ใหม่ ISUZU D-MAX Cab 4 และ ISUZU D-MAX Hi–lander มาพร้อมนวัตกรรมความแรง และความประหยัดสูงสุดด้วยขุมพลัง Blue Power

โพสต์เมื่อ 27th เมษายน 2017 หมวดหมู่: รถใหม่ในประเทศ โดย iAMCAR Team

ISUZU D-MAX Cab 4 และ ISUZU D-MAX Hi–lander ยนตรกรรมที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลายด้วยพื้นฐานของรถปิคอัพ 4 ประตู ซึ่งมาพร้อมนวัตกรรมความแรง และความประหยัดสูงสุดด้วยขุมพลัง Blue Power ที่นอกจากสมรรถนะอันโดดเด่นแล้ว ยังมาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว

ISUZU D-MAX Cab 4 และ ISUZU D-MAX Hi–lander

โดยเฉพาะในรุ่นท็อปสุด โดยจะประกอบด้วย ชุดกระจังหน้าแบบโครเมี่ยม, ไฟตัดหมอก และใหม่ล่าสุดกับชุดไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อม Silver Ring ส่วนด้านข้างดูแข็งแกร่งด้วย Muscular Fender โป่งล้อขึ้นรูปขนาดใหญ่ รับกับล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว และเสาอากาศแบบ Shark Fin ช่วยเสริมความสปอร์ต เช่นเดียวกับด้านหลังที่มากับดีไซน์โฉบเฉี่ยวด้วยสปอยเลอร์แบบ Built – in และไฟท้ายแบบ LED

ภายในของเวอร์ชั่น 4 ประตู มากับกว้างขวาง และการตกแต่งที่เน้นความสปอร์ต

ภายในของเวอร์ชั่น 4 ประตู มากับกว้างขวาง และการตกแต่งที่เน้นความสปอร์ต พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐาน เช่น เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำเข้มเดินด้ายสีเทา พร้อมระบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, ฟังค์ชั่น Push Start พร้อม Isuzu Genius Entry, พวงมาลัยมัลติฟังค์ชั่น และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, หน้าปัดเรืองแสงใหม่แบบ Super Vision พร้อมมาตรวัดใหม่แบบ 3D Shape Point พร้อมหน้าจอ Color Display MID ตามด้วยการเพิ่มเติมของใหม่ล่าสุด เช่น คอนโซลกลาง และดีไซน์ขอบข้างแผงประตูสีดำ Piano Black และมือจับเปิดประตูสีโครเมี่ยม, ที่พักแขนคอนโซลกลาง และข้างประตูแบบ Soft Pad ตลอดจนการติดตั้งช่อง USB บริเวณด้านหน้า และด้านหลังคอนโซลกลาง รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control มาให้ ในขณะที่สิ่งอำนวยความบันเทิงที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานนั้นอัพเกรดด้วยใหม่ด้วยแบรนด์ Kenwood ระบบเสียง Surround Sound จากลำโพงถึง 8 ตำแหน่ง และความชัดด้วย Roof Speaker และลำโพงคุณภาพสูง พร้อมระบบ Built-in Navigator แสดงผลผ่านหน้าจอระบบสัมผัสใหม่ขนาด 7 นิ้ว ที่มากับระบบ Air Mirroring สำหรับรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย Bluetooth กับ Smartphone ตลอดจน CD/DVD/MP3/WMA/AAC/Flash Drive และกล้องมองหลัง พร้อมเส้นกะระยะ Lane Guide

2 ทางเลือกความแรง และประหยัดจากนวัตกรรม Blue Power

ISUZU D-MAX Cab 4 และ Hi – lander มากับขุมพลัง Blue Power บนพื้นฐานของขุมพลังดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจคชั่น เทอร์โบแปรผัน VGS และอินเตอร์คูลเลอร์ พิกัด 1.9 Ddi Blue Power 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 1,800 – 2,600 รอบต่อนาที ซึ่งจะมีเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ติดตั้งฟังค์ชั่น Genius Sport Shift ที่จะบอกตำแหน่ง และแจ้งเตือนเปลี่ยนเกียร์อย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน ในขณะที่เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด จะมากับฟังค์ชั่น Rev Tronic ให้เปลี่ยนเกียร์ราวกับเกียร์ธรรมดา และทั้ง 2 รุ่นระบบส่งกำลังนั้นเพิ่มความสามารถในการประหยัดน้ำมันมากขึ้นด้วยตำแหน่งเกียร์ Over Drive 2 ตำแหน่ง คือ ในเกียร์ 5 และเกียร์ 6

สำหรับในรุ่นท็อปสุดรุ่น Hi – lander จะมากับเครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power 177 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 380 นิวตันเมตรที่ 1,800 – 2,800 รอบต่อนาที จะมากับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดลูกเดียวกัน พร้อมด้วยการเพิ่มเกียร์ธรรมดา 5 สปีดมาให้เพื่อการขับขี่ และการตอบสนองที่เร้าใจมากขึ้น พร้อมกับติดตั้งระบบ Isuzu Insight ในทุกรุ่น สำหรับรวบรวมข้อมูลการขับขี่ เพื่อนำมาวิเคราะห์ และประมวลผลพฤติกรรมของผู้ใช้รถอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถพัฒนาการขับขี่ทั้งด้านความประหยัดน้ำมัน และความปลอดภัยได้เต็มศักยภาพมากยิ่งขึ้น

ด้านระบบช่วงล่างมากับการพัฒนา และออกแบบพิเศษที่เรียกว่า i-GRIP Platform ซึ่งเพิ่มความยาวให้ฐานล้อ และแทรคล้อ บนพื้นฐานด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้นคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง พร้อมโช็กอัพแก๊ส ส่วนด้านหลังมากับแหนบแผ่นยาวพิเศษแบบ Long Span พร้อมโช็กอัพแก๊ส ตลอดจนการวางตำแหน่งเครื่องยนต์แบบ Semi – Midship ซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพการทรงตัว และการเกาะถนนให้ดียิ่งขึ้นอีกระดับ

เติมความมั่นใจด้วยมาตรฐานความปลอดภัยที่เหนือระดับ

ระบบความปลอดภัยถูกติดตั้งมาให้อย่างครบครัน เช่น ระบบ Active Safety ที่ประกอบด้วยการติดตั้งชุดไฟ Super Daylight LED แบบ Built-in ที่มองเห็นได้อย่างเด่นชัด, กล้องมองภาพจากด้านหลัง Rear View Camera พร้อมเส้นกะระยะ Lane Guide, ระบบ Auto Door Lock และระบบ Window Jam Protection, ระบบดิสก์เบรกขนาดใหญ่แบบมีครีบระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ พร้อมระบบ ABS ป้องกันล้อล็อค และระบบ Dual G-Sensor, ระบบ EBD และ BA ที่จะทำหน้าที่กระจายแรง และเสริมแรงดันน้ำมันเบรกอัตโนมัติ, ระบบควบคุมการทรงตัว ESC และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS – Hill Start Assis และล่าสุดได้เพิ่มระบบ HDC – Hill Descent Control ช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ส่วนระบบความปลอดภัยแบบ Passive Safety ช่วยปกป้องขณะเกิดอุบัติเหตุ จะประกอบด้วย โครงสร้างแบบ Single – Piece Reinforcement ซึ่งใช้เหล็กกล้าแบบขึ้นรูปชิ้นเดียว เสริมด้วยเหล็กกล้า High Tensile Strength Steel, แกนพวงมาลัย และแป้นเบรกแบบยุบตัวได้, ชุดแอร์แบคคู่ (Dual SRS Air Bag) ทำงานร่วมกับเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ

Specification

บทความที่เกี่ยวข้อง

ISUZU D-MAX X-Series ความเร้าใจที่มากับเทคโนโลยี Blue Power

ISUZU D-MAX V-Cross MAX 4X4 3.0 Ddi Blue Power

New Isuzu D-Max 1.9 Ddi Blue Power 2016