Honda Civic 1.8 EL Red แดงเข้าไว้ ไปไหนใครก็มอง

ถึงแม้อายุของของ ฮอนด้า ซีวิค รุ่นล่าสุดจะไม่ใหม่สดซิง แต่ฮอนด้าก็มีอะไรใหม่ๆ ออกมากระตุก กระตุ้นให้ตลาดได้คึกคัก ด้วยตัวถัง สีแดง (Rallye Red) ที่มีให้เลือกใน 2 รุ่นย่อย คือ Honda Civic 1.8 EL Red และ Honda Civic 1.5 Turbo RS ซึ่งความน่าสนใจของเจ้า สีแดง มันสะดุดตาไม่น้อย จึงขอลองในรุ่นเล็กอย่าง ซีวิค 1.8 EL ที่มีราคาค่าตัว 959,000 บาท โดยไม่ได้มีการปรับเพิ่มแต่อย่างใด มารีวิวความเด่น ถึงพลังแดงเพลิงกันสักหน่อย

ทำไมไม่เอารุ่นท้อป 1.5 Turbo RS มีรีวิวล่ะ เป็นเพราะเราอยากให้ผู้อ่านที่สนใจ ฮอนด้า ซีวิค ได้สัมผัสกับรุ่นที่ถือว่า mass ที่สุดไปพร้อมๆ กับเรา เพราะจะมีสักกี่คนที่กำเงินข้ามหลักล้านไปคว้ารุ่นตัวแรงมาครอง ซึ่งหากคุณไม่ได้ยึดติดว่าต้องมี ม้า ใต้ฝากระโปรง มาประดับบารมีแล้วล่ะก็ เจ้าสีแดง เครื่อง 1.8 ตัวนี้ ก็มีอะไรมากมาย ชวนให้หลงใหลอยู่ไม่น้อย

honda_civic_1.8el_red_09

honda_civic_1.8el_red_12

honda_civic_1.8el_red_07

ทรงปราดเปรียว เฉี่ยวล้ำอนาคต สาวกซีวิคจึงไม่หนีไปง่ายๆ

วิถีการตลาดที่สร้างสมกันมาหลายต่อหลายเจนของซีวิค ทำเอาสาวกยากที่จะปันใจ มิติตัวถังมีขนาดความกว้าง 1,799 มม. ยาว 4,630 มม. สูง 1,416 มม. ความสูงจากพื้นถนนถึงใต้ท้องรถ 125 มม. ระยะห่างล้อหน้า 1,547 มม. ล้อหลัง 1,563 มม.ระยะฐานล้อ 2,698 มม. น้ำหนัก 1,242 กก.

แก้มด้านข้างติดกับกันชน ติดตั้งไฟหรี่สีเหลืองอำพัน เป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้ กรอบกระจกมองข้างมีไฟเลี้ยว มือจับประตูแบบโครเมียม ด้านไฟท้ายไม่น้อยหน้ารุ่นพี่อย่าง 1.5 เทอร์โบ เพราะเหมือนกันเด๊ะ มีทั้งแบบ LED และหลอดไส้แบบปกติผสมกัน ซึ่งในรุ่น 1.8 EL อาจจะหล่อน้อยกว่านิดเดียว แต่ขับสบายกว่าด้วยล้อแม็กลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว มาพร้อมยาง Dunlop Enasave ขนาด 215/55R16

 

ห้องโดยสาร Honda Civic 1.8 EL Red แนวสปอร์ตบุคลิกขรึมๆ

การเลือกใช้โทนสีดำแนวสปอร์ต และการเลือกใช้วัสดุภายในห้องโดยสาร ดูดีคุ้มค่ากับราคาใกล้เคียงล้าน ไม่ว่าจะเป็นพลาสติก และหนังสังเคราะห์ที่หุ้ม เบาะนั่งฝั่งคนขับติดตั้งไฟฟ้ามาให้เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน ปรับได้เยอะให้มุมมองท่านั่งที่หลากหลาย รวมถึงพวงมาลัยที่ใส่ใจให้ปรับได้ถึง 4 ทิศทาง ไม่ว่าคุณจะมีสรีระแบบไหน ขาสั้น แขนยาว ก็ปรับท่านั่งให้เหมาะสมได้ง่าย ส่วนเบาะฝั่งคนนั่งยังคงปรับมือเหมือนเดิม

honda_civic_1.8el_red_02

พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น มีครบถ้วนกระบวนความเหมือนกับรุ่นเทอร์โบ ทั้งควบคุมเครื่องเสียง รับ-วางสายโทรศัพท์ด้วยบลูทูธ และระบบตั้งความเร็วอัตโนมัติ จอแสดงผลตรงกลางคอนโซล แสดงข้อมูลเป็นภาษาไทยได้ด้วย นอกจากแสดงเกี่ยวกับระบบปรับอากาศ เครื่องเสียงแล้ว ยังสามารถแสดงข้อมูลการขับขี่ ทั้งอัตราสิ้นเปลือง ปริมาณน้ำมันที่สามารถวิ่งได้ และยังมีกล้องมองหลังติดตั้งมาให้ด้วย

