Honda Connect (ฮอนด้า คอนเนค) นวัตกรรมล่าสุด “ล้ำ” ยังไงมาดูกัน
หลังจากปล่อยค่ายอื่น “โชว์ของล้ำๆ” กันตามสบายมาพักใหญ่ ก็ถึงคราวที่ค่าย Honda (ฮอนด้า) จัดให้บ้าง กับเทคโนโลยีล่าสุดที่ชื่อว่า Honda Connect (ฮอนด้า คอนเนค) ที่เค้าว่ากันว่าไม่แพ้ใคร … เพราะฉะนั้นมาดูกันดีกว่า ว่ามันเป็นยังไง และจะ “ล้ำสมัย” แค่ไหนเชียว
Honda Connect (ฮอนด้า คอนเนค) คือ อะไร … ?
Honda Connect (ฮอนด้า คอนเนค) เป็น นวัตกรรมล่าสุดที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการขับขี่อย่างมั่นใจ และปลอดภัยในทุกการเดินทาง โดยใช้เทคโนโลยีที่ผสานการทำงานกับ Application บนมือถือ Smartphone ที่ผู้ขับขี่ และรถยนต์สามารถเชื่อมต่อ สื่อสารกันได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
โดยเทคโนโลยีดังกล่าวมีชื่อว่า “Telematics” ซึ่งเป็นระบบอัจฉริยะ ทำหน้าที่ควบคุมการรับ-ส่งข้อมูลทางไกล ระหว่าง Application บนมือถือ Smartphone และกล่องอุปกรณ์รับ-ส่งข้อมูลทางไกล (Telematics Control Unit หรือ TCU) ที่ถูกติดตั้งบนรถยนต์ฮอนด้า เพื่อเก็บข้อมูลสำคัญผ่านเครือข่ายโทรศัพท์
พร้อมกับจัดเก็บ และประมวลผลโดย Cloud Technology ซึ่งมีระบบ GPS คอยช่วยช่วยในการตรวจสอบพิกัดรถยนต์ ทำให้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน Call Center จะสามารถตรวจสอบ พร้อมแจ้งเตือน เพื่อส่งความช่วยเหลือให้ ผู้ขับขี่ได้อย่างทันท่วงที ส่วนฟังค์ชั่นหลักๆ ของ “ฮอนด้า คอนเนค” จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
6 ฟังค์ชั่นน่าสนใจของ “ฮอนด้า คอนเนค”
1) ฟังก์ชั่นสถานะรถยนต์
ช่วยแจ้งสถานะความพร้อมของรถยนต์ก่อนออกเดินทาง เช่น ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น และอื่นๆ รวมถึงแจ้งเตือนการบำรุงรักษา ประวัติการเข้ารับบริการและกำหนดการเข้ารับบริการครั้งถัดไป เพื่อให้ผู้ใช้ได้ดูแลรถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
2) ฟังก์ชั่นข้อมูลลักษณะการขับขี่
จะบันทึกข้อมูลการขับขี่และแสดงผลพฤติกรรมการขับขี่ต่างๆ เช่น ระยะทางการขับขี่ ช่วงเวลาการขับขี่ อัตราความเร็วสูงสุด อัตราความเร็วเฉลี่ย และการบันทึกประวัติการเดินทาง
3) ฟังก์ชั่นตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์
โดยผู้ใช้งานสามารถขอพิกัดของรถยนต์ (Find My Car) ได้โดยผ่านฟังก์ชั่นแสดงพิกัดรถยนต์ เมื่อเลือกฟังก์ชั่นขอพิกัดรถยนต์ ระบบจะทำการส่งพิกัดไปยังอีเมล์ที่ลงทะเบียนไว้ (เพื่อความเป็นส่วนตัวของข้อมูล) ในกรณีที่รถยนต์ถูกเคลื่อนย้าย ระบบจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนความผิดปกติมาที่ฟังก์ชั่นสถานะพิกัดรถยนต์ในแอปพลิเคชันบนมือถือสมาร์ทโฟน
4) ฟังก์ชั่นติดต่อเพื่อช่วยเหลือฉุกเฉิน
