รู้ได้อย่างไรว่า ยางรถยนต์ หมดอายุ
ยางรถยนต์ มันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในรถยนต์เลยก็ว่าได้ เพราะหากไม่มียางรถก็เคลื่อนที่ไปไหนไม่ได้ถูกมั้ย ดังนั้นการดูแลรักษายางรถยนต์เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางนับว่าเป้นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
ซึ่งความเข้าใจผิดเกี่ยวกับยางรถยนต์ ที่มักจะคิดว่า วิ่งครบ 50,000 กิโลเมตร ก็ค่อยเปลี่ยน หรือใช้งาน 2-3 ปีค่อยเปลี่ยน ซึ่งถึงแม้ยางรถยนต์จะมีความแข็งแรง ทนทานแค่ไหน หากมีการใช้งานระยะยาว เมื่อถึงเวลาก็มีการเสื่อมสภาพ และเราจะทราบได้อย่างไรว่ายางรถยนต์จะถึงเวลาเปลี่ยน
ตัวเลข / อายุยางรถยนต์
ยางรถยนต์จะมีตัวเลขบนแก้มยาง เพื่อบอกวันผลิต เลข 4 หลักอยู่ด้านใน 2 หลักแรก บอกสัปดาห์ที่ผลิตในปีนั้น เลข 2 หลักถัดมา บอกปี ค.ศ. ที่ผลิต ส่วนใหญ่ยางรถยนต์มีอายุการใช้งาน 5 ปี เมื่อครบก็ควรเปลี่ยน
เนื้อยางแข็งกระด้าง
ยางรถยนต์ที่ใหม่จะมีหน้ายางนิ่ม เมื่อขับบนท้องถนนเบรค หรือ เข้าโค้งจะทำได้ดี เมื่อยางเริ่มหมดอายุการใช้งาน หน้ายางจะมีความแข็ง เวลาเบรคกระทันหันเริ่มมีเสียงดัง เบรคได้ไม่ค่อยดี สามารถเช็คได้ง่ายๆ เพียงใช้เล็บมือลองจิกลงบนหน้ายาง หากไม่ทิ้งรอยเล็บนั่นหมายถึงว่ายางรถยนต์คุณถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนได้แล้ว เพื่อความปลอดภัย
ภายนอกยางมีความผิดปกติ
แก้มยางแตก มีรอยร้าว ยางบวม สามารถเช็คได้ด้วยตาเปล่า หรือ การสัมผัส แต่หากเกิดปัญหานี้ แนะนำควรเปลี่ยนยางทันที เสี่ยงยางระเบิดเมื่อขับรถด้วยความเร็ว
เช็คสะพานยางหน้ายาง
การเช็คสะพานหน้ายางเป็นวิธีง่าย ๆ เพราะยางรถยนต์ทุกเส้น มีตัวบอกสภาพดอกยาง ที่อยู่บริเวณร่องตรงกลางของยาง ลักษณะนูนๆ ที่เชื่อมร่องดอกยาง เมื่อดอกยางมีระบบเท่ากับสะพาน นั่นคือ ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนยาง
บาดแผล รอยรั่วของยางรถยนต์
การปะยางควรทำกับบาดแผลเล็กๆ ไม่เกิน 0.6 มิลลิเมตร และจะต้องเกิดขึ้นบริเวณหน้ายาง โดยที่ไม่ต้องไปทำลายโครงสร้างยางภายใน สามารถสังเกตได้ง่ายๆ เมื่อขับรถด้วยความเร็วสูง แล้วพวงมาลัยสั่นผิดปกติ นั่นคือสัญญาณว่าควรเปลี่ยนยาง หากใช้งานต่ออาจทำให้เกิดการยางระเบิดได้
วิธีดูยางรถยนต์หมดอายุไม่ใช่เรื่องยาก สามารถดูได้ด้วยตาเปล่า ระยะเวลาการใช้งาน หรือ สังเกตความผิดปกติของรถยนต์เมื่อขับขี่ หากพบความผิดปกติ แนะนำให้ทำการเปลี่ยนรถยนต์จะดีกว่า เพราะหากมีการใช้งานต่อ อาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรถชน ยางระเบิดได้