CR-V Reach Out ก้าวออกไป..ให้ไกลกว่าจินตนาการ ขับฮอนด้า ซีอาร์-วี ตะลุย ลาวใต้ : Day2
บรรยากาศตอนเช้าที่ จ.สตรึงเตรง ค่อนข้างสดใสมาก การได้ทานอาหารเช้าบนดาดฟ้าชั้น 8 ของ รร.Four River Hotel เรียกได้ว่าสุดยอดในแบบที่ CR-V Reach Out จัดมาให้จริงๆ มองจากด้านบนลงไป จะเห็นวิวแม่น้ำอันกว้างใหญ่ หลายสายเชื่อมต่อกัน ยิ่งได้จิบกาแฟร้อนๆ เคล้ากับ ปาท่องโก๋ จิ้มนมข้น ดูจะเป็นอะไรที่เรียกความ ฟิน ให้กับการเสพย์บรรยากาศที่ลืมไม่ลงเลยทีเดียว
คอนพะเพ็ง ไม่มาไม่ได้ ถ้าเยือน ลาวใต้
ช่วงสายๆ คณะคาราวาน CR-V Reach Out ออกเดินทางอีกครั้ง โดยมีจุดหมายที่ น้ำตกคอนพะเพ็ง ไม่น่าเชื่อว่า เมือง สตรึงเตรง จะดูเจริญ และใหญ่กว่าที่คาดไว้มาก นี่ถ้าไม่ได้ขับรถผ่านคงคิดว่าเป็นจังหวัดชายแดนเล็กๆ เท่านั้น
เราใช้เวลาประมาณชั่วโมงนึง มาถึงด่านชายแดน ที่ด่านดงกะลอ เราใช้เวลาไม่นานในการทำเรื่องข้ามแดน ไปยังด่านเวินคามของ สปป.ลาว เพราะทางทีม ฮอนด้า ได้จัดเตรียมความพร้อมเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว พอข้ามพรมแดนเข้าลาวปุ๊ป จุดหมายแรกของเราในวันนี้อยู่ไม่ไกล เพราะทางไป น้ำตกคอนพะเพ็ง อยู่ไม่ไกลจากด่านเลย
ไกลกว่าจินตนาการจริงๆ กับ คอนพะเพ็ง ในวันนี้
หากใครที่เพิ่งมาเยือนลาวใต้ โดยเฉพาะน้ำตกคอนพะเพ็ง ไม่นานมานี้ คงไม่รู้สึกตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่ในความทรงจำของผู้เขียนเกี่ยวกับ คอนพะเพ็ง เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว กับ คอนพะเพ็ง ในวันนี้ มันช่าง แปลกตา แตกต่าง ไปอย่างสิ้นเชิง
การปรับภูมิทัศน์ ทัศนียภาพ ทำได้เฉียบขาด สวยงาม สะอาดตา ดูร่มรื่น ห้องน้ำ หรือแม้กระทั่งทางเดิน ที่ปรับแต่งให้ดูกลมกลืนความเก่ากับความใหม่เอาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว บอกได้เพียงแค่ว่า นี่คือพัฒนาการที่คนลาวให้ความสำคัญกับแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ที่เป็นหน้าเป็นตาของคนลาว
พอเปลี่ยนพรมแดนเท่านั้นแหละ รสชาติอาหารการกิน เปลี่ยนไปทันที กับข้าวที่นี่ ดูมีรสมีชาติขึ้นเยอะ ถูกปากเราคนไทยมากกว่ารสชาติอาหารของกัมพูชา ความจัดจ้าน มีมากกว่าเดิมเยอะ ขนาดไข่เจียวในความทรงจำผู้เขียน เมื่อกว่าสิบปีก่อน นี่กินแทบไม่ได้ แต่มาวันนี้ อร่อยกลมกล่อม จนทำให้ผู้เขียน และผู้ร่วมทริปจัดเต็มกันเลยทีเดียว
จะไม่ให้ CR-V Reach Out ได้อย่างไร เมื่อเช็คพ้อยต์ต่อไปคือ ปราสาทหินวัดพู
พอท้องเริ่มตึง นั่นหมายความว่า เราต้องออกเดินกันต่อ ท่ามกลางอุณหภูมิภายในห้องโดยสารที่เย็นเฉียบ อย่างทั่วถึงจากช่องแอร์ผู้โดยสารตอนหลัง และยังมีช่องแอร์บนเพดานตอนหลังอีกด้วย เมื่อปะทะกับความร้อนจากภายนอก มันจึงช่วยดึงหนังตาให้หย่อนคล้อยลง
การขับขี่ในประเทศลาว ยังคงไม่แตกต่างจากกัมพูชา คือวิ่งช่องทางขวา ส่วนใหญ่เป็นทางลาดยางที่จัดว่าโอเคไม่น้อย ช่วงระหว่างคอนพะเพ็ง ไปถึงปราสาทวัดพู ค่อนข้างไกล จึงแวะเติมน้ำมันระหว่างทางกันสักหน่อย
คำนวณจากมาตรวัด และระยะทางที่วิ่งมาเมื่อวาน กับวันนี้ที่ขับไปราว 100 กม.มาตรวัดยังตกลงมาไม่ถึงครึ่ง เมื่อคิดคร่าวๆ ว่านี่ เราวิ่งไป 400 กม.แล้วนะ ประหยัดขนาดนี้ ในความคิดผู้เขียน ตลอดทริปก็น่าจะเอาอยู่
บ่ายแก่ๆ เราเดินทางมาถึง ปราสาทหินวัดพู โบราณสถานที่ถือเป็นมรดกโลกแห่งที่สองของประเทศลาว ซึ่งเคยเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของอารยธรรมโบราณถึง 3 สมัยด้วยกันคือ อาณาจักรเจนละ อาณาจักรขอม และอาณาจักรล้านช้าง
เบ็ดเสร็จกว่า 300 กม.ยังโอเคทั้งคน และรถ
ระยะทางรวมทั้งสิ้นประมาณ 301 กม.ตั้งแต่ล้อหมุนที่ จ.สตรึงเตรง จวบจนถึง ปราสาทหินวัดพู และย้อนกลับมาสู่ที่พัก ณ โรงแรม จำปาสัก แกรนด์ ริมแม่น้ำโขง กับการเดินทางที่อยู่ในรถค่อนข้างเยอะก็ไม่ได้รู้สึกอ่อนล้าแต่อย่างใด คงเพราะได้เบาะนั่งที่ตัวใหญ่ โอบกระชับ ปรับสะดวกด้วยไฟฟ้า จากที่เมื่อวานเป็นผู้ขับ พอมาวันนี้เป็นผู้โดยสารด้านหลัง ก็ไม่มีอาการล้าให้ได้รู้สึก อาจเพราะนอกจากเบาะหลังที่ปรับพนักพิงเอนได้แล้ว ความกว้างของเลครูม และเฮดรูม ถือว่ามีส่วนช่วยอย่างยิ่ง