย่างประณีต โดยมีการคุมโทนสีภายในให้แตกต่างกัน ตามความเหมาะสมกับภายนอก ก่อนจะปิดท้ายด้วยการตีตราสัญลักษณ์ “Rocket” โทนสีแดง พร้อมด้วยการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ และอลูมิเนียม ในรายละเอียดต่างๆ