Honda NSX การกลับมาของ “ตำนาน” โดย Honda Thailand
อีกหนึ่งความร้อนแรงแห่งงาน Motor Expo 2018 ที่ผ่านมา คงต้องยกให้กับค่าย Honda Thailand ที่งานนี้สร้างเสียงฮือฮาด้วย 2 ยนตรกรรมใหม่บนเวที และอีกหนึ่งความเร้าใจที่ “โคตร” สะดุดสายตาอย่าง Honda NSX ที่เค้าว่ากันว่านี่คือ “ต้นกำเนิด” ของ “อรรถรส” ในการขับของยนตรกรรม Honda ทุกรุ่น … และเราควรรู้จักเค้าให้ลึกซึ้งกว่านี้
Honda NSX “นาม” ของ “สปอร์ต” แห่งตำนาน
Honda NSX “นาม” แห่งตำนานจากปี 1989 ถูกปลุกให้ฟื้นกลับคืนมาในปัจจุบันอีกครั้ง สู่เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดแห่ง “NSX” ที่มากับความล้ำสมัยแบบสุดขั้ว ตั้งแต่วินาทีแรกที่โชว์ตัวท่ามกลางแสงไฟในบูธ ตั้งแต่งานดีไซน์รูปลักษณ์สุดล้ำที่เปี่ยมด้วยความงดงาม และโฉบเฉี่ยว ตามหลักอากาศพลศาสตร์ จากการคำนวนนับพันๆ ชั่วโมงจากโปรแกรม CFD – Computational Fluid Dynamics ในอุโมงค์ลม
ซึ่งภายใต้รูปลักษณ์ คือ ชิ้นงานจากฝีมือของ PMC หรือ Honda’s Performance Manufacturing Centre และเป็นครั้งแรกที่ออกแบบ และสร้างขึ้นด้วยวัสดุอลูมิเนียมอัลลอยน้ำหนักเบาเป็นหลัก ผสมผสานด้วยวัสดุหลากหลายชนิด เสริมด้วยเหล็กกล้าพิเศษ Ultra-High Strength Steel และคาร์บอนไฟเบอร์ ให้กับโครงสร้างตัวถังแบบ Spaceframe
อรรถรสความ “สปอร์ต” ใหม่ที่ “เร้าใจ” ยิ่งกว่า
Honda NSX เวอร์ชั่นใหม่ยังคงยึดแนวทางความสปอร์ตเป็นหลัก และนำเสนอผ่านเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยในรูปแบบเครื่องยนต์ไฮบริด โดยใช้เครื่องยนต์เบนซินแบบ V6 พิกัด 3.5 ลิตร DOHC พ่วงระบบอัดอากาศ Twin – Turbocharged พร้อมระบบ Dual Variable Valve Timing Control ทำหน้าที่ผลิตกำลังสูงสุด 507 แรงม้า พร้อมแรงบิด 550 นิวตันเมตร สู่ล้อคู่หลัง
และยกให้มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ซึ่ง 2 ตัว จะติดตั้งในล้อคู่หน้าสำหรับขับเคลื่อนจะเรียกว่า Twin Motor Unit – TMU ในขณะที่อีกตัวคือ Direct Drive Motor ในล้อคู่หลัง ทำการเพิ่มเรี่ยมแรงให้อีก 74 แรงม้า รวมทั้งหมดเป็น 581 แรงม้า ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 9 สปีด (9 DCT) คลัทช์คู่ลูกใหม่ล่าสุด พร้อมระบบล็อคเฟืองท้าย Limited – Slip differential – LSD และโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือก คือ Quiet, Sport, Sport+ และ Track พร้อติดตั้งระบบช่วยออกตัว Launch Mode Control มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ซึ่งนอกจากนี้ระบบไอเสียก็มีการอัพเกรดขึ้นใหม่ เพื่อลดน้ำหนัก และติดตั้งระบบ Active Exhaust Valve – AEV ซึ่งจะปรับลักษณะของเสียงตามโหมดการขับขี่ โดยมี Electrically – Operated Valves จำนวน 2 ชุด เป็นตัวควบคุม ตามด้วยส่วนของระบบขับเคลื่อน ที่ยกระดับความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้นด้วยรูปแบบ 4 ล้อ ที่เรียกว่า Sport Hybrid SH-AWD หรือ Sport Hybrid Super-Handling All Wheel Drive system โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้ารับผิดชอบล้อคู่หน้า และเครื่องยนต์รับผิดชอบหน้าที่ล้อคู่หลัง
ในขณะที่ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบดับเบิ้ลวิชโบน และด้านหลังแบบมัลติลิงค์ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ วึ่งลดน้ำหนักด้วยวัสดุอลูมิเนียม พร้อมด้วยการอัพเกรดโช๊คอัพใหม่เป็นแบบ Active Magnetorheological (MR) Dampers เจนเนอเรชั่นที่ 3 และติดตั้งล้ออัลลอยด์ขนาด 245 / 35 ZR19 ในด้านหน้า และขนาด 305 / 30 ZR20 ในด้านหลัง มาพร้อมกับยางสมรรถนะสูง Continental ContiSport Contact
ซึ่งฝังระบบเบรกทรงประสิทธิภาพเจนเนอเรชั่นล่าสุดจากแบรนด์ Brembo ไว้ภายใน ซึ่งด้านหน้ามากับจานขนาด 368 มม. จับคู่คาลิปเปอร์ 6 Pot และด้านหลังขนาด 361 มม. และคาลิปเปอร์แบบ 4 Pot พร้อมฟังค์ชั่น Electro-Servo Braking System – ESB และ Regenerative Brake System ที่ช่วยยกระดับการเบรกได้อย่างเต็มสมรรถนะ และสามารถนำพลังงานที่สูญเสียไปกลับมาใช้ใหม่
ส่งท้ายด้วยตัวเลขสมรรถนะอันยั่วใจที่เค้าการันตีอัตราเร่งมาให้ คือ 0-100 กม./ชม. สามารถทำได้ในเวลาประมาณ 3.6 วินาที ในขณะที่ความเร็วสูงสุดอยู่นั้ตอกตัวเลขเอาไว้ที่ 307 กม./ชม.
ราคารถใหม่
Honda NSX เริ่มต้น 23,700,000 เยน หรือประมาณ 6,866,000 บาท
