รีวิว : MITSUBISHI Pajero Sport 4WD 2.5 GT 5A/T ( มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต )

โพสต์เมื่อ 23rd เมษายน 2013 หมวดหมู่: Test Drive by iAMCAR โดย ป๋าซุ่ม..ขยุ้มหัวใจ

รถ PPV หรือที่เรียกว่า กระบะดัดแปลงคงจะหาชมได้แต่ในเมืองไทย เพราะความซับซ้อนของภาษีประเทศนี้ ทำให้ต้องแยกประเภทออกจาก SUV เพื่อเสียภาษีน้อยลง แต่ผมถือเป็นข้อดีสำหรับผู้บริโภคที่นิยมรักรถสไตล์นี้ ซึ่งในตลาดเมืองไทยจะมีอยู่ไม่กี่ค่าย แต่ที่โดดเด่นออกมาน่าจะมี MITSUBISHI Pajero Sport ( มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ) เป็นหนึ่งในนั้นด้วย ผมจึงขอนำรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อพิกัด 2.5 ลิตรออกไปพิสูจน์สมรรถนะกันครับ

ตอบโจทย์….ด้วยความหรูหรา

MITSUBISHI Pajero Sport เปิดตัวพร้อมแนวคิด “The Stylish Riding-On-Demand SUV…ตอบชีวิต ตามใจคุณ” ตลาดเมืองไทยในเดือนสิงหาคม 2551 แต่ด้วยการปรับปรุงพัฒนาทั้งด้านรูปลักษณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกให้ทันสมัยอยู่เรื่อยๆ จึงทำให้ลูกค้ายังไว้วางใจเลือกใช้ MITSIBISHI Pajero Sport แม้บอดี้นี้จะมีอายุราว 5 ปี แล้วก็ตาม ในปี 2013 โฉมล่าสุดมีการปรับรูปลักษณ์ให้หรูหรามากขึ้น โดยอาศัยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์และหลอดไฟ HID ที่ให้ความสว่างมากยิ่งขึ้น พร้อมระบบปรับระดับลำแสงอัตโนมัติและระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ตามสภาพแสงภายนอกรถ และติดตั้งระบบน้ำฉีดล้างไฟหน้ารถ รวมถึงระบบที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ กรอบกระจกมองข้างแบบโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยว

ติดตั้งสปอยเลอร์หลังสไตล์สปอร์ต พร้อมกล้องมองภาพหลังขณะถอยเพิ่มทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ เพิ่มความสะดวกสบายด้วยการติดตั้งสัญญานกะระยะจอดขณะถอยหลังแบบ 4 จุด ในความรู้สึกผมว่า MITSUBISHI นอกจากจะต้องปรับภาพลักษณ์ให้หรูหรามากขึ้นแล้ว ยังต้องการเพิ่มกลุ่มลูกค้าเป็นสาวๆ ด้วยเพราะใส่เพิ่มกล้องมองหลังแล้ว ยังมีเซ็นเซอร์กะระยะมาให้อีก ทำให้ลดข้อด้อยเวลาถอยจอด ซึ่งเป็นปัญหาหลักของสาวๆ ที่ขับรถขนาดใหญ่

ตอบโจทย์…ทุกคนในครอบครัว

ภายในกว้างขวางเบาะนั่งแบบ 3 แถว รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้มากถึง 5 รูปแบบ มีการปรับโทนสีของภายในใช้สีดำเป็นหลักตัดด้วยสีบอร์นเพื่อความหรูหรา เบาะที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน เติมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise control) สวิทช์ควบคุมวิทยุที่พวงมาลัย และ Paddle Shift สำหรับเปลี่ยนเกียร์ จุดเด่นที่สุดคงต้องยกให้อุปกรณ์ความบันเทิงเครื่องเล่น DVD,VCD,CD MP3 ที่ง่ายต่อการใช้งาน มีช่องต่ออุปกรณ์ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod / iPhone และจอภาพด้านหน้าแบบหน้าจอสัมผัส (Touch Screen) ขนาด 7 นิ้ว พร้อมจอภาพแอลอีดี (LED) แบบ WIDE Screen ขนาด ใหญ่ 10.2 นิ้วสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ติดตั้งระบบนำทาง รองรับแผนที่ในรูปแบบ 3 มิติ พร้อมระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3 เพื่อความสบายทั่วทั้งคัน ความโดดเด่นในเรื่องอเนกประสงค์การใช้งาน ทัศนวิสัยด้านหน้าที่ดี และการเก็บเสียงที่ดีมีพร้อมใน MITSUBISHI Pajero Sport เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แค่เติมความบรรเทิงที่ใช้งานง่ายๆ ระบบนำทางที่ทันสมัยเข้าไป เพื่อให้ MITSUBISHI Pajero Sport มีความครบถ้วนในการเดินทางมากขึ้น ทำให้คุณและทุกคนในครอบครัวสบายตลอดการเดินทาง

