Mini John Cooper Works GP Concept แนวทางรถแต่งสำหรับสาวกชาวไทย “โหดพอมั้ย ถามใจเธอดู”
ในงาน IAA 2017 ที่ผ่านมา BMW Group(บีเอ็มดับเบิ้ลยู กรุ๊ป) เรียกเสียง “ฮือฮา” ด้วย Mini John Cooper Works GP Concept(มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์ค จีพี คอนเซ็ปต์) รถสปอร์ตสุดหล่อ ที่แต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศ เพื่อสื่อถึง “ความสนุกสนานในการขับ” ด้วยแรงบันดาลใจจาก “ชัยชนะในตำนานของผู้ผลิตรถยนต์กับการแข่งขัน Monte Carlo Rally เมื่อ 50 ปีที่แล้ว”
John Cooper Works “โหด” เต็มข้อ ลงตัวกับ “สีสัน” บาดใจ
Mini John Cooper Works GP Concept (มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์ค จีพี คอนเซ็ปต์) โชว์ตัวในงานด้วยความ “ดุ” สุดบรรยาย ทั้งจากการสาดสีใหม่เน้นหลักๆ 2 โทน คือ สีดำ Black Jack Anthracite และสีแดง Curbside Red Metallic พร้อมกับยกระดับความโหดด้วยชุดแต่งอลังการ เช่น ช่องดักอากาศฝากระโปรง พร้อมกระจังหน้า และช่องดักอากาศขนาดใหญ่ลายรังผึ้ง เสริมด้วยชุด Air Deflectors โหดๆ รวมถึงการติดตั้ง Splitter ด้านหน้าที่มากับ 3 ช่องดักอากาศ ซึ่งมีการออกแบบยางต่อเนื่องไปถึงแก้มด้านข้างบริเวณซุ้มล้อในสไตล์ Wide Body โดยทั้งหมดทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อช่วลดน้ำหนัก และเสริมประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์
มุมมองจากด้านข้างยังต่อเนื่องด้วยอารมณ์ความแข็งแกร่ง จากชุดสเกิร์ตด้านข้างทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ช่วยเพิ่มความเตี้ย เช่นเดียวกับการเลือกใช้ล้ออัลลอดย์น้ำหนักเบา Racetrack Lightweight ขนาด 19 นิ้วหน้ากว้าง โทนสีสะดุดตาด้วยการผสมผสานสีส้ม Highspeed Orange และสีแดง Curbside Red Metallic ต่อเนื่องด้วยการเก็บรายละเอียด เช่น กระจกมองข้างใหม่ที่เฉี่ยวขึ้น รวมถึงการประทับสติ๊กเกอร์หมายเลข 0059 บริเวณแก้มข้าง ซึ่งความหมายของเลขนี้ก็คือ ปีเกิดของแบรนด์ Mini ปี 1959 นั่นเอง
ส่วนมุมมองจากด้านหลังยังคงมีความเป็นแบรนด์ Mini อย่างเต็มตัวจากลักษณะของตัวถังแบบ Hatch แต่เสริมจุดเด่นด้วยสปอยเลอร์หลังคาขนาดใหญ่, ชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่ลวดลายบนธงชาติอังกฤษ Union Jack (ยูเนี่ยน แจ็ค) ตามด้วยชุดกันชนหลังขนาดใหญ่แบบ Wide Body พร้อมช่องระบายอากาศ ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ปิดท้ายด้วยชุด Diffuser ที่ออกแบบให้รับกับการติดตั้งชุดท่อไอเสียคู่บริเวณกึ่งกลางตัวรถ และไฟตัดหมอกหลังซ้าย-ขวา
ภายในเต็มอารมณ์รถสนาม กับสมรรถนะที่ไม่เปิดเผย
Mini John Cooper Works GP Concept (มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์ค จีพี คอนเซ็ปต์) ถูก “รื้อ” ภายในห้องโดยสาร มาสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ โดยนำเสนอความเป็นรถสนามเต็มขั้น พร้อมการดีไซน์ที่ผสมผสานความเป็น 3 มิติ เข้าไปในการตกแต่ง เช่น การติดตั้งโรลเคจอลูมิเนียม, เบาะนั่งแบบ Bucket Seat พร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุด ตามด้วยในส่วนของคอนโซลทั้งหมด และแผงประตู รวมถึงในด้านหลัง ที่มาแบบเกลี้ยงเกลาไร้สิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ
นอกจากพวงมาลัยมัตลิฟังค์ชั่นสำหรับควบคุมหน้าจอมาตรวัดแบบดิจิตอลขนาดใหญ่ โดยจะมีระบบ Head-Up Display มาให้ ส่วนการเปลี่ยนเกียร์นั้นสามารถทำได้จากแป้น Paddle Shift หลังพวงมาลัย มาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนคงอยากรู้ล่ะสิว่าเจ้าตัวแสบคันนี้จะมีเรี่ยวแรงให้ใช้มากแต่ไหน
แต่เสียใจด้วยครับ เพราะทาง BMW Group (บีเอ็มดับเบิ้ลยู กรุ๊ป) “หมกเม็ด” แบบไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ ด้านสมรรถนะ แต่ก็คาดเดาไม่ยาก เพราะนี่คือเวอร์ชั่นที่สร้างขึ้นจาก “ของแรง” อย่าง “John Cooper Works” ซึ่งก็คิดว่าน่าจะปรับแต่งเพิ่มเติมมาบ้างเช่นกัน
