Eco Car Phase 2 มีมาตรฐานใดบ้าง
ประสบความสำเร็จไปอย่างยิ่งยวด สำหรับโครงการ รถยนต์ Eco Car Phase 1 ซึ่งดำเนินการ และผ่านความสำเร็จลงไปเรียบร้อย การส่งเสริมการลงทุนนี้ ยังคงมีต่อจนเกิดเป็นโครงการ Eco Car Phase 2 ตามมา ซึ่งจะมีเงื่อนไข ข้อกำหนดให้ผู้ลงทุน หรือผู้ผลิตรถยนต์นั้น ต้องมีความเข้มงวด เพื่อผลิตรถอีโคคาร์ออกมา ให้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด จึงจะสามารถ ขาย รถยนต์ที่เน้นในด้านการประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ข้อกำหนดของ Eco Car Phase 1 กับ Phase 2 ที่เพิ่มขึ้น
- ขยายความจุเพิ่มขึ้นได้ ในเครื่องยนต์ดีเซล อีก 100 ซีซี จากเดิม 1,400 ซีซี เป็น 1,500 ซีซี เพราะฉะนั้นจึงเห็นได้ว่า ตลาด ดีเซล ในรถยนต์อีโคคาร์ ณ ปัจจุบัน จึงมีเพียงเจ้าเดียวคือ มาสด้า 2
- ระบบเบรก : มาตรฐานด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นคือ ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ซึ่งใน เฟสแรก ไม่ได้เป็นข้อกำหนดว่าต้องมี แต่ใน เฟส 2 ถือเป็นข้อกำหนดว่า ต้องมีใน ทุกรุ่นย่อย ตั้งแต่รุ่นล่างไปจนถึงรุ่นท้อป
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว : หรือที่เรียกกันว่า ESC บ้าง ESP บ้าง VSC บ้าง รวมๆ แล้วในคำเต็มก็คือ Electronic Stability Control ซึ่งเฟส 2 กำหนดว่าให้ต้อง มี ในทุกรุ่นอีกเช่นกัน
- มาตรฐานมลพิษ : จากเดิมที่กำหนดไว้ มาตรฐาน Euro 4 แต่ในเฟส 2 ต้องปรับให้ได้ มาตรฐาน Euro 5
- ปริมาณการปล่อยก๊าซ CO2 : จากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 120 g/km. แต่พอมาเป็น เฟส 2 จะต้องทำให้ลดลงเหลือ ไม่เกิน 100 g/km.
- อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง : รถยนต์อีโคคาร์ ประเด็นสำคัญคือ ต้องประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมาตรฐานเดิม กำหนดไว้ต้องไม่ต่ำกว่า 20 กม./ลิตร ส่วนมาตรฐานใหม่เฟส 2 ต้องทำให้ได้ ไม่ต่ำกว่า 23.25 กม./ลิตร
นั่นก็เป็นมาตรฐานที่ BOI กำหนดไว้ว่า ผู้ใดที่จะเข้าร่วมโครงการรถยนต์อีโคคาร์ เฟส 2 จะต้องสร้างมาตรฐานที่เหนือกว่า เฟสแรกให้ได้ ซึ่งผลประโยชน์ต่างๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ตกอยู่กับผู้บริโภคทั้งสิ้น
