รีวิว : LEXUS IS250 Minorchange ตอนที่ 3 Performance

โพสต์เมื่อ 18th ตุลาคม 2010 หมวดหมู่: Test Drive by iAMCAR โดย ป๋าซุ่ม..ขยุ้มหัวใจ

ได้เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์ LEXUS IS250 Minorchange เพื่อการเดินทางกันซักที ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบใหม่ที่ให้คุณควบคุมการสตาร์ทเครื่องยนต์หรือดับเครื่องยนต์ง่าย ๆ เพียงแค่กดปุ่ม

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์

ซึ่งระบบนี้จะทำงานควบคู่กับชุดกุญแจแบบ Smart key ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถล็อกรถหรือปลดล็อกรถได้อย่างง่ายเพียงแค่สัมผัสปุ่มที่มือจับประตูโดยไม่ต้องใช้กุญแจไขหรือกดรีโมตแบบเดิม ๆ ขอเพียงแค่พกเจ้า Smart key อันนี้ติดตัวไว้เท่านั้นก็พอ พอเครื่องยนต์ติดมองที่เรือนไมล์จเห็นเข็มรอบเครื่อง เข็มไมล์ที่กวาดโชว์หนึ่งรอบ ทำให้ได้อารมณ์สปอร์ตตั้งแต่เริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์

หลังเครื่องยนต์แบบ V 6 ขนาด 2.5 ลิตร ติดขึ้น ผมคิดในใจเลยว่าจะพารถระดับ 200 กว่าแรงม้าไปออกกำลังกายที่ไหนดี มองนาฬิกาพึ่งสิบเอ็ดโมงเช้า คงต้องเจอแต่รถติดแน่ๆ ต้องอดใจรอเวลาวิกาลอีกแล้ว ผมเลยเปลี่ยนใจลองใช้งานในชีวิตประจำวันดู ผ่านรถติดๆ ผจญภัยกับพี่ๆ มอเตอร์ไซด์ที่ปาดหน้าปาดหลังตลอดเวลา ซึ่งทำให้ผมรู้ว่า is 250 มีเซ็นเซอร์รอบคันคอยเตือนตลอดเวลา ถึงแม้ is 250 จะเป็นรถแรงระดับ 200 กว่าแรงม้า แต่การใช้งานในการจราจรที่ติดขัดก็สะดวกสบายไม่ได้ต่างกับซีดานปกติ

เครื่องยนต์

ก่อนที่ผมจะไปสัมผัสความแรงของเครื่องยนต์บล็อค 4GR-FSE ผมขอเล่าถึงจุดเด่นของเครื่องบล็อคนี้สักหน่อย เครื่องบล็อคนี้มาพร้อม D-4 Engine เทคโนโลยีในการฉีดเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้แบบตรง ที่ให้การจ่ายเชื้อเพลิงเป็นไปอย่างเที่ยงตรงและแม่นยำ ลดการสูญเสียที่มักจะเกิดจากการฉีดเชื้อเพลิงแบบเดิม ๆ อีกทั้งยังทำงานควบคู่กับระบบควบคุมจังหวะการเปิด-ปิดวาล์วแบบแปรผัน Dual VVT-i (Variable Valve Timing with intelligence) ทั้งในด้านวาล์วไอดีและวาล์วไอเสีย ช่วยให้สามารถสร้างกำลังได้อย่างเต็มที่และนุ่มนวลในทุก ๆ ช่วงรอบการทำงาน

ทดสอบความเร็ว

หลังจากฟ้ามืดจนเกือบจะสว่างแล้วได้เวลาที่ผมจะพิสูจน์สมรรถนะ IS250 กันซักที ผมลองเริ่มจากจับเวลาจาก 0-100 กม./ชม. อยู่สามรอบแล้วหาค่าเฉลี่ยมา ตกลงผมใช้เวลาไป 9.6 วินาที ส่วนระยะควอเตอร์ไมล์ (0-402 ม.) ผมลองไปวิ่งที่สนามควอเตอร์ไมล์มาได้เวลา 17.7 วินาที ที่ความเร็วเข้าเส้น 139 กม./ชม. และเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึงที่ผมจะได้รู้ซักทีว่าเจ้าสปอร์ตซีดานคันนี้จะทำความเร็วสูงสุดได้ขนาดไหน ผมลองวิ่งได้ประมาณ 220 กม./ชม. แต่ผมยังรู้สึกว่าไหลได้อีกนิดหน่อย แต่รถเริ่มเยอะแล้วรู้สึกว่าอันตราย แล้วก็ไม่ควรใช้ความเร็วสูงขนาดนี้ในขณะที่มีเพื่อนร่วมทางเลยยกคันเร่งดีกว่า ซึ่งความรู้สึกในเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังแบบ 6 สปีดตัวนี้ สามารถพาผมถึงความเร็วระดับ 200 กม./ชม. ได้อย่างรวดเร็ว ให้การตอบสนองที่ดีเยี่ยมในช่วงเกียร์ 1 ไปจนถึงปลายเกียร์ 4

อัตราสิ้นเปลือง

ช่วยให้ผมรู้สึกได้ถึงพลังที่ซ่อนอยู่ภายในเครื่องยนต์ ส่วนในช่วงเกียร์สุดท้าย (เกียร์ 5 และ 6) ยังคงให้รอบการทำงานของเครื่องยนต์ที่ต่ำ อันเป็นประโยชน์โดยตรงต่อเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองในยามที่เดินทาง อีกทั้งชุดแป้นควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่ด้านหลังของพวงมาลัย ยังช่วยให้การควบคุมจังหวะเกียร์เป็นเรื่องที่สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในการขับขี่แบบสปอร์ต ด้วยตำแหน่งของแป้นที่ง่ายต่อการควบคุม เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วดึงแป้นเข้าหาตัวเท่านั้น ระบบก็จะเปลี่ยนจังหวะเกียร์ให้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ แต่ถ้าระบบคำนวณแล้วว่ารอบเครื่องอาจจะสูงเกินไป หรือเป็นช่วงรอบเครื่องที่ไม่เหมาะสม ชุดเกียร์ก็จะไม่ยอมเปลี่ยนจังหวะให้ ซึ่งจะมีเสียงเตือนเบา ๆ ดังขึ้นมาในกรณีที่เกียร์ไม่เปลี่ยนตามที่ผู้ขับสั่งงาน ซึ่งถ้าคุณทดลองใช้งานบ่อย ๆ จนเกิดความคุ้นเคย จะยิ่งช่วยให้ผู้ขับรู้สึกสนุกในการขับขี่ได้มากขึ้น