McLaren Senna ที่สุดแห่ง Hyper Car เพื่อระลึกถึง ชายผู้ยิ่งใหญ่
ในโลกภาพยนต์ Super Hero มากมายถูกสร้างขึ้นมาจากปลายปากกา ที่พัฒนาสู่แผ่นฟิล์มด้วยนักแสดงจริง จนกลายเป็นขวัญใจผู้คนหลากหลายวัย แล้วในชีวิตจริงล่ะ … ใช่ ในชีวิตจริงอาจะไม่มี Super Hero พร้อมพลังวิเศษต่างๆ นาๆ แต่บุคคลเหล่านั้นก็ได้รับการยกย่องให้เป็น Super Hero ด้วยเช่นกัน
ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ Super Hero ทั้งในชีวิตจริงๆ และในโลกจินตนาการ มักจะมีเหมือนๆ กัน ก็คือ เรื่องราวที่เล่าขานสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น จากอดีตสู่ปัจจุบัน รวมถึงการหวนระลึกถึงในโอกาศพิเศษ เช่นเดียวกับ Hyper Car รุ่นนี้ McLaren Senna ที่เราคงไม่ต้องบอกหรอกมั้ง ว่านี่คือการระลึกถึงใครในอดีต
Ayrton Senna … The Super Idol Hero
ปี 2018 นี้นับย้อนหลังไปราว 24 ปี ได้กลายเป็นปีที่ทุกคนต่างต้องจดจำกับการจากไปของ Ayrton Senna ชายผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็น Super Hero ตัวจริงในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ และมอเตอร์สปอร์ต ผู้เคยฝากผลงานบนโลกใบนี้ไว้มากมาย เช่น การร่วมพัฒนายนตรกรรมตัวแรงสายพันธ์พิเศษกับค่ายรถยนต์ต่างๆ
รวมถึงผลงานในฐานะของนักแข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการ Formula 1 ผู้คว้าแชมป์โลก 3 สมัย ในปี 1988, 1990, 1991 ก่อนจะวางมือลงอย่างถาวรจากการปะทะกำแพงด้วยความเร็วกว่า 230 กม./ชม. ในวันที่ 1 พฤษภาคม ปี 1994 บนสนาม Autodromo Internazionale Enzo e Dino Ferrari (Imola) กับการแข่งขัน San Marino Grand Prix
ซึ่งด้วยเหตุการณ์ และเหตุผลต่างๆ คือ สิ่งที่ทำให้ชื่อของชายผู้เป็นตำนานคนนี้ เปรียบเสมือนกับโลโก้ที่สื่อถึงความ “พิเศษ” ในแบบฉบับของ Ayrton Senna โดยเฉพาะในโลกของยนตรกรรม ชนิดที่ไม่ต้องทดลองขับก็สามารถควักเงินซึ้อได้อย่างมั่นใจ
McLaren Senna ความพิเศษที่มีเพียงแค่ 500 คันในโลก
ล่าสุดแบรนด์ McLaren ได้เปิดตัวยนตรกรรม Hyper Car ขึ้นใหม่ เพื่อระลึกถึงชายผู้เป็นตำนาน เพราะ McLaren คือ 1 ใน 3 ทีมแข่งที่ Ayrton Senna เข้าร่วมรบด้วยกันมาในวงการมอเตอร์สปอร์ตช่วงยุคปี 1988–1993
McLaren Senna คือ น้องใหม่สุดพิเศษในรถกลุ่ม Ultimate Series ซึ่งพัฒนามาจากพื้นฐานของรุ่น 720S พร้อมด้วยการใส่แนวคิดของ McLaren’s Motorsport DNA เข้าไปเป็นส่วนผสม เช่น การพัฒนาโครงสร้างตัวถังใหม่ โดยใช้วัสดุ Carbon Fibre Monocage III ใหม่ ที่ผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยี Ultra Lightweight Construction ที่การันตีความแข็งแกร่ง และเบาที่สุดที่เคยผลิตมาก่อน ด้วยน้ำหนักเพียง 1,198 กก. หรือพอๆ กับรถ Formula 1
รูปลักษณ์จัดเต็มด้วยหลักอากาศพลศาสต์ขั้นสูง ที่ทำให้เต็มไปด้วยช่องดักอากาศ และช่องระบายอากาศ พร้อมการเสริมด้วย Splitter ใต้กันชนหน้า โดยมีด้านหลังติดตั้ง Double Diffuser พร้อม Wing หลังทรงสูงทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ตามด้วยการเลือกใช้โทนสีของตัวถังที่เป็นสีส้ม McLaren Orange ตัดกับรายละเอียดบางจุด เช่น ช่องดักอากาศด้านหน้า, คาลิปเปอร์ และบางส่วนของห้องโดยสาร ที่เลือกใช้โทนสีน้ำเงิน Azura Blue
Hyper Car สมรรถนะเดิม สร้างความเร้าใจได้มากพอ
McLaren Senna ยังคงขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซิน รหัส M840TR แบบ V8 McLaren พิกัด 4.0 ลิตร อัดอากาศด้วย Twin-Scroll Turbocharged สร้างพละกำลังสูงสุดที่ 789 แรงม้า พร้อมแรงบิดระดับ 800 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยอัตโนมัติเกียร์ Dual-Clutch 7 สปีด พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift
ทางด้านระบบช่วงล่างนั้นมากับระบบ RaceActive Chassis Control II ซึ่งใช้ระบบอิเล็คทรอนิกส์ในการปรับแต่ง ทำงานร่วมกับระบบ Active Dynamics Panel ที่มาพร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก คือ Comfort, Sport, Track และ Race โดยความพิเศษของมันก็คือ สามารถทำได้ทั้งการปรับลดความสูงตัวรถ และการปรับจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถ
ส่วนระบบเบรกนั้นจัดของดีแบบ Carbon Ceramic ที่พัฒนาจากสนามแข่ง ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เช่นเดียวกับยางชนิดพิเศษที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะจากฝีมือของแบรนด์ Pirelli รุ่น P Zero™ Trofeo R เพื่อสร้างสมรรถนะระดับสุดยอดทั้งในสนามแข่ง และบนถนน