The new E-Class ใหม่ … ตอบโจทย์ครบ จบด้วยราคาเริ่มเพียง 3.19 ล้าน

โพสต์เมื่อ 20th มีนาคม 2021 หมวดหมู่: รถใหม่ในประเทศ โดย Poyee Poyee

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว Mercedes-Benz The new E-Class รุ่นล่าสุด สานต่อตำนานยนตรกรรมที่ถือว่าเป็น Contemporary Luxury ที่ได้รับความนิยมสูงสุดมาตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกปีในพ.ศ. 2489 จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “Heart of the brand”

สำหรับ Mercedes-Benz The new E-Class มากับฐานะยนตรกรรมอัจฉริยะที่สะกดทุกสายตาด้วยดีไซน์ใหม่สุดโฉบเฉี่ยว ผสานด้วยความหรูหรา สะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นในทุกรายละเอียด พร้อมด้วยอารมณ์ความสปอร์ต เพื่อสร้างความสมบูรณ์แบบ

โดยเริ่มจากภายนอกที่โดดเด่นจากเอกลักษณ์ของชุดแต่ง AMG Body Styling ที่มีการปรับดีไซน์ใหม่ให้ดูล้ำสมัยยิ่งขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจาก AMG Performance Models ทั้งยังมากับการสะท้อนภาพลักษณ์ในสไตล์ยนตรกรรม E-Class ที่ประกอบด้วย ชุดกระจังหน้า Diamond Radiator Grille จับคู่กับชุดไฟหน้า Multi Beam LED แบบอัจฉริยะด้วยหลอดไฟ LED จำนวน 84 หลอดต่อ 1 ข้าง ให้ความปลอดภัยด้วยระบบส่องสว่างระยะไกลสูงสุดถึง 650 เมตรแบบ Ultra Range High Beam

ขณะที่ด้านหลังมากับชุดไฟท้ายแบบ Full-LED ที่ออกแบบให้เข้ากับชุดกันชนท้าย และฝากระโปรงท้าย ตลอดจนความเฉี่ยวจากล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ขนาด 19 นิ้วจาก AMG ก่อนปืดท้ายด้วยความโปร่งโล่งสบายด้วยหลังคาแก้วแบบ Panoramic Sunroof ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า

ภายในห้องโดยสารมากับความโดดเด่น และหรูหราสะดวกสบาย รวมถึงการเติมเต็มความสปอร์ตด้วยชุดตกแต่ง AMG Interior package ที่ประกอบด้วยคอนโซลหุ้มด้วยหนัง ARTICO, ชุดพวงมาลัยใหม่ดีไซน์สปอร์ตแบบ 3ก้านท้ายตัด พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control พร้อมเบาะนั่งแบบสปอร์ตที่เพิ่มความกระชับในทุกรูปแบบการขับขี่ภายใต้หลักสรีรศาสตร์

ทั้งยังสามารถปรับอารมณ์ของรถให้เป็นไปตามความรู้สึกด้วยไฟล้อมรอบห้องโดยสารแบบ Premium Ambient Light ที่ปรับได้มากถึง 64 เฉดสี พร้อม Animation เปลี่ยนสีอัตโนมัติแบบเคลื่อนไหวให้เลือกได้มากถึง10 รูปแบบ ไปจนถึงการสร้างความเพลิดเพลินทุกการเดินทางจากระบบเสียงรอบทิศทางแบบ Burmester® Surround Sound System พร้อมลำโพงจำนวน 13 ตำแหน่ง

อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญ คือ ระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งมาให้อย่างครบครัน เช่น ระบบแจ้งเตือนขณะเปลี่ยนช่องจราจรแบบ Blind Spot Assist พร้อมระบบแจ้งเตือนก่อนเปิดประตูแบบ Exit Warning, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินแบบ Active Brake Assist, ระบบช่วยเหลือก่อนเกิดอุบัติเหตุ PRE-SAFE®, เซ็นเซอร์รอบคันจำนวน 12 จุด แบบ PARKTRONIC พร้อมระบบช่วยการนำรถเข้าจอดแบบ Active Parking Assist และกล้องแสดงภาพรอบคันแบบ 360 องศา

โดย The new E-Class ได้ผสานทุกการควบคุมเข้าไว้ด้วยกันผ่านระบบ MBUX รุ่นล่าสุด แสดงผลผ่านหน้าจอแบบ Digital Widescreen Cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว จำนวน 2 หน้าจอ รองรับฟังค์ชั่นการทำงานต่างๆ เช่น การควบคุมด้วยระบบสัมผัส, แป้นควบคุมแบบ Touchpad และระบบสั่งการด้วยเสียงรูปแบบใหม่ ที่สามารถเริ่มต้นการใช้งานได้ง่ายเพียงพูดว่า “Hey Mercedes”

รวมไปถึงการผสานรถยนต์ และสมาร์ทโฟนเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ผ่านระบบเชื่อมต่อ Smart Phone Integration ที่รองรับได้ทั้ง Apple CarPlay® และ Android Auto ตลอดจนระบบแผนที่นำทางแบบ 3 มิติ และการเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ ที่ทำได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยระบบสัญญาณ 4G-LTE แบบ E-SIM ที่สามารถค้นหาข้อมูลต่างๆ เช่น เส้นทาง, จุดหมายสำคัญ, รายงานสภาพจราจรแบบ Live Traffic, วิทยุแบบ Online Radio รวมถึงสามารถติดต่อสื่อสารกับศูนย์บริการได้โดยตรงทั้งการสั่งงานผ่านหน้าจอรถยนต์ หรือผ่านแอปพลิเคชั่น Mercedes Me ให้ผู้ใช้รถสามารถควบคุมรถยนต์ได้จากระยะไกลผ่านโทรศัพท์มือถือ

ไม่ว่าจะเป็นการล็อกหรือปลดล็อกรถยนต์, การเปิด และปิดกระจก รวมถึงหลังคา Panoramic Sunroof, การตรวจสอบ และรายงานสถานะของระบบ Plug-in Hybrid, การจัดการเปิดระบบปรับอากาศล่วงหน้าแบบ Pre-Entry Climate Control, การค้นหาตำแหน่งของรถ, การรายงานสถานะของรถแบบ Real-Time เช่น ระดับน้ำมัน หรืออุณหภูมิของเครื่องยนต์ รวมไปถึงการโทรออกเพื่อขอความช่วยเหลืออัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

ทางด้านขุมพลังของ Mercedes-Benz The new E-Class จะมากับ 2 ขุมพลังทางเลือก เริ่มด้วย เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1,991 ซีซี ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ด้วยเทคโนโลยีแบบ Plug-in Hybrid เจเนอเรชันที่ 3 ทำกำลังสูงสุดถึง 211 แรงม้า ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-Tronic พร้อมระบบ Dynamic Select ให้เลือกปรับเปลี่ยนสไตล์การขับขี่ 6 รูปแบบ โดยสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 5.7 วินาที และขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลกว่า 50 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

ขณะที่อีกหนึ่งทางเลือกจะมากับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด1,950 ซีซี พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบ และการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้มาตรฐาน Euro6 โดยมีพละกำลังรวมสูงสุดถึง 194 แรงม้า ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-Tronic พร้อมระบบ Dynamic Select ให้เลือกปรับเปลี่ยนสไตล์การขับขี่ 6 รูปแบบเช่นกัน โดยสามารถสร้างให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 7.3 วินาที พร้อมด้วยความประหยัดน้ำมันที่พัฒนาขึ้นมาอีกราว 6.5%