Mercedes-Benz X-Class 2018 กับการเป็น “ของแปลก” ที่ดูแล้ว “น่าสนใจ” ในขณะที่ “ราคา” ก็ยังไม่เปิดเผย (ชมคลิป)

โพสต์เมื่อ 10th สิงหาคม 2017 หมวดหมู่: รถใหม่ต่างประเทศ โดย Poyee Poyee

Mercedes-Benz ปล่อย “ของแปลก” ลงตลาดด้วย Mercedes-Benz X-Class 2018 รถปิคอัพสายพันธ์หรูโมเดลแรก จากค่ายดาวสามแฉก พร้อมการนำเสนอความแข็งแกร่งในสไตล์ “ขาลุย” โดยมีรุ่นย่อยให้เลือก 3 สไตล์ และ… มาลองเดากันเล่นสิว่า จะมีให้เห็นในบ้านเรารึไม่…?

ชม Clip : Mercedes-Benz X-Class 2018

https://www.youtube.com/watch?v=-Ww8khzqBT4

https://www.youtube.com/watch?v=_00I5RfvAGw

Mercedes-Benz X-Class ปิคอัพสุดหรู โมเดลแรกของค่าย

X-Class ถูกกำหนดมิติตัวถังความยาว 5,340 มม. ความกว้าง 1,920 มม. และความสูงที่ 1,819 มม. วางบนระยะฐานล้อที่ยาว 3,150 และออกแบบมาให้รองรับน้ำหนักบรรทุกได้ถึง 1.1 ตัน ตลอดจนการขับขี่ที่คล่องตัวด้วยระยะโอมเวอร์แฮงค์หน้า-หลังที่สั้นกระชับ ในขณะที่งานดีไซน์มุมมองด้านหน้าดูราวกับเป็นรถอเนกประสงค์ ด้วยชุดกระจังหน้า และการตกแต่งด้วยสไตล์ Mercedes-Benz รับกับฝากระโปรงหน้าที่ออกแบบให้เปี่ยมด้วยพลัง และชุดไฟหน้าขนาดใหญ่ ที่ทำให้ตัวรถดูกว้าง และมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น

เดินเกมส์รุกด้วย 3 รุ่นย่อยหลัก Pure, Progressive และ Power

X-Class PURE

มากับภายนอกดุดันด้วยชุดกันชนหน้า-หลังสีดำ, ชุดไฟหน้าแบบฮาโลเจน, กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า และล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ส่วนภายในจะมากับการตกแต่งโทนสีดำเป็นหลัก ในขณะที่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายจะประกอบด้วย แผ่นพลาสติกปูพื้น, เบาะนั่งคู่หน้าปรับ Manual, ชุดเครื่องยนต์ Audio 20 พร้อมช่องต่อ USB, ระบบปรับอากาศ Manual ส่วนขุมพลังจะมีให้เลือกทั้งแบบเบนซิน และดีเซล จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ซึ่งในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลจะมีทางเลือกระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นอีกหนึ่งออพชั่นให้เลือก

X-Class PROGRESSIVE

อัพเกรดความหรูหราขึ้นอีกระดับด้วยชุดกันหน้า-หลังสีเดียวกับตัวรถ ติดตั้งชุดไฟฟ้าฮาโลเจน, ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ตามด้วยกระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมระบบทำความร้อน เช่นเดียวกับในส่วนของกระจกบังลมหน้า และปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยด์ที่มากับขนาด 17 นิ้วลาย 6 ก้าน

ส่วนภายในยังคงเป็นการตกแต่งด้วยโทนสีดำ และเก็บรายละเอียดด้วยโทนสีเงิน Silver Shadow, พรมปูพื้นที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์ ตามด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น เบาะนั่งปรับ Manual เพิ่มความหรูด้วยพวงมาลัย, หัวเกียร์ และด้ามเบรกมือหุ้มหนัง, กาบบันได และบันไดข้างเป็นวัสดุอลูมิเนียม, ชุดเครื่องเสียง Audio 20 พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และลำโพง 8 ตำแหน่ง, เข็มทิศที่กระจกมองหลัง รตลอดจนระบบปรับอากาศ

สำหรับขุมพลังยังคงมากับ 2 ทางเลือกหลัก คือ เบนซิน และดีเซล ซึ่งจับคู่กับเกีบร์ธรรมดา 6 สปีด และยังคงมีออพชั่นเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC all-wheel drive เป็นอีกทางเลือกให้กับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล พร้อมกับออพชั่นเสริม 2 ชุด คือ Comfort Package และ Style Package

X-Class POWER

ยกระดับเต็มขั้นด้วยชุดกันชนหน้า-หลังสีเดียวกับตัวรถ พร้อมการตกแต่งเพิ่มความหรูด้วยวัสดุโครเมี่ยม, เสริมด้วยชุดไฟหน้า และไฟท้ายแบบ LED, กระจกมองข้างปรับ-พับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบทำความร้อน รวมถึงในส่วนของกระจกบังลมหน้า, ที่ปัดน้ำมันอัตโนมัติ ตลอดจนเสริมการนำเสนอความแกร่งด้วยกาบบันได และบันไดข้างเป็นวัสดุอลูมิเนียม ที่รับกันได้ดีกับล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้วลาย 6 ก้านคู่

ภายในอัพเกรดด้วยวสัดุหนัง ARTICO ตัดเย็บอย่างดี และยังคงตกแต่งด้วยโทนสีดำเป็นหลักพร้อมเก็บรายละเอียดด้วยโทนสีเงิน Silver Shadow, เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนัง ARTICO และ DINAMICA microfiber พร้อมด้วยพรมปูพื้นที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์, เบาะนั่งปรับไฟฟ้าพร้อมระบบนวด, พวงมาลัย, หัวเกียร์ และด้ามเบรกมือหุ้มหนัง, เข็มทิศที่กระจกมองหลัง, ชุดเครื่องเสียง Audio 20 รองรับ CD พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ

THERMOTRONIC, กุญแจอัจฉริยะแบบ KEYLESS GO

ส่วนเครื่องยนต์นั้นมีตัวเลือกเดียว คือ ดีเซลที่จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และมีออพชั่นเป็นเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC all-wheel drive เช่นกัน

เร้าใจด้วยสมรรถนะจากเครื่องยนต์ 4 สูบ และ 6 สูบ

สำหรับรายละเอียดด้านเครื่องยนต์นั้น X-Class นำเสนอขุมพลังดีเซล 2 รุ่นด้วยกัน คือ X 220 d พ่วงระบบอัดอากาศแบบ Single Turbocharger โดยจะมีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 163 แรงม้า แลระรุ่น X 250 d Biturbo ที่มีกำลัง 190 แรงม้า ในขณะที่เครื่องยนต์เบนซินนั้นมากับรุ่นย่อย X 200 ซึ่งมีกำลังที่ 165 แรงม้า

อีกทั้งในรุ่นย่อยที่เป็นเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด 7G-TRONIC PLUS นั้นยังเพิ่มขีดความสามารถในการขับด้วยฟังค์ชั่น DYNAMIC SELECT ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมระบบ ECO start/stop function โดยจะประกอบด้วยโหมด Comfort, ECO, Manual และสำหรับขาลุยกับโหมด Offroad

โดยในช่วงกลางปีหน้าจะมีเวอร์ชั่นแรงจากเครื่องยนต์ดีเซล V6 ตามออกมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือก โดยบล็อคนี้จะมากับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด 7G-TRONIC PLUS และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC all-wheel drive