รีวิว : FORD Fiesta 5Dr 1.6 Sport PowerShift ( ฟอร์ด เฟียสต้า ) ตัว TOP ของรุ่น 5 ประตู

หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นประสบภัยพิบัติสินามิ ไม่สามารถผลิตชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อการประกอบรถยนต์ได้ ทำให้รถจากค่าย FORD ที่มีกำลังการผลิตอยู่ในประเทศไทยมียอดขายทะลุเพดานมากกว่าปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะ FORD Fiesta ( ฟอร์ด เฟียสต้า ) ซึ่ง ตัว TOP ของรุ่น 5 ประตู เป็นรุ่น FORD Fiesta 5Dr 1.6 Sport PowerShift ที่มีรูปลักษณ์ของตัวรถโดนใจวัยรุ่นที่รักรักสไตล์สปอร์ตเป็นอย่างมาก จึงทำให้เราหมายใจว่า…จะต้องนำมาทดสอบสมรรถนะ ว่าสวยแต่รูปหรือไม่?

 

Good  Design.

   ถ้าเรามองหารถซิตี้คาร์ที่วางจำหน่ายในบ้านเรา ราคาค่าตัวอยู่ที่ 5-7 แสนบาท ทางค่ายฟอร์ดก็มีรถ Fiesta เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง โดยเจาะกลุ่มตลาดวัยเริ่มต้นการทำงาน ไปจนถึงกลุ่มนักศึกษา และยังมีให้ลูกค้าได้เลือกทั้ง 4 และ 5 ประตู แต่วันนี้ผมนำเอาตัว TOP ของรุ่น 5 ประตูมาทดสอบ ซึ่งเป็นรุ่น FORD Fiesta 5Dr 1.6 Sport PowerShift

 

ซึ่งผลิตจากโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ที่ จ.ระยอง ด้วยมาตรฐานระดับสากล เพื่อนำออกมาจำหน่ายทั้งในบ้านเราและยังมีการส่งออกไปขายต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย

 

ดีไซน์

พูดถึงรุ่น 5 ประตูที่เรานำมาทดสอบ ซึ่งจะออกแบบมาในแนวสปอร์ตอย่างชัดเจน มองจากด้านหน้าผมถือว่าเป็นมุมที่สวยที่สุดของรถคันนี้ การออกแบบเรียกได้ว่าล้ำสมัยมาก ภายใต้แนวคิดเคเนอติกดีไซน์ ที่แสดงออกถึงพลังแห่งการเคลื่อนไหว ด้วยเส้นโค้งตามหลักอากาศพลศาสตร์ และยังสะท้อนบุคลิกที่มาดมั่นและการพุ่งทะยานไปข้างหน้าพอมารวมกับสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ที่อยู่เหนือสุดของตัวกระจกหลังพร้อมไฟเบรคดวงที่สาม และไฟท้ายขนาดใหญ่ที่ทอดยาวขึ้นไปทางด้านบนของรุ่น 5 ประตู ช่วยสร้างบุคคลิกเฉพาะตัวได้สปอร์ตอย่างเต็มตัว

 

Future Design.

ภายในห้องโดยสารโดดเด่นด้วยดีไซน์ของคอนโซลหน้าที่ดูล้ำสมัยพร้อมการ จัดวางอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในสไตล์ยุโรป สามารถเติมเต็มความรู้สึกของรถแบรนด์อเมริกาได้ดีมาก ชุดจอแสดงผลสีส้มที่ใช้บอกสถานะของระบบต่างๆ มากมาย ทั้ง วิทยุ-ซีดี โทรศัพท์ ไปจนถึงระบบเตือนต่าง ๆ อย่าง เช่น ปิดประตูไม่สนิท อีกทั้งยังทำงานสัมพันธ์กันกับระบบสั่งงานด้วยเสียง (Voice Control) ที่ช่วยให้คุณสามารถสั่งควบคุมการเปลี่ยนคลื่นวิทยุ โทรศัพท์ เพียงแค่คุณกดปุ่มเริ่มคำสั่งที่ติดตั้งไว้ที่ก้านไฟเลี้ยวทางด้านซ้ายมือ ของคอพวงมาลัย ระบบจะเริ่มถามสลับให้เราตอบ โดยสั่งการเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งจากการทดลองใช้อยู่พักใหญ่ ๆ กลับพบว่า ในการสั่งงานนั้น นอกจากจะสั่งงานด้วยภาษาอังกฤษแล้ว ในบางคำสั่งยังคงต้องใช้ความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ดีเยี่ยม ไม่เช่นนั้นระบบอาจจะไม่เข้าใจในคำสั่งของเราได้

 

Ti-VCT + PowerShift 6 Speed.

