Mazda 3 Hatchback … สปอร์ต เรียบง่าย ภายใต้แนวคิด “Less is More”
Mazda 3 Hatchback คู่แฝดแห่งอนุกรม Mazda 3 Sedan คือ อีกหนึ่งโมเดลที่ได้รับการอัพเกรดสู่เวอร์ชั่นปี 2019 ด้วยแนวทางเดียวกัน กับการนำเสนอความสมบูรณ์แบบในรายละเอียดภายใต้หลักปรัชญา Kodo Design และแสดงความชัดเจนในแนวคิด Less is More
Less is More เรียบง่าย แต่เร้าใจสไตล์ Mazda 3 Hatchback
สำหรับเวอร์ชั่นนี้ คือ Mazda 3 ที่มากับรูปลักษณ์ตัวถังในสไตล์ Hatchback ที่โดดเด่นในเรื่องของความสปอร์ต รับการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ภายใต้หลักปรัชญา Kodo Design เพื่อแสดงความชัดเจนในแนวคิด “Less is More” เช่น ชุดโคมไฟดีไซน์เฉียบ ที่ลงตัว ผสมผสานด้วยการตกแต่งจากวัสดุโลหะ และพลาสติก ในรูปแบบ Glossy สร้างความงดงามทั่วเรือนร่าง พร้อมด้วยอารมณ์ความสปอร์ตที่มีมากขึ้น
ส่วนภายในห้องโดยสารยังคงเส้นคงวา เช่นเดียวกับเวอร์ชั่น Sedan ด้วยการเน้นอารมณ์แห่งความสปอร์ต เช่นชุดคอนโซลหน้าแบบ “Two-Layer Molding” ที่ผสมผสานกับการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง บนพื้นฐานของ “การเข้าถึง” ระหว่าง “รถและคน” โดยผู้ขับขี่เป็นจุดศูนย์กลาง ซึ่งเวอร์ชั่นนี้จะมากับ 2 สีหลัก คือ โทนสีเทา และโทนสีเบจ ในขณะที่เวอร์ชั่นอเมริกานั้นเร้าใจด้วยโทนสีแดง Burgundy
ทั้งยังนำเสนอความ “Less is More” มากขึ้น ด้วยปุ่มควบคุมต่างๆ ที่น้อยลง แต่ยังครบครัน เช่น ในส่วนของออพชั่นอำนวยความสะดวกมาตรฐานนั้น ไม่ว่าจะเป็นฟังค์ชั่น Human-Machine-Interface ที่แสดงผลผ่านหน้าขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมโปรแกรม Active Driving Display ที่มีผลการแสดงข้อมูลใหม่ดีไซน์ใหม่, พวงมาลัยมัลติฟังค์ชั่น ตลอดจนระบบเชื่อมต่อ Mazda Connect และชุดเครื่องเสียงที่สามารถอัพเกรดเป็นแบรนด์ Bose ได้เช่นเดียวกับเวอร์ชั่นซีดาน
เร้าใจไปกับ “สมรรถนะ” สไตล์ “Jinba-ittai”
“Jinba-ittai” ยังคงเป็นแนวคิดหลัก เพื่อยกระดับสมรรถนะการขับขี่ โดยในเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดนี้มากับวิวัฒนาการล่าสุด ของเทคโนโลยี Skyactiv ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่โครงสร้างตัวถังใหม่ SKYACTIV-Vehicle Architecture ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดมิติตัวถังเเล็กน้อย ด้วยความยาว 4,459 มม., ความกว้าง 1,797 มม., ความสูง 1,440 มม. และวางตัวบนระยะฐานล้อยาว 2,725 มม.
ส่วนขุมพลังเบื้องต้นยังคงมากับทางเลือกหลักๆ คือ คือ Skyactiv-G เครื่องยนต์เบนซินพิกัด 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร ตามด้วย Skyactiv-D เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ พิกัด 1.8 ลิตร โดยมเซอร์ไพรส์เป็นขุมพลัง Skyactiv-X ซึ่งเปิดเผยเพียงแค่รายละเอียดเบื้องต้นกับการ “มาพร้อมระบบ M-Hybrid (Mild Hybrid System)”
ต่อเนื่องด้วยอีกหนึ่งความโดดเด่น กับระบบขับเคลื่อนใหม่แบบ 4 ล้อที่เรียกว่า i-Activ AWD ทำงานร่วมร่วมกับระบบ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ที่เคลมว่าสามารถลดอัตราการสูญเสียพลังจากการขับเคลื่อนลงไปได้ถึง 60% ทั้งยังเพิ่ใมเสถียรภาพในการขับขี่ได้มากขึ้นกว่าเดิม ด้วยการควบคุมแรงบิดระหว่างล้อคู่หน้า และคู่หลัง อย่างเหมาะสมทั้งในการใช้ความเร็วสูง และบนสภาพถนนที่เปียกลื่น
ปิดท้ายด้วยระบบความปลอดภัยระดับ “พระเอก” ของค่ายอย่าง i-Activsense ก็มีการอัพเกรดความสามารถขึ้นใหม่ ซึ่งเด่นๆ เลยก็ระบบ Driver Monitoring System สำหรับตรวจเช็คสภาพของผู้ขับขี่ โดยใช้กล้องอินฟราเรด และ ไฟ LED อินฟราเรด ในการตรวจจับลักษณะการเปิด/ปิด, ความถี่ในการกระพริบตา, ความเอียงของศรีษะ ซึ่งหากพบอาการอ่อนล้า ระบบจะทำการส่งเสียงเตือน และสั่งให้ระบบ Smart Brake Support (SBS) ทำการชะลอความเร็วรถลง
ตามด้วยระบบ Front Cross Traffic Alert (FCTA) ที่จะใช้เรดาร์ด้านหน้ารถในการตรวจสอบรถที่วิ่งมาจากมุมอับ และระบบ Cruising & Traffic Support (CTS) สำหรับช่วยควบคุมการเร่ง, เบรก และพวงมาลัย ในสภาพการจราจรติดขัด ด้วยความสามารถในการหยุดนิ่ง และออกตัวตามรถคันหน้าได้ ถ้าไม่นานเกินเวลาที่กำหนดMazda 3