Lane Departure Warning รู้จักกันหน่อย ว่ามันช่วยเรื่องความปลอดนะ

ทุกวันนี้หลายคนเริ่มรู้จักระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่รถยนต์หลายๆ รุ่น หลายๆ นี่ห้อนำมาติดตั้งกันมากขึ้น เพราะส่วนใหญ่ไม่ว่าจะตัวถัง หรือเครื่องยนต์ก็ถูกพัฒนาไปไกล จนเหลือแต่ระบบความปลอดภัยแบบกำลังเสริม ที่หลายค่ายติดตั้งมาให้เพื่อให้มีจุดขายที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือ ระบบ Lane Departure Warning เราไปทำความรู้จักระบบนี้กันสักนิดว่า มันคืออะไร และทำงานอย่างไร

Lane Departure Warning คือ

ระบบที่เราจะพาไปรู้จักนี้ ถ้าให้แปลตามคำภาษาอังกฤษ คงต้องบอกให้เข้าใจอย่างง่ายๆ ว่าคือ ระบบเตือนให้ขับอยู่ในเลน นั่นหมายความว่า เมื่อการขับขี่ของผู้ขับ มีแนวโน้มออกนอกเลน หรือช่องจราจร ระบบที่ว่านี้ก็จะเตือนขึ้นมา ไม่ว่าจะด้วย เสียง หรือการสัมผัสก็ตาม (เดี๋ยวอธิบายในย่อหน้าต่อๆ ไป)
จากคำอธิบายด้านบน นั่นหมายถึงว่า เวลาที่เราขับขี่ แล้วมีการเบี่ยงออกนอกเลน (เส้นจราจรทั้ง 2 ข้าง) ระบบจะสันนิษฐานว่า ผู้ขับขี่น่าจะไม่พร้อมในการควบคุมรถ อาจเป็นไปได้ว่ากำลังหลับใน หรือไม่ก็เหม่อ หรือเผลอเรอขาดสมาธิ จนไม่ได้ควบคุมทิศทางของตัวรถ

การทำงานของระบบ

ระบบการเตือนการออกนอกเลนนี้ จะใช้วิธีการ อ่านเส้นจราจร หมายถึงว่า ถนนที่ขับขี่อยู่นั้น ต้องมีเส้นจราจรตีแบ่งเป็นช่อง และเห็นอย่างชัดเจน ซึ่งวิธีการอ่านเส้นจราจร ก็ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีของระบบ แต่ก่อนก็จะใช้กล้องที่ติดไว้ใต้กระจกมองข้างเป็นตัวอ่าน ต่อมาก็พัฒนาใช้เรดาร์เข้ามาแทน ซึ่งมีความแม่นยำมากกว่า

 

เตือนอย่างไร

ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีอีกเช่นกัน อย่างแต่ก่อน หากล้อข้างหนึ่งข้างใดเริ่มเหยียบเส้น ระบบจะประเมินแล้วว่า คนขับไม่พร้อมในการควบคุมรถ ก็เลยใช้เสียงเตือน เมื่อเริ่มที่จะออกนอกเลน แต่ถ้าต้องการที่จะออกนอกเลนจริงๆ เพราะต้องเปลี่ยนช่องจราจร ระบบมันถูกเซ็ตมาแล้วว่า ถ้าคนขับเปิดไฟเลี้ยวในขณะที่กำลังจะเปลี่ยนเลน ระบบก็จะไม่เตือน

ต่อมาเสียงเตือนเริ่มล้าสมัยลง ผู้ผลิตจึงได้พัฒนาระบบให้ เตือนแบบสั่นที่พวงมาลัย คนขับจะได้รับความรู้สึกแบบสัมผัส และระบบนี้เตือนด้วยการสั่นบนพวงมาลัยนี้ จะมาพร้อมกับความเฉลียวฉลาดมากขึ้น ด้วยการดึงพวงมาลัยให้กลับมาอยู่ในช่องจราจรอีกด้วย ซึ่งระบบนี้ส่วนใหญ่มักเรียกว่า Lane Keeping Aid หรือ Lane Keeping Assist หรือ Assist Steering ก็ว่ากันไปตามแต่เจ้าของแบรนด์รถจะตั้งชื่อ

แท็กฮิต : ,