น้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียม ต่างกับ น้ำมันดีเซลเกรดธรรมดา อย่างไร
สำหรับคนรัก ดีเซล ที่มักติดใจอัตราเร่ง กำลังฉุดลากในรอบต้นๆ มักจะสรรหาอะไรมาปรุงแต่งเครื่องยนต์ อย่างเชื้อเพลิงก็เป็นหนึ่งใน ไอเท็ม พื้นฐาน เดี๋ยวนี้เวลาเข้าปั๊ม นอกจากจะตรงไปยังหัวจ่ายดีเซลแล้ว น้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียม ยังเป็นอีกหนึ่ง ออปชั่น แยกหัวจ่าย เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติม สำหรับผู้ที่ต้องการความแตกต่างจาก น้ำมันดีเซลเกรดธรรมดา แล้วทราบหรือไม่ว่า ทำไมส่วนต่างที่ต้องจ่ายแพงกว่าต่อลิตร มันมีอะไรนอกจากที่เราได้ยินจากโฆษณาว่า “เติมแล้วมันแรงขึ้น”
เติม ทำไมกัน
เหตุผลนี้ หลายคนที่ใช้รถยนต์ ที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซล คงมีคำตอบในตัวเอง ซึ่งเชื่อได้ว่า การจ่ายเงินเพื่อเติม น้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียม ที่มีค่าตัวต่อลิตร แพงกว่า น้ำมันดีเซลเกรดธรรมดา 3 บาท เหตุผลหลักก็คือ เพื่อความแรง ที่มากขึ้น ตามที่โฆษณาได้ว่าไว้
แต่มีอีกหลายคนที่ยังละล้าละลัง กับจำนวนเงินค่าตัวที่ต้องจ่ายแพงกว่าถึง 3 บาทต่อลิตร แล้วจะได้ผลตอบแทนใดขึ้นเป็นรูปธรรม จับต้องได้จริงไหม เร่งปรู๊ดปร๊าด เหมือนในหนังโฆษณาไหม แล้วมันจะคุ้มไหมกับค่าตัวที่ต้องจ่ายมากกว่าเดิม
น้ำมันดีเซลเกรดธรรมดา กับ น้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียม ต่างกันตรงที่
ในกระบวนการกลั่นน้ำมันเพื่อให้ได้น้ำมันดีเซล ออกมานั้น จะเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นสูตรธรรมดา หรือสูตรพรีเมียม แต่ในขั้นตอนการเติมสารปรุงแต่งนั้น แน่นอนว่า สูตรพรีเมียม ย่อมพิเศษกว่า มีต้นทุนที่มากกว่า และด้วยเหตุผลก็เพื่อ รองรับเครื่องยนต์ดีเซลยูโร 5 จึงมีความต่าง เช่น
1. ค่ากำมะถัน – ดีเซลเกรดธรรมดา ก็ชูจุดขายแล้วว่า ค่า กำมะถัน ต่ำ แต่เพื่อให้มีความพรีเมียม ค่ากำมะถัน จึงลดลงกว่าเดิมอีก เพราะค่ากำมะถันในน้ำมัน จะมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ ยิ่งน้อยเท่าไหร่ ไอเสียจะยิ่งน้อยตามไปด้วย
2. ค่า ซีเทน สูง – ค่า ซีเทน คือ ค่าความสามารถในการต้านทางการ น็อค ของเครื่องยนต์ ยิ่งเครื่องยนต์ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 5 จะมีเทคโนโลยีที่สูง ความต้องการค่าซีเทนก็มีมากตามไปด้วย เพื่อประสิทธิภาพในการ เผาไหม้ ที่หมดจดยิ่งขึ้น ดังนั้นค่าซีเทนจะสูงกว่าเกรดธรรมดา
3. สารชะล้าง – ในกระบวนการเติมสารปรุงแต่ง ต้องมีสารชะล้างอยู่เสมอ ซึ่งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ของเครื่องยนต์มาตรฐานยูโร 5 นั้นสูงกว่า ฉะนั้นสารชะล้างในน้ำมันสูตรพรีเมียม จึงชะล้างได้สะอาดกว่า
4. สนิม ฟอง และการรวมตัวกับน้ำ – สารปรุงแต่งที่เติมเข้าไป เพื่อขจัด และต่อต้านการเกิดปฏิกริยาเหล่านี้ จึงมีความพิเศษกว่า ไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ต้นทุนของสารต่างๆ เหล่านี้ย่อมสูงกว่าไปด้วย
จะใช้หรือไม่ ถามใจตัวเองดู
ส่วนต่างที่แพงกว่า 3 บาทต่อลิตร คือเหตุผลของสินค้าที่จัดให้อยู่ในเกรดพรีเมียม กับ ความแรง ที่เป็นจุดขายของสินค้า ถามว่า เติมแล้วแรงขึ้นจริงไหม
ตามข้อมูลที่บอกไปข้างต้น ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่แรงขึ้น เนื่องจาก ถ้าว่ากันตามทฤษฎีง่ายๆ เชื้อเพลิงที่สามารถทำให้เครื่องยนต์ มีการเผาไหม้ ที่หมดจดกว่า ย่อมสร้างกำลัง และสมรรถนะ ของเครื่องยนต์นั้นๆ ออกมาได้มากกว่า
ดังนั้น คนที่ได้ลองเติมสูตรพรีเมียม ส่วนใหญ่จะมีความรู้สึกว่า เครื่องยนต์ตอบสนองดีขึ้น เหมือนกับตอนขับรถใหม่ป้ายแดงอะไรทำนองนั้น