ตอบโจทย์…ได้ทุกเส้นทาง

ใน MITSUBISHI Pajero Sport เน้นเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร DI-D ไฮเปอร์คอมมอนเรล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมท่อร่วมไอดีแบบทวิน อินเทคแมนิโฟลด์ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-3,500 รอบต่อนาที เพื่อตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการกำลังเครื่องยนต์ที่แรงและประหยัดในเวลาเดียวกัน

ระบบส่งกำลัง

แบบเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ INVECS II พร้อม Sportronic ที่ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจ สามารถเรียนรู้และจดจำรูปแบบการขับขี่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างเหมาะสมและทำให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift แต่เสน่ห์ที่ทำให้ MITSUBISHI Pajero Sport 4WD 2.5 GT 5A/T ไปได้ทุกที่ที่มีเส้นทางอย่างที่ผมกล่าวไว้คือ ระบบ SS4 (Super Select 4WD) ที่สามารถถ่ายทอดพลังขับเคลื่อนสู่ล้อทั้งสี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการขับขี่บนทุกสภาพพื้นผิวถนน นอกจากนี้ยังสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่จากถนนปกติในแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่ให้การประหยัดน้ำมันมาเป็นขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับขับขี่เส้นทางขรุขระได้โดยไม่ต้องหยุดรถจากเทคโนโลยี Shift on the fly โดยมี 4 โหมดให้เลือก

2H ขับล้อหลัง

เหมาะสำหรับการขับขี่แบบปกติบนถนนธรรมดาที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้การขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ จึงให้อัตราเร่งที่ดี และประหยัดน้ำมัน เพราะกำลังของเครื่องยนต์ทั้งหมดจะถูกส่งไปยังล้อคู่หลังเท่านั้น

4H ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

เหมาะกับสภาพถนนเปียกลื่นที่ใช้ความเร็วสูง โดยระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปที่ล้อหน้าและล้อหลังในอัตราส่วน 50:50 หากเกิดการลื่นไถลของล้อหน้าหรือล้อหลัง ระบบ C/D Lock (Center Differential Lock ) จะส่งถ่ายกำลังจากล้อหลัง และ VCU (Viscous Coupling Unit) จะส่งถ่ายกำลังจากล้อที่ลื่นไถลไปยังล้อที่ไม่ลื่นไถลโดยระบบขับเคลื่อนจะเป็นในลักษณะ Full Time 4WD เพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ เกาะถนน และความปลอดภัย ตำแหน่งนี้เหมาะสำหรับใช้ในสภาพเส้นทางที่ลื่นไถลง่าย เช่น ฝนตกหรือทางลูกรัง โดยสามารถใช้ความเร็วได้

4HLc ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

ที่เหมาะกับสภาพทางที่ต้องการกำลังขับเคลื่อนสูง ในโหมดนี้ระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้งสี่โดยมีระบบ เซ็นเตอร์ ดิฟล็อก ซึ่งจะควบคุมแรงบิดของล้อหน้าและหลังให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง สำหรับการขับขี่ในสภาพโคลนเลน หรือบนพื้นถนนที่ลื่น น้ำท่วม

4LLc ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

แบบอัตราทดเฟืองสูงพิเศษ เหมาะกับสภาพทางที่ต้องการกำลังขับเคลื่อนสูง และไม่สามารถใช้ความเร็วได้ในเส้นทางที่ทุรกันดารมากโดยมีระบบ Center Differential Lock ควบคุมแรงบิดของล้