ใหม่ MG GS ( เอ็มจี จีเอส )ยนตรกรรมอเนกประสงค์รุ่นแรกจาก MG ที่มากับความแตกต่าง
MG GS ( เอ็มจี จีเอส ) ยนตรกรรมอเนกประสงค์รุ่นแรกจากค่าย MG ที่มากับความแตกต่าง เพื่อยกระดับคุณสมบัติที่เหนือกว่ารถระดับเดียวกันในทุกด้าน ตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกที่ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด Brit Dynamic และ Diamond Flow Design เพื่อสร้างสไตล์ที่โดดเด่น พร้อมรายละเอียดต่างๆ สำหรับการอำนวยความสะดวกในทุกด้านที่ติดตั้งมาให้อย่างลงตัว
MG GS
กับชุดไฟหน้า HID Projector ที่มาพร้อมระบบหัวฉีดน้ำล้างไฟหน้า สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ 2.0T X AWD ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ 2.0 T D 2WD จะมากับชุดไฟหน้าแบบฮาโลเจน โดยทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อมกับระบบเปิด-ปิด และปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ รวมถึงชุดไฟ Daytime Running Lights สำหรับส่องสว่างขณะขับขี่กลางวัน, ชุดไฟท้ายแบบ LED และไฟเบรกดวงที่ 3, ไฟตัดหมอกด้านหน้า และด้านหลัง, มือจับเปิดประตูสีเดียวกับตัวรถ, กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ส่วนราวแร็วหลังคา และหลังคา Sun – Roof แบบปรับไฟฟ้า จะถูกติดตั้งมาให้ในรุ่น 2.0T X AWD แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ ภายใต้งานดีไซน์ที่เน้นความทันสมัยด้วยเส้นสายเฉียบคม ด้วยโทนสีดำจากวัสดุหนังเกรดพรีเมี่ยมเน้นความสปอร์ต ควบคู่ไปกับความเป็นรถอเนกประสงค์ด้วยเบาะหลังแบบพับแยกส่วน 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น กุญแจรีโมทอัจฉริยะ Keyless และปุ่ม Push Start, กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ, เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น 2.0T X AWD แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ), หน้าจอ Multi – Function Display ขนาดใหญ่ 8 นิ้ว, ระบบปรับอากาศอัตโนมัตื พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control, ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 8 ตัว รองรับ Multi Media และการเชื่อมต่อ Bluetooth, USB, AUX
inkaNet เป็นมากกว่าฟังค์ชั่นในรถยนต์
MG GS ( เอ็มจี จีเอส ) มากับความล้ำสมัยด้วยระบบเชื่อมต่อ และการสื่อสาร inkaNet ที่ใช้สื่อสารระหว่าง MG GS กับผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้ผ่าน 3 ช่องทางหลัก คือ แอพพลิเคชั่น inkaNet บนสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android, เว็บไซต์ www.mgcars.com และ MG Call Centre โดยระบบ inkaNet จะมีฟังก์ชั่นที่ให้บริการข้อมูลรถยนต์ และความปลอดภัย ซึ่งประกอบไปด้วย
- ระบบนำทางรถยนต์ ซึ่งนอกจากจะให้ข้อมูลผ่าน Google Maps แล้วผู้ใช้ยังสามารถเช็คตำแหน่งรถยนต์ได้ด้วยตัวเอง ตลอดจนติดตามตำแหน่งรถยนต์ผ่าน Call Centre ได้แบบ Real time ด้วยเช่นกัน
- ระบบแจ้งอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันในการขับรถจากพฤติกรรมการขับขี่ พร้อมแสดงผลอัตราสิ้นเปลืองโดยเปรียบเทียบเป็นค่าเฉลี่ยทั้งแบบรายสัปดาห์ และรายเดือน ทั้งยังสามารถเปรียบเทียบระหว่างรถ MG ของคุณกับรถของคนอื่น เพื่อช่วยให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และสร้างความประหยัดมากขึ้น
- ระบบเลขาฯ ส่วนตัว เพื่อสอบถามข้อมูล และขอรับคำแนะนำการช่วยเหลือเบื้องต้นต่างๆ รวมไปถึงการอำนวยความสะดวกโดยการส่งเส้นทางการเดินทาง (Point of Interest) มายังหน้าจอวิทยุรถยนต์โดยไม่ต้องค้นหา
- ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับช่วยกำหนดขอบเขตรัศมีการขับ ซึ่งสามารถกำหนดได้ตั้งแต่ 500 ม. ไปถึง 10 กม. จากศูนย์กลาง โดยในกรณีที่รถออกนอกรัศมีที่กำหนดระบบจะแจ้งเตือนผ่าน Push notification และส่ง SMS เตือน
- วางแผนการเดินทาง ด้วยการส่งแผนการเดินทางจากคอมพิวเตอร์ไปยังหน้าจอในรถยนต์
- การตรวจวิเคราะห์ หรือเตือนความผิดปกติของรถยนต์ต่างๆ ทาง Push Notification เช่น เช็คสถานะการทำงานของเครื่องยนต์, ระบบเบรก, ระบบถุงลมเบื้องต้นผ่านทางแอพพลิเคชั่น หรือติดต่อ MG Call Centre เพื่อให้ช่วยตรวจสอบความผิดปกติ และขอรับคำแนะนำการช่วยเหลือเบื้องต้น
- การตรวจสอบสถานะรถยนต์ ซึ่งจะแจ้งให้ผู้ขับขี่ทราบสถานะปัจจุบันว่าปิดอยู่หรือไม่ รวมถึงแจ้งระดับแบตเตอรี่, ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง และอุณหภูมิอากาศภายนอก
- ควบคุมการทำงานของรถยนต์ เพื่ออำนวยความสะดวกเช่นการสั่งล็อค/ปลดล็อครถระยะไกลผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน หรือ MG Call Centre ตลอดจนการค้นหาด้วยฟังชั่น Find My Car ที่ระบบจะสั่งการให้รถเปิดไฟหน้าซึ่งช่วยให้สามารถหารถในที่มืดได้ง่ายขึ้น
