Maserati GT2 Stradale เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ Monterey Car Week 2024
Maserati GT2 Stradale (มาเซราติ จีที2 สตราดาเล่) ได้รับเกียรติให้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลก ณ งาน Monterey Car Week 2024 (มอนเทอเรย์ คาร์ วีค 2004) รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา กับงานประจำปีที่คนในวงการมอเตอร์สปอร์ตมารวมตัวกันที่รีสอร์ตชื่อดังของสหรัฐอเมริกาใน The Quail ซึ่งเป็นไฮไลต์ของงาน ที่จัดขึ้นเพื่อแฟนพันธุ์แท้ซูเปอร์คาร์ และผู้ที่สนใจ
Maserati GT2 Stradale (มาเซราติ จีที2 สตราดาเล่) ถือได้ว่าเป็นสุดยอดแห่งความเหนือระดับ และความสปอร์ตแบบเอ็กซ์คลูซีฟ และเป็นผลจากความร่วมมือทั้งด้านเทคนิค และดีไซน์ระหว่างรถ 2 รุ่นคือ Maserati GT2 (มาเซราติ จีที2) อันเป็นผลงานชั้นเลิศด้านสมรรถนะที่สร้างสรรค์ขึ้น เพื่อใช้ในการหวนคืนสนามแข่ง กับ Maserati MC20 (มาเซราติ เอ็มซี20) ซึ่งเป็นรถระดับไอคอนของค่ายตรีศูลที่โดดเด่นด้านดีไซน์
มาเซราติ เริ่มต้นสร้างสรรค์รถยนต์บนพื้นฐานที่ยอดเยี่ยม เป็นการผสานความสุดยอดในด้านการแข่งในสนาม และการใช้งานบนท้องถนนทั่วไป โดยการส่งต่อจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของรถแข่ง และส่งเสริมให้ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ ยอดนิยมนี้ มีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง
มาเซราติ จีที2 สตราดาเล่ ผสานการถ่ายทอดเทคโนโลยีเชิงลึกด้านสมรรถนะ ซึ่งปกติแล้วจะเป็นจุดเด่นของรถแข่ง เข้ากับคุณสมบัติสุดยอดของ Maserati MC20 (มาเซราติ เอ็มซี20) ผลลัพธ์ คือ ยนตรกรรมซูเปอร์สปอร์ตคาร์ที่โดดเด่น ทั้งในด้านรูปลักษณ์ และสมรรถนะแบบรถแข่ง ขณะเดียวกันก็ยังคงให้อารมณ์ในการขับขี่ และความสบายในทุกสถานการณ์ รวมทั้งให้ประสบการณ์ในการขับขี่ที่เหนือระดับตามมาตรฐานของ มาเซราติ
มาเซราติ จีที2 สตราดาเล่ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 320 กิโลเมตร/ชั่วโมง ให้พลังสูงสุด 640 แรงม้า (มากกว่า Maserati MC20 (มาเซราติ เอ็มซี20) 10 แรงม้า) แต่มีน้ำหนักรวมลดลงถึง 60 กิโลกรัม สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 2.8 วินาที จึงให้สมรรถนะ และการขับขี่ที่เหนือระดับ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยม และดีไซน์ที่โดดเด่น สืบทอดมาจากรถแข่งรุ่นอื่น โดยเฉพาะเมื่ออยู่หลังพวงมาลัย จะรู้สึกได้ถึงอารมณ์การขับขี่รถแข่งที่มีโอกาสจะเป็นสุดยอดของโลกได้อย่างแท้จริง
มาเซราติ จีที2 สตราดาเล่ มีฟีเจอร์มากมาย และเปิดโอกาสให้ปรับแต่ง หรือเลือกฟีเจอร์ได้ในแบบที่เป็นเอกลักษณ์ตามต้องการ ไม่ว่าจะเพื่อเพิ่มสมรรถนะ, เพื่อรูปลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตา หรือตามโปรแกรม Fuoriserie และการตั้งค่าพิเศษ (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละตลาด)
มร. เดวิด กราสโซ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มาเซราติ กล่าวว่า “มาเซราติ จีที2 สตราดาเล่ เป็นรถยนต์ที่มีเอกลักษณ์ มีการผสานรวมความเป็นเจ้าตำนานในสนามแข่งของมาเซราติ และสะท้อนพัฒนาการของรถระดับไอคอน คือ รถยนต์ในตระกูล Maserati MC20 (มาเซราติ เอ็มซี20) ไปพร้อมกัน
