ย้อนอดีตสู่ทศวรรษที่ 80-90 … มารู้จัก Lamborghini LM รถอเนกประสงค์รุ่นแรกของแบรนด์กระทิงเปลี่ยว
Automobili Lamborghini เพิ่งจะสร้างความฮือฮาให้กับวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ด้วยการเปิดตัว Lamborghini Urus (แลมโบกินี่ ยูรัส) สร้างนิยมใหม่ของรถอเนกประสงค์แบบ Super SUV (ซูเปอร์ เอสยูวี) ไปเป็นที่เรียบร้อย
แต่รู้หรือไม่ว่า นี่ไม่ใช่ “ความพยายาม” ครั้งแรกของ Lamborghini ในกลุ่มรถอเนกประสงค์ เพราะงั้นผมจะพาย้อนอดีตสู่ทศวรรษที่ 80-90 เพื่อทำความรู้จักกับรถอเนกประสงค์โมเดลแรก Lamborghini LM ของแบรนด์กระทิงเปลี่ยวกันซักนิดดีกว่า
เปิดตัว Lamborghini LM รถอเนกประสงค์โมเดลแรกสุด
แนวคิดของ Lamborghini Urus (แลมโบกินี่ ยูรัส) และคุณปู่อย่าง Lamborghini รหัส LM นั้นเรียกว่าแทบจะไม่ต่างอะไรกันมากนัก เพราะเจ้ารถอเนกประสงค์รหัส LM นี้ คือ ความพยายามในการผสมผสานรถ High-Performance Grand Tourers และรถ Supercars เข้าไว้ด้วยกัน โดยได้มีการทดลองผลิตมาแล้วในช่วงปี 1977 และใช้ชื่อโครงการว่า Cheetah
ก่อนจะเผยโฉมเวอร์ชั่นจริง ด้วยรหัสตัวถัง LM001 เปิดตัวขึ้นในงาน Geneva Auto Show ปี 1981 ซึ่งหวังเจาะตลาดด้านการทหารสหรัฐ ฉะนั้นเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นั้นไม่ต้องถามหา เพราะเน้นพละกำลังเพียงอย่างเดียว ด้วยการติดตั้งเครื่องยนต์ V8 ของ Chrysler มาใช้ ควบคู่ไปกับการทดลอง และพัฒนา ก่อนจะตัดสินใจเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่มาใช้ AMC แบบ V8 พิกัด 5.9 ลิตร แทน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการขับเคลื่อน
ต่อยอดสู่เวอร์ชั่นขายจริง ที่มีจำนวนผลิตเพียง 300 คัน
จากก้าวแรกในชื่อโครงการ Cheetah สู่ยนตรกรรมสายทหารในรหัส LM001 ก็ถึงเวลาต่อยอดสู่เวอร์ชั่นผลิตขายจริง ซึ่ง Lamborghini ได้เปิดโครงการ Prototype ขึ้นใหม่อีกครั้ง ในช่วงทศวรรษที่ 80 โดยใช้รหัสตัวถังว่า LMA002 ซึ่ง “รื้อ” ใหม่หมด ตั้งแต่การปรับเปลี่ยนโครงสร้างตัวถังใหม่เป็นอลูมิเนียม และไฟเบอร์กลาส
ในขณะเดียวกันก็เพิ่มเติมความแรงขึ้นด้วยเครื่องยนต์ V12 จากรุ่น Countach มาวางด้านหน้า โดยมีพิกัดความจุถึง 5,167 ซีซี และกำลังสูงถึง 450 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบล็อคเฟืองท้าย จากนั้นก็ถึงคราวที่วิศวกรทำการทดสอบเต็มระบบ จนสามารถให้กำเนิด Lamborghini สไตล์ SUV เวอร์ชั่นปกติออกมาได้สำเร็จในรหัสตัวถัง LM002
ซึ่งมีชื่อเล่นว่า “Rambo-Lambo” และเปิดตัวขึ้นในงาน Brussels Auto Show ปี 1986 มาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น การเลือกใช้วัสดุหนังเกรดดี, กระจกไฟฟ้า, ระบบปรับอากาศ, เครื่องเสียง, ติดตั้งยางสมรรถนะสูง Pirelli แบบพิเศษ ซึ่งการันตีท็อปสปีดเอาไว้ถึง 200 กม./ชม. เลยทีเดียว
และประเด็นสำคัญก็คือ LM002 นั้นมียอดการผลิตออกมาเพียงแค่ 300 คันเท่านั้น นอกจากนี้ในโมเดล LM002 ยังมียอดการสั่งซื้อในเวอร์ชั่นการทหารเช่นกัน โดยจะมีการปรับแต่งใหม่ เช่น การนำอุปกรณ์อำนวยความสะดวกออกไป ปรับเปลี่ยนเป็นหลังคาแบบเปิดได้ พร้อมด้วยการเพิ่มจุดติดตั้งปืนกลหนัก
และไม่ใข่แค่นั้น เพราะเจ้า LM002 ยังเคยไปโลดแล่นอยู่ในวงการมอเตอร์สปอร์ตช่วงปี 1988 ในศึก Paris Dakar Rally อีกด้วย ซึ่งมาพร้อมการอัพเกรดเต็มขั้น ตั้งแต่พละกำลังที่พกพามากว่า 600 แรงม้า, ระบบช่วงล่างอัพเกรดใหม่, ติดตั้ง Roll Cage เพิ่มความแข็งแกร่ง, เปลี่ยนกระจกเป็นแบบ Plexiglas ตามด้วยการติดตั้งระบบนำทาง GPS
โดยก่อนจะสิ้นสุดสายการผลิต Salvatore Diomante เจ้าของสำนักแต่ง Turin-Based Autoshop ในยุคนั้นก็ได้ทำการสร้าง “ของแปลก” ขึ้นมาใหม่ โดยใช้พื้นฐานจาก LM002 ต่อยอดสู่เวอร์ชั่น Estate ซึ่งมีความแปลกตาด้วยลักษณะตัวถังที่ยาวขึ้น แนวหลังคาสูงขึ้น เพื่อให้มีห้องโดยสารภายในที่กว้างขึ้น
และเผื่อใครยังไม่รู้ เจ้า Lamborghini LM002 เคยถูกนำกลับมาเข้าฉากหนังซีรี่ส์ชื่อดังอย่าง Fast and Furious ภาค 4 ในปี 2009 ด้วยนะจะบอกให้
บทความที่เกี่ยวข้องกับ Lamborghini