รีวิว : LEXUS IS250 Minorchange ตอนที่ 2 interior
ลองเปิดประตูเข้าไปนั่ง LEXUS IS250 Minorchange ความรู้สึกที่ได้รับ คือ ลืมความเป็นซีดาน 4 ประตูไปเลย นึกได้อย่างเดียว คือ เรานั่งอยู่ในรถสปอร์ตร้อยเปอร์เซ็นต์ แถมสะท้อนความหรูหราออกมาอย่างเต็มตัว
ภายใน
ไม่ว่าจะเป็นแผงคอนโซลหน้า และลายไม้แบบใหม่ เบาะหนังแท้แบบ Semi-Aniline สีใหม่ มาตรวัด เรืองแสง แสดงสถานะการทำงาน ด้วยจอแสดงผล LCD และไฟ Day Indicator ยังเพิ่มลูกเล่นในตัวมาตรวัดสามารถเปลี่ยนสีไปตามรอบเครื่องยนต์ได้
ผมลองเอามือไปสัมผัสพวงมาลัยแบบสามก้านที่ซ่อน Sport Paddle Shift ไว้ด้านหลังพวงมาลัยให้ความรู้สึกคล้าย F1 ส่วนแผงคอนโซลหน้าเลือกสีสันแบบทูโทน เติมความหรูหราด้วยอลูมิเนียมสีเงินและลายไม้บริเวณคอนโซลเกียร์ ส่วนชุดเรือนไมล์เน้นดีไซน์สปอร์ต พร้อมออฟชั่นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโหมดการทำงานเตือนรอบและความเร็ว ด้วยการเปลี่ยนสีของตัวมาตรวัด ซึ่งยังสามารถแบ่งการเตือนออกได้เป็น 2 ระดับ คือในช่วงแรกจะขึ้นมาเป็นสีส้ม เพื่อเตือนในระดับแรกที่ตั้งไว้ และจะเปลี่ยนเป็นสีแดง หากถึงระดับที่สองที่ตั้งเอาไว้ สามารถตั้งได้ทั้งสองมาตราวัด ทั้งวัดรอบและวัดความเร็ว
ส่วนความพิเศษอีกอย่างของ IS 250 สำหรับผู้ที่หลงใหลในสุนทรียภาพทางเสียง ด้วยชุดเครื่องเสียงติดรถยนต์ของ Mark Levinson ที่เป็นชุดวิทยุพร้อมเครื่องเล่นซีดี และชุดลำโพงทั้งสิ้นอีก 14 ตัว ที่จะช่วยให้ความเพลิดเพลินได้ตลอดการเดินทาง
ที่ผมรู้สึกชอบเป็นการส่วนตัว คือ เบาะนั่งคู่หน้า นอกจากจะควบคุมการปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมเมมโมรี่ สำหรับบันทึกความจำแล้ว is 250 ยังได้ติดตั้งระบบระบายอากาศของเบาะคู่หน้ามาให้ครบจากโรงงาน เพียงแค่เลือกจากสวิตช์ที่คอนโซลกลาง
โดยหมุนเลือกว่าจะเอาเป็นร้อนหรือว่าเย็นเท่านั้น ทั้งผู้ขับและคนนั่งก็จะสามารถผ่อนคลายได้ตลอดการเดินทาง ส่วนเบาะคู่หลังยังคงให้ความสบายได้ในระดับหนึ่ง แต่อาจจะรู้สึกแคบไปนิด ถ้าหากผู้โดยสารตอนหลังมีรูปร่างใหญ่ไปหน่อยเพราะเค้าเน้นเส้นสายการออกแบบให้มาเป็นสปอร์ต
บทความแนะนำ
LEXUS is 250 Minorchange ตอนที่ 4 Suspension
LEXUS is 250 Minorchange ตอนที่ 3 Performance
LEXUS is 250 Minorchange ตอนที่ 1 Overview