1.8 ลิตร เท่านี้ก็เพียงพอ ถ้าไม่มุทะลุบ้าพลัง

เครื่องยนต์ที่ติดตั้งมาให้นี้ มีขนาด 1,799 ซีซี แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว SOHC i-Vtec จ่ายเชื้อเพลิงแบบมัตติพอยท์ ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 174 นิวตัน-เมตรที่ 1,800-4,300 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังเลือกคบหากับเกียร์อัตโนมัติ CVT ไม่มี paddle shift ตรงหลังพวงมาลัยให้ปรับเกียร์ แต่จะใช้วิธีดึงคันเกียร์ลงมา 1 เสต็ป ที่ตำแหน่ง S หากอยากได้ความกระฉับกระเฉงของการตอบสนอง

honda_civic_1.8el_red_18

ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็กเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบอิสระมัลติลิ้งค์ พร้อมเหล็กกันโคลง พวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พิเนียน พร้อมมอเตอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า รัศมีวงเลี้ยว 5.33 เมตร ส่วนระบบเบรก เป็นแบบดิสก์ทั้ง 4 ล้อ มาพร้อมกับระบบ ABS, EBD เพื่อช่วยกระจายแรงเบรก และยังมีระบบควบคุมการทรงตัว VSA รวมถึงระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS

 

สรุปรวบรัด หลังจากอยู่กันมาหลายวัน

สารภาพตามตรงกับเจ้าซีวิค สีแดง แปร๊ด ไร้ซึ่งฟิล์มกรองแสง แรกๆ ก็มีเขินบ้าง แต่สักพักเริ่มชินแล้วรู้สึกสนุกไปกับมัน ด้วยฟีลลิ่ง ตั้งแต่ความอวบ และผิวสัมผัสอันละมุนของวงพวงมาลัย ยิ่งถ้าใครที่ได้ขับฮอนด้าไม่ว่ารุ่นไหนในเจนฯ ล่าสุดนี้ จะรับความรู้สึกของพวงมาลัยว่า มีอารมณ์คล้ายคลึงกันมาก คือจะให้ความนิ่ง แม่นยำ พยายามจะรักษาให้พวงมาลัยกลับมาตรงอยู่ตลอด

การตอบสนองของคันเร่งอยู่ในระดับกลางๆ ตามขนาดและแรงม้าของเครื่องยนต์ เอาว่ามีกำลังให้ใช้เต็มที่ตั้งแต่ออกตัว จะเร่งแซงก็เช็กบิลได้แบบไม่ต้องลุ้น ความเร็วเดินทางทางไกลแบบขับเร็วพอสมควรก็ไม่ต้องเค้นอะไรมาก เกียร์ CVT ชุดนี้ปรับเปลี่ยนได้นุ่มนวล ช่วงล่างตอบสนองได้นุ่มนวล และเกาะถนนจนแทบไม่ต้องเพ่งสมาธิเมื่อมองมาตรวัดความเร็วที่เกินกม.กำหนดไปมากพอควร รวมถึงการเข้าโค้งที่ความเร็วมากกว่ากม.กำหนด แทบไม่รู้สึกถึงอาการโยนเลย ถ้าจะให้เทียบคงต้องบอกว่าทำได้ดีกว่าซีวิค FB รุ่นก่อนแบบเห็นๆ และชัดเจนมาก จนต้องบอกว่านี่เป็นเก๋งที่มีสมรรถนะของช่วงล่างที่เกาะถนนและนุ่มนวลรุ่นหนึ่งเลย

ส่วนระบบเบรกก็ตอบสนองไวเป็นธรรมชาติของฮอนด้าอยู่แล้ว และเมื่อทำความรู้จักกันมาพักใหญ่ ผลของอัตราสิ้นเปลือง เมื่อผ่านการจราจรที่หยุดบ้างติดบ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นเดินทางไกลแบบใช้ความเร็วค่อนข้างสูงเสียเป็นส่วนใหญ่ กับระยะทาง 452 กม.เติมน้ำมันไป 900 บาท ได้น้ำมันมา 34.63 ลิตร บวกลบคูณหารมาแล้วตก 13.05 กม./ลิตร ส่วนตัวถือว่าพอใจมากทีเดียวเพราะตลอดการขับขี่นี่เรียกกำลังมาใช้อยู่ตลอด

เอาเป็นว่าถ้าคุณไม่ได้บ้าพลังขนาดที่เจอรถซิ่งบนถนนแล้วต้องไปวัดกับใครเค้าล่ะก็ Civic 1.8 EL Red ตัวนี้มีดีในเรื่องของสมรรถนะทั้งเครื่องยนต์ และช่วงล่างรวมถึงอัตราสิ้นเปลือง ส่วนรูปทรงโฉบเฉี่ยวล้ำสมัยแบบนี้จัดว่าอินเทรนด์…ที่สำคัญถ้าคุณชอบที่จะเป็นจุดเด่น ได้รับความสนใจ ขับไปไหน หรือจอดติดไฟแดง รับรองเลยว่าสายตาหลายคู่จะมองมายังรถคุณ

แท็กยี่ห้อรถยนต์ : Honda

แท็กฮิต : , , , , ,