Daytime Running Light มหันตภัยแฝง ที่คุณเองเป็นผู้กำหนด
Daytime Running light ถือกำเนิดขึ้นมาด้วยเหตุผลด้านความ ปลอดภัย เป็นหลัก ว่าด้วยมาตรฐานความปลอดภัย UNECE Reg 87 และ 48 เพื่อให้รถยนต์มีความสว่าง สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนในเวลากลางวัน และจะหรี่ หรือดับลงเองอัตโนมัติ เมื่อเปิดไฟหรี่ หรือไฟหน้า ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ถนน ที่ขับรถคันอื่นๆ อยู่ สามารถกะระยะห่าง และความเร็วได้ เพื่อความปลอดภัยนั่นเอง
รถยนต์ยุคใหม่ๆ แทบทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ต่างติดตั้งเจ้า Daytime Running light (DRL) มาให้เสร็จสรรพจากโรงงานแล้วแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะแบบติดตั้งแยกเป็นออปชั่นเสริม หรือในหลายรุ่นดีไซน์มาตั้งแต่การออกแบบ built-in ในโคมไฟหน้ามาให้เรียบร้อย
จากประสบการณ์ที่เคยพูดคุยกับผู้ที่กำลังจะเลือกซื้อรถยนต์ มาหลายท่าน ร้อยละ 90 เวลาถามนู่นนี่นั่นเกี่ยวกับข้อมูลรถยนต์คันนั้นๆ มักจะตามมาด้วยคำถามที่ว่า มีไฟ “เดย์ไทม์ฯ” (DRL) มาให้ด้วยหรือเปล่าเสมอๆ
น่าจะเป็นเพราะเจ้า DRL นั้น นอกจากจะมีวัตถุประสงค์หลักในเรื่องความปลอดภัยแล้ว มันยังเป็น จุดขาย ที่สามารถจูงใจให้คนที่กำลังอยากได้รถยนต์สักคัน ตัดสินใจ ซื้อ ง่ายขึ้นได้อีก ซึ่งหลายคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่า เจ้า DRL มันช่วยเสริมความหล่อ ความเท่ ให้กับรถคันนั้นๆ ได้มากทีเดียว
ในความสวย อาจมากับภัยของ Daytime Running Light
บทความนี้ มันเกิดจากความบังเอิญ และความสงสัยของผม และเพื่อน ที่กำลังขับรถออกจากห้างฯ เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ในขณะที่เพื่อนผม กำลังเห่อกับ iphone รุ่นใหม่ไร้ขอบ ราคาเกือบครึ่งแสน
พลันสายตาผมไปสะดุดกับรถคันนึงเข้า ซึ่งเป็นเก๋งญี่ปุ่น ขนาดกลางใหญ่ ราคาล้านกลางๆ เลยทีเดียว เผอิญด้วยความที่ชอบตินั่นตินี่ เลยคุยกับเพื่อนว่า “รถคันหน้านี่ หลอดไฟท้ายทำไมขาดไวจัง”
เพื่อนตอบกลับมาว่า “หลอด LED ไม่น่าจะขาดนะ” แถมไฟเบรกยังติด..เอ๊ะมันยังไงกันนี่
ผมเลยคิดในใจ “สงสัยลืมเปิดไฟ” แต่สายตาเจ้ากรรม ก็ดันเห็นว่า มีไฟสว่างจ้าส่องไปที่ท้ายรถคันข้างหน้า เลยทำให้คิดว่า รถก็โมเดลล่าสุด แถมเป็นรุ่นที่ไมเนอร์เชนจ์ล่าสุดมาแล้วด้วย สงสัยเจ้าของคงเจอแจ๊กพ็อต ได้รถที่ไฟท้ายขาดง่ายปานนี้
ไฟหน้าปัด มาตรวัด ทำให้หลงลืม
พลันที่รถเราเคลื่อนแซงรถเจ้าปัญหานั้นไปได้ “โถ่เอ้ย!!” เราอุทานออกมาพร้อมกัน
สาเหตุเป็นเพราะ คนขับไม่ยอมเปิด ไฟหน้า นั่นเอง
เหตุเพราะ เวลาขึ้นรถ พอบิดสวิทช์กุญแจได้ (เดี๋ยวนี้ push start) ไฟเรืองแสงที่หน้าปัดมาตรวัด มันส่องสว่างขึ้นมาแล้ว แถมด้วย ไฟเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ ส่องไปยังถนนข้างหน้าอีก
ยิ่งสมาธิไม่อยู่กับการขับรถ ยิ่งไม่เปิดไฟอะไรสักอย่าง เพราะคิดไปเองว่า ไฟหน้าเปิดแล้ว แถมไฟหน้าปัดรถรุ่นใหม่ๆ ส่องสว่างด้วย ยิ่งทำให้คิดว่าไฟหน้าถูกเปิดแล้ว แล้วรู้หรือไม่ว่า การขับรถแบบไม่มี ไฟท้าย มันอันตรายยิ่งนัก เสี่ยงต่อการถูกชนท้ายเป็นอย่างมาก..แนะนำว่า ควรเปิด ไฟหน้า ไว้ในตำแหน่ง auto จะได้ป้องกันการหลงลืม แต่หากรถคันไหนไม่มี ก็ควรรอบครอบยิ่งขึ้นเวลาขับรถยามค่ำคืน