มาเซราติ จีที2 สตราดาเล่ ถูกรังสรรค์มาสำหรับการขับขี่ในทุกวัน โดยพัฒนาขึ้นจากความปรารถนาที่จะส่งมอบความเป็นเลิศด้านเทคนิค, นวัตกรรม, การออกแบบ เติมเต็มอารมณ์ในการขับขี่ให้แก่ลูกค้า ขณะเดียวกัน เราได้สร้างสรรค์โซลูชั่นสำหรับรถที่ออกแบบมาเฉพาะใช้ในสนามแข่ง ซึ่งเป็นหัวใจ และดีเอ็นเอด้านการแข่งขันของมาเซราติ ในอีกด้านหนึ่ง เรายังการันตีได้ถึงความสบายที่มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อันทันสมัย ทำให้ Maserati GT2 Stradale (มาเซราติ จีที2 สตราดาเล่) เป็นยนตรกรรมที่สนองทุกความต้องการของลูกค้า ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ และเป็นผลงานที่สะท้อนถึงแก่นแท้ของแบรนด์มาเซราติเป็นอย่างดี”
การเปิดตัวครั้งแรกในโลกของ มาเซราติ จีที2 สตราดาเล่ ในงาน The Quail มาเซราติ ยังได้นำรถอีก 2 รุ่นมาโชว์โฉม ได้แก่ MC20 Icona (เอ็มซี20 ไอคอนา) ซึ่งมาปรากฏโฉมครั้งแรกในทวีปอเมริกาเหนือ และ MCXtrema (เอ็มซีเอ็กซ์ตรีมา) ที่ ลากูน่า เซกา เซอร์กิต (Laguna Seca Circuit) ในพิธีส่งมอบรถแข่งทรงพลังคันแรกจาก มาเซราติ
MC20 Icona (เอ็มซี20 ไอคอนา) เปิดตัวครั้งแรกในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เป็นรถยนต์ตระกูลพิเศษที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อฉลอง 20 ปี แห่งการหวนคืนสู่สนามแข่ง GT Championship และรถยนต์ที่โลกต้องจารึกไว้คือ MC20 (เอ็มซี20) รุ่นพิเศษนี้ ซึ่งจะเป็นรุ่น Limited Edition ผลิตขึ้นเพียง 20 คันเท่านั้น โดยมีตัวถังสีขาว Bianco Audace Matte และสีน้ำเงิน Blu Stradale
MC20 Icona (เอ็มซี20 ไอคอนา) เป็นรถยนต์ที่สร้างขึ้น เพื่อเป็นที่ระลึกของรถยนต์ สำหรับขับขี่บนท้องถนนทั่วไป อีกรุ่นหนึ่งคือ MC20 Stradale (เอ็มซี20 สตราดาเล่) รุ่นปี 2547 ซึ่งมีบุคลิกคล้ายกัน และติดตั้งเครื่องยนต์ 12 สูบ ที่พัฒนามาจากเครื่องยนต์ของเฟอร์รารี่ ยนตรกรรมรุ่นดังกล่าว สะท้อนถึงจุดเด่นของค่ายตรีศูลด้านสมรรถนะอันเหนือชั้น และผลิตขึ้น เพื่อขออนุมัติประเภทในการเข้าร่วมแข่งขัน GT
ในปีนี้ MCXtrema (เอ็มซีเอ็กซ์ตรีมา) กลับมาโชว์ตัวใน The Quail อีกครั้งหลังจากการเปิดตัวครั้งแรกในโลกเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา และเตรียมพร้อมสำหรับกิจกรรมพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อฉลองการส่งมอบรถยนต์คันแรก จากทั้งหมด 62 คันที่ผลิตขึ้นทั่วโลก ซึ่งถูกจัดขึ้นในวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา ณ WeatherTech Raceway Laguna Seca โดยรถคันนี้ผลิตขึ้นเพื่อการขออนุมัติประเภทเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันเท่านั้น มีกำลังสูงสุดถึง 730 แรงม้า และมีรูปลักษณ์ที่ปราดเปรียวสะดุดตา
ซึ่ง MCXtrema (เอ็มซีเอ็กซ์ตรีมา) เป็นรถที่มีความพิเศษ ได้แก่ เป็นรถซูเปอร์สปอร์ตสำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับสมรรถนะ และความเป็นเลิศด้านเทคนิค MCXtrema (เอ็มซีเอ็กซ์ตรีมา) เป็นรถแข่งสัญชาติอิตาลีที่ทรงพลังที่สุด เป็นยนตรกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจในทุกมิติ และจะเป็นผู้กำหนดอนาคตของค่ายตรีศูล รวมถึงยกระดับจิตวิญญาณแห่งความเป็นรถแข่งขึ้นไปยิ่งกว่าเดิม