Mercedes-Benz GLA 2021 … เพิ่มดีกรีความร้าย เอาใจพ่อบ้านสาย Compact SUV

ค่ายดาวสามแฉกเปิดตัว Compact SUV พิกัดเล็ก เจนเนอเรชั่นล่าสุดรุ่น Mercedes-Benz GLA 2021 เวอร์ชั่นล่าสุด ที่มาพร้อมการอัพเกรดเต็มพิกัด ตั้งแต่งานดีไซน์ ไปจนถึงสมรรถนะ ทั้งจาก 2 เวอร์ชั่นพื้นฐาน ขุมพลังเบนซิน และดีเซล ก่อนปิดเกมส์ด้วยไฮไลต์เอาใจสายแรงด้วยเวอร์ชั่น AMG

Mercedes-Benz GLA 2021

Mercedes-Benz GLA 2021 ปรับดีไซน์ อัพเกรดความสบายเพิ่ม

Mercedes-Benz GLA เวอร์ชั่นปี 2021 ได้รับการปรับแต่งขึ้นใหม่ ตั้งแต่มิติตัวถังที่สูงขึ้นจากเดิมอีกราว 10 ซม. คือ 1,611 มม. (รวมราวแร็คหลังคา 1,616 มม.) ทำให้ Headroom ของห้องโดยสารด้านหน้ามีพื้นที่มากขึ้น ส่วนความยาวของตัวรถจะมากับตัวเลข 4,410 มม. ความกว้าง 1,834 มม. และระยะความยาวฐานล้อที่ 2,729 มม.

 

ด้านงานออกแบบในภาพรวมนำเสนอความแกร่งสไตล์ Off-Road เช่น ระยะโอเวอร์แฮ็งค์สั้นทั้งด้านหน้า และด้านหลัง สะดุดตาด้วยมุมมองด้านหน้ากับองศาที่ตั้งฉาก และชุดกระจังหน้าแบบฉบับ Mercedes-Benz SUV ที่รับกับฝากระโปรงหน้าทรง Powerdomes ส่วนมุมมองด้านข้างดูสปอร์ตด้วยงานออกแบบกระจกบังลมแบบรถ Coupe ลงตัวกับล้ออัลลอยด์ขนาด 20 นิ้ว โดยในเวอร์ชั่น Off-Road ได้ถูกเสริมอารมณ์ความแกร่งด้วยการติดตั้ง Under Guard ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง เพิ่มเติมจากการ์ดรอบคัน ขณะที่ด้านหลังสะดุดตากับชุดไฟท้าย 2 ชิ้น และฝาท้ายขนาดใหญ่เพื่อความสะดวกในการขนสัมภาระ

Mercedes-Benz GLA 2021

ห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่ โดยมีออพชั่นมาตรฐานที่ต่างกันในแต่ละรุ่นย่อย เช่น หน้าจอ Display ที่มีตั้งแต่ขนาด 7 นิ้ว 2 ตำแหน่ง หรือขนาด 7 นิ้ว จับคู่กับขนาด 10.25 นิ้ว ไปจนถึงหน้าจอ Widescreen ขนาด 10.25 นิ้ว ที่จัดมาให้ทั้ง 2 ตำแหน่ง เสริมด้วยจุดเด่นจากช่องแอร์ที่มากับงานดีไซน์แบบ Turbine Look

ด้านระบบความบันเทิงยังคงเป็นหน้าที่ของชุด Infotainment MBUX System (Mercedes-Benz User Experience) รองรับระบบนำทาง Navigation และระบบสั่งการด้วยเสียง Voice Control พร้อมด้วยคุณสมบัติด้านความอเนกประสงค์ประกอบด้วยเบานั่งผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้าที่ปรับเปลี่ยนตำแหน่งให้สูงขึ้นราว 140 มม. เพื่อความลงตัวกับสไตล์ของรถ SUV ส่วนพนักพิงเบาะนั่งด้านหลังปรับพับพนักพิงได้แบบ 40:20:40 ตามด้วยการติดตั้งผู้ช่วยอัจฉริยะในการขับขี่อย่างระบบ Driving Assistance Systems เจนเนอเรชั่นล่าสุด ซึ่งอัพเกรดขึ้นใหม่ และมีความต่างในแต่ละรุ่น แต่ละประเทศที่จำหน่าย

Mercedes-Benz GLA 2021

นอกจากนี้ยังเป็นโมเดลแรกที่ติดตั้งออพชั่นสุดล้ำแบบเดียวกับพี่ใหญ่ GLS ด้วยระบบ Car Wash Function ซึ่งจะทำหน้าที่เตรียมพร้อมรถ เมื่อต้องเข้าสู่การล้างกับเครื่องล้างรถอัตโนมัติ ทั้งการพับกระจกมองข้าง, การปิดกระจกบังลม และหลังคา Sun Roof พร้อมกับหยุดการทำงานของใบปัดน้ำฝน และเปลี่ยนการทำงานของระบบปรับอากาศเป็นแบบหมุนวนภายในรถ หลังจากนั้นกล้อง 360 องศาจะทำงาน (ถ้าติดตั้ง) เพื่อแสดงภาพด้านหน้า และระบบจะปิดการทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อเคลื่อนรถออกจากเครื่องล้าง หรือใช้ความเร็วเกินกว่า 20 กม./ชม.

ยกระดับศักยภาพ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

GLA เวอร์ชั่น 2021 มีให้เลือกเร้าใจ ตั้งแต่รุ่นย่อย GLA 200 กับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส M282 พิกัด 1.33 ลิตร กำลังสูงสุด 163 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด (7G-DCT) ตามมาด้วยรุ่นย่อย GLA 250 รหัส M 260 พิกัด 2.0 ลิตร พละกำลัง 225 แรงม้า และแรงบิด 350 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด (8G-DCT) และมีทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ให้เลือก

ขุมพลังดีเซลจะมากับรุ่นย่อย GLA 220 d  เครื่องยนต์รหัส OM 654 พิกัด 2.0 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด (8G-DCT) ทุกรุ่น โดยจะแบ่งเป็นแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ 4MATIC ทั้งรุ่น 150 แรงม้า พร้อมแรงบิด 320 นิวตันเมตร และรุ่น 190 แรงม้า พร้อมแรงบิด 400 นิวตันเมตร

Mercedes-Benz GLA 2021

ส่งท้ายด้วยไฮไลต์ตัวแรง GLA 35 AMG 4MATIC เครื่องยนต์พิกัด 2.0 ลิตร 4 สูบ พร้อมระบบวาล์วแปรผัน CAMTRONIC, ระบบอัดอากาศ Twin-Scroll Turbocharged และชุดไอเสียแบบ AMG Exhaust System ทั้งยังเสริมศักยภาพด้านการประหยัดน้ำมันด้วยการติดตั้งระบบ CONICSHAPE เพื่อช่วยลดแรงเสียดทานครื่องยนต์ขณะทำงาน

โดยมีผลลัพธ์ก็คือเรี่ยวแรงสูงสุด 306 แรงม้า กับแรงบิดเร้าใจระดับ 400 นิวตันเมตร ที่มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 5.1 วินาที จากการส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด (AMG SPEEDSHIFT DCT 8G) สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AMG Performance 4MATIC Variable All-Wheel Drive และระบบช่วงล่างแบบ AMG Suspension ที่เสริมอรรถรสด้วยฟังค์ชั่น AMG DYNAMIC SELECT กับ 5 โหมดการขับขี่ คือ Slippery, Comfort, Sport, Sport + และ Individual

Mercedes-Benz GLA 2021

ส่วนระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ 4MATIC ของ GLA นั้นจะมาพร้อมกับชุดเฟืองท้าย Differential ทำงานร่วมกับฟังค์ชั่น DYNAMIC SELECT ในการแบ่งสรรพละกำลังระหว่างล้อหน้า และล้อหลังตามโหมดการขับขี่ที่เลือกใช้ เช่น ในโหมด Eco และ Comfort กับอัตราส่วน 80:20, โหมด Sport ในอัตราส่วน 70:30 และในโหมด All-Wheel Drive แบบ 50:50

Mercedes-Benz GLA 2021

ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ พร้อมการลดน้ำหนักด้วยชุดวิชโบนที่ทำจากอลูมิเนียม โดยมีด้านหลังแบบโฟว์ลิ้งค์ ที่ปรับแต่งมาเพื่อยกระดับเสถียรภาพ และสุนทรียภาพการขับขี่ ที่ลงตัวกับความกว้างแทรคฐานล้อหน้า 1,605 มม. และล้อหลัง 1,606 มม. หรือกว้างขึ้นกว่ารุ่นที่แล้วราว 4 ซม. นอกจากนี้การออกแบบซุ้มล้อให้มีขนาดใหญ่ ที่รองรับได้ตั้งแต่ล้ออัลลอยด์ขนาด 17-20 นิ้ว ยังทำให้ตัวรถมีระยะความสูงใต้ท้องรถ (Ground Clearance) เพิ่มขึ้นอีกกว่า 9 มม. เป็น 143 มม. ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการ “ลุย” ได้ดีมากขึ้นทีเดียว

Mercedes-Benz GLA 2021