Mercedes-Benz S-Class Maybach 2018 สู่ขั้น “สุด” ทั้ง “ราคา” และ “องค์ประกอบ” ของยนตรกรรมระดับหรู (ชม Gallery)

โพสต์เมื่อ 9th สิงหาคม 2017 หมวดหมู่: รถใหม่ต่างประเทศ โดย Poyee Poyee

Mercedes-Benz S-Class Maybach คือ ที่สุดแห่งความเหนือชั้น ซึ่งถือกำเนิดมา เพื่อตอกย้ำความ “เลิศ” ในฐานะของยนตรกรรมระดับเรืองธงที่สมบูรณ์แบบ ขึ้นทำเนียบชั้นแนวหน้าของโลก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโมเดลล่าสุดเวอร์ชั่นปี 2018 ที่เห็นอยู่นี้

Mercedes-Benz S-Class Maybach ที่สุดแห่งยนตรกรรมระดับผู้นำ

ทรวดทรงแห่งความเหนือระดับมาพร้อมกับการปรับโครงสร้างมิติตัวถังขึ้นใหม่จากพื้นฐานของ The S-Class สู่เวอร์ชั่น Long- Wheelbase ด้วยความยาวที่เพิ่มขึ้นเป็น 5,462 มม. และฐานล้อที่ขยับเป็น 3,365 มม. เพื่อเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลัง ในขณะที่งานดีไซน์นั้นปูพรมด้วยความ “อลังการ” เช่น ด้านหน้าที่ประทับตรา Maybach บนกระจัง ตามด้วยการเปลี่ยนชุดกันชนหน้าใหม่ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการระบายความร้อนเครื่องยนต์บล็อคใหม่ได้ดีขึ้น

ต่อเนื่องด้วยการตกแต่งด้วยวัสดุโครเมี่ยมรอบคัน ทั้งยังมีการออกแบบประตูหลัง และเสา C-pillar ให้ต่างออกไปจาก S-Class รวมถึงเพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะให้มากยิ่งขึ้น ส่วนทางด้านรายละเอียดภายนอก ประกอบด้วย ชุดไฟหน้า MULTIBEAM LED, ชุดไฟท้ายแบบ LED ในโคมที่ออกแบบสไตล์ Crystal-Look, ชุดล้ออัลลอยด์ขนาด 20 นิ้วลาย 5-Twin-Spoke

ภายในกับงานดีไซน์ “สไตล์ Modern Luxury”

S-Class Maybach ได้รับการดีไซน์แบบ Modern Luxury ผสมผสานด้วยความเป็น Lounge-Style โดยใช้วัสดุชั้นเลิศเพื่อสร้างความหรูหรา และบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ภายในห้องโดยสาร ตามด้วยการอัพเกรดเต็มข้อจาก S-Class เช่น ห้องโดยสารด้านหน้าสไตล์ Cockpit ที่มีความกว้างมากขึ้น ที่มาพร้อมกับการตกแต่งใหม่, พวงมาลัยใหม่ และระบบ ENERGIZING Comfort เพื่อสร้างความสบายเต็มพิกัด

โดยเฉพาะในส่วนของห้องโดยสารด้านหลังที่ราวกับ “ห้องนั่งเล่น” เคลื่อนที่ ด้วยฟังค์ชั่นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น หลังคา Panoramic Sliding Sunroof ขนาดใหญ่, เบาะโดยสารแบบ Executive Seats ที่มากับระบบ Kinematics System สำหรับปรับตำแหน่งเบาะตามที่ต้องการ รวมถึงระบบปรับอากาศอัตโนมัติ THERMOTRONIC และปุ่มควบคุมระบบอำนวยความบันเทิงชุดใหญ่บริเวณที่ท้าวแขนกลางเบาะหลัง

ขุมพลังระดับ Top-of-the-Range

ขุมพลังนั้น มากับนำเสนอเหล่าผู้บริหารด้วย “ของแรง” 2 รุ่นกับรายละเอียดเพียงเล็กน้อย คือตัวท็อปกับรุ่น S 650 ที่จัดหนักด้วยขุมพลังแบบ V12 Biturbo ที่มีกำลังถึง 630 แรงม้า พร้อมแรงบิดระดับ 1,000 นิวตันเมตร และรุ่น S 560 4MATIC เครื่องยนต์ V8 Biturbo กับเรี่ยวแรง 469 แรงม้า และแรงบิด 700 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC

โดยสำหรับระบบส่งกำลังของทุกรุ่นจะมากับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9G-TRONIC) พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift และฟังค์ชั่น Direct Select สำหรับปรับเปลี่ยนโหมดขับขี่ คือ ECO, Comfort, Sport และ Individual ปิดท้ายด้วยระบบช่วงล่างแบบ AIRMATIC ที่ยังคงเน้นความนุ่มนวล ตามแบบฉบับยนตรกรรมระดับหรู