เครื่องยนต์เบนซินบล็อค 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ความจุ 1,596 ซี.ซี. ใช้เทคโนโลยี Ti-VCT (Twin independent – Variable Camshaft Timing) ในการควบคุมจังหวะการทำงานของเพลาลูกเบี้ยวให้สามารถแปรฝันได้อย่างอิสระ ทั้งฝั่งไอดีและฝั่งไอเสีย มีแรงม้า 121 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 15.39 กก./ม. ในรอบเครื่องยนต์เพียง 4,050 รอบ/นาทีเท่านั้น สามารถใช้น้ำมัน E20 ได้อีกด้วย

 

 

 

PowerShift 6 สปีด

ส่วนระบบเกียร์อัตโนมัติแบบคลัตช์คู่ PowerShift 6 สปีด มีระบบคลัตช์ที่ควบคุมจังหวะในการตัดต่อกำลังนั้นจะเป็นแบบคลัตช์คู่แยกการทำงานจากกัน เป็น 2 ชุด โดยชุดหนึ่งจะควบคุมการตัดต่อกำลังของเกียร์ 1, 3 , 5 ในขณะที่คลัตช์อีกชุดจะควบคุมการทำงานของเกียร์ 2, 4, 6 ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ ของเกียร์ PowerShift มีการทำงานที่รวดเร็วจากการทำงานที่สลับกันของ 2 ชุดคลัตช์ เลยให้ทั้งความนุ่มนวล และความรวดเร็วในการเปลี่ยนเกียร์ไปพร้อมๆ กัน

 

สมรรถนะของเครื่องยนต์

มาออกเดินทางกันดีกว่ามุ่งหน้า Motor Way เรียกสมรรถนะของเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร บวก PowerShift 6 สปีด บทพิสูจน์แรก กดคันเร่งจมไม่นานบนมาตรวัดก็กวาดมาอยู่ที่ 100 กม./ชม. แบบทันใจวัยรุ่น มองทางข้างหน้าถนนยังโล่งอยู่ กดคันเร่งต่อไปอีกสักพักเข็มความเร็วก็มาหยุดอยู่ที่ 197 กม./ชม. ซึ่งถือว่าแรงดีครับ  แต่พอลดความเร็วลงใช้ความเร็วเดินทางประมาณ 80-100 กม./ชม. เจ้าเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ให้อัตราทดที่ต่ำในเกียร์ที่ 6 ส่งผลให้เวลาเดินทางไกลเครื่องยนต์ไม่ต้องรับภาระที่หนัก ก็สำแดงเดชแสดงตัวเลขการบริโภคน้ำมันประมาณ 14 กม./ลิตร เท่านั้นเอง

 

US. Suspension.

ทดลองขับมาหลากหลายรูปแบบ สิ่งที่ผมขอยอมรับเลยว่าเยี่ยม คือ ระบบช่วงล่างหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบกึ่งอิสระทอร์ชั่นบีม ระบบพวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนียน พร้อมพาวเวอร์ช่วยแบบไฟฟ้า อารมณ์แรกที่ชอบ คือ น้ำหนักพวงมาลัยแบบยุโรป ถ้าคุณขับรถญี่ปุ่นมาตลอดคุณจะรู้สึกว่ามันหนักเกินไป แต่น้ำหนักพวงมาลัยขนาดนี้ ทำให้เกิดความมั่นใจในการขับขี่ด้วยความเร็วสูง ยิ่งเวลาคุณเปลี่ยนเลน เข้าโค้ง ตามสถานการณ์ต่างๆ คมกริบ บวกกับช่วงล่างที่ดีของ FORD ทำให้การขับขี่ทางตรงและทางโค้งเยี่ยมมาก

 

ระบบเบรคหน้า

ส่วนระบบเบรคหน้าเป็นดิสก์เบรค มีช่องระบายความร้อน ด้านหลังเป็นดรัมเบรค ที่ทำงานร่วมกับระบบป้องกันล้อล็อคและกระจายกำลังในการเบรค ABS & EBD ทำงานสอดประสานกันอย่างลงตัว  แต่ยาง195/50 R16 ที่มากับลออัลลอยขนาด 16 นิ้ว เวลาเข้าโค้งออกเสียงร้องดังไปสักหน่อยนะครับ

 

ราคาค่าตัว 699,000 บาท จะคุ้มค่าหรือไม่สำหรับคุณ ผมตัดสินใจแทนไม่ได้ แต่สำหรับสิ่งที่คุณจะได้รับ คือ งานดีไซน์ที่ล้ำสมัยทั้งภายใน ภายนอก เครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะเยี่ยม สำคัญที่สุดคือช่วงล่างที่ลงตัว