- การเตือนความผิดปกติของรถยนต์ ที่จะแจ้งเตือนผ่านทาง Push notification บนแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน เมื่อรถมีการเคลื่อนที่ผิดปกติ หรือรถมีการสตาร์ทเครื่องยนต์
- การโทรออกและรับสายผ่านหน้าจอวิทยุรถยนต์ โดยสามารถรับสายและโทรออก จากหน้าจอวิทยุรถยนต์ไปยังโทรศัพท์เครื่องอื่นได้ แม้มีไม่โทรศัพท์มือถืออยู่บนรถ หรือลืมพกโทรศัพท์มือถือ
- การรับและส่งข้อความผ่านหน้าจอวิทยุในรถยนต์ แม้ไม่มีโทรศัพท์มือถืออยู่บนรถ
- การแชร์สัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายผ่านหน้าจอวิทยุรถยนต์ ด้วยสัญญาณ WI-FI โดยวิทยุรถยนต์จะทำหน้าที่เสมือน WI-FI Router ให้เชื่อมต่อได้ทุกที่ทุกเวลา
เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร 218 แรงม้า … จุดเริ่มของสมรรถนะเกินคาดหมาย
ในส่วนของสมรรถนะนั้น MG GS จะมากับเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว ไดเรคอินเจคชั่น ซึ่งมีพละกำลังสูงสุด 218 แรงม้าที่ 5,300 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 2,500 – 4,000 รอบต่อนาที โดยจะมี 2 รุ่นให้เลือก คือ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ 2.0T D และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ 2.0 T X AWD ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ TST – Twin Clutch Sportronic Transmission แบบ 6 สปีด
ซึ่งในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะมาพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ที่หลังพวงมาลัย และรองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 ได้ทั้ง 2 รุ่น ส่วนระบบพวงมาลัยเป็นแบบแร็คแอนด์ พิเนี่ยน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า EPS ในขณะที่ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังอิสระมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ตามด้วยความปลอดภัยจากระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมผ้าเบรกแบบ Ceramic Compound Brake Pads
Synchronize Protection System” … 13 ฟังค์ชั่นความปลอดภัยในหนึ่งเดียว MG GS
ระบบความปลอดภัยของ MG GS นั้นอัดแน่นอยู่ภายใต้โครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) โดยจะประกอบด้วยถุงลม 4 จุด คู่หน้าและด้านข้าง รวมถึงระบบ Synchronize Protection System ที่มีทั้งหมด 13 ฟังก์ชั่น และทำงานสอดประสานกันเป็นหนึ่งเดียว โดยจะประกอบไปด้วย ระบบ ABS – Anti-lock Braking System ป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน, ระบบ EBD – Electronic Brake Force Distribution System ช่วยกระจายแรงเบรก, ระบบ TCS – Traction Control System ป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล, ระบบ CBC – Curve Brake Control ควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง, ระบบ SCS – Stability Control System ควบคุมการทรงตัว, ระบบ AVH – Auto Vehicle Hold ป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง, ระบบ BDC – Intelligent Brake Disc Cleaning ทำความสะอาดจานเบรกอัจฉริยะ, ระบบ OHBV – Optimized Hydraulic Brake Servo เพิ่มแรงดันไฮดรอลิคเบรกให้เหมาะสม, ระบบ MSR – Motor Control Slide Retainer ป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน, ระบบ EBA – Electronic Brake Assist เสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์, ระบบ HAS – Hill-Start Assist System ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบ TPMS – Tire Pressure Monitor System ตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง และระบบ EPB – Electronic Parking Brake เบรกมือไฟฟ้า
Specification
รุ่น | 2.0 T D 2WD | 2.0 T X AWD |
เครื่องยนต์ | เบนซิน GDI – Gasoline Direct Injection DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว Turbo TGI – TECH | |
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี.) | 1,995 | |
กำลังสูงสุด (แรงม้า / รอบต่อนาที) | 218 / 5,300 | |
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร / รอบต่อนาที) | 350 / 2,500 – 4,000 | |
ระบบส่งกำลัง | TST – Twin Clutch Sportronic Transmission 6 – Speed | |
ระบบพวงมาลัย | แร็คแอนด์พิเนี่ยน ควบคุมด้วยไฟฟ้า EPS | |
ระบบขับเคลื่อน | 2 ล้อ 2WD | 4 ล้อ AWD |
ระบบช่วงล่าง
|
| |
ระบบเบรก
|
| |
ล้อ | 18 นิ้ว | |
ยาง | 235 / 50 R18 |
บทความที่เกี่ยวข้อง
รีวิว : MG GS 1.5 Turbo รถอเนกประสงค์สุดหรู ราคาไม่ถึงล้าน
เอ็มจี เชิญคุณร่วมพิสูจน์ความแรง 8.2 วินาที กับ NEW MG GS ทั่วประเทศ
เอ็มจี เปิดตัว NEW MG GS สู่มาตรฐานใหม่ของรถสปอร์ตเอสยูวี