เมื่อถุงลมทำงานในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ระบบจะส่งสัญญาณไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า (Honda Call Center) เพื่อติดต่อและประสานงานให้ความช่วยเหลือไปยังเบอร์โทรที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรสำรองฉุกเฉิน หากไม่สามารถติดต่อได้ ระบบจะทำการติดต่อหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน (1669)
ในกรณีเหตุฉุกเฉินอื่นๆ ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปที่ฟังก์ชั่นเบอร์โทรสำคัญสำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่น ศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า สถานีตำรวจ รถพยาบาล บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง รวมทั้งบริษัทประกันภัย เพื่อบริการประสานงานความช่วยเหลือฉุกเฉิน
5) ฟังค์ชั่นค้นหาและแชร์การเดินทาง
เป็นการทำงานเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันแผนที่ เพื่อค้นหาเส้นทางหรือสถานที่ใกล้เคียง เช่น สถานีบริการน้ำมัน ตู้เอทีเอ็ม ร้านสะดวกซื้อ หรือผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า ทั้งนี้ ผู้ใช้สามารถทำการบันทึกสถานที่ที่ใช้ประจำ เพื่อช่วยในการนำทางไปยังจุดหมายได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น อีกทั้งสามารถแชร์บันทึกการเดินทางพร้อมภาพถ่ายบนเฟซบุ๊กส่วนตัวได้อีกด้วย
6) ฟังค์ชั่นข่าวสารและสิทธิพิเศษ
ทำหน้าที่ให้บริการแจ้งข้อมูลข่าวสารและสิทธิพิเศษต่างๆ รวมถึงแจ้งเตือนการต่อประกันภัยและภาษีรถยนต์ล่วงหน้าให้กับผู้ใช้งาน
ข่าวดีสำหรับสาวก Honda
สำหรับลูกค้าที่สนใจติดตั้ง ระบบ Honda Connect (ฮอนด้า คอนเนค) นั้นก็สามารถติดต่อศูนย์บริการใกล้บ้านเพื่อนัดหมาย และนำรถเข้าติดตั้งกล่องอุปกรณ์รับ-ส่งข้อมูลทางไกล (Telematics Control Unit หรือ TCU) ได้เลยทันทีทั่วประเทศ
ตามด้วยวิธีการง่ายๆ คือ ทำการดาวน์โหลด Application Honda Connect Thai ที่รองรับได้ทั้งระบบปฎิบัติ iOS เวอร์ชั่น 8.0 ขึ้นไป และระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 4.0 ขึ้นไป จากนั้นศูนย์บริการจะทำการลงทะเบียนเชื่อมต่อข้อมูล TCU และ Application เพื่อสร้างบัญชีการใช้งาน
เพียงเท่านั้นคุณก็สามารถใช้งานได้ทันที ระบบ Honda Connect (ฮอนด้า คอนเนค) มากับราคาจำหน่ายเพียง 5,900 บาท (ฟรีค่าติดตั้ง และค่าสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์เพื่อการส่งข้อมูลรายปี รวม 2 ปี) และพร้อมให้บริการตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม เป็นต้นไป ณ โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ส่วน “รุ่นรถที่สามารถติดตั้งได้ ก็เช็คเอาเลยจากรายละเอียดด้านล่างครับ”
รุ่นรถยนต์ | ปี |
Brio / Brio Amaze | 2016-2017 |
City / Jazz | 2014-2017 |
Mobilio | 2014-2017 |
BR-V | 2016-2017 |
Civic | 2012-2017 |
Civic Hatchback | 2017 |
HR-V | 2015-2017 |
CR-V | 2012-2017 |
Accord | 2013-2017 |
Odyssey | 2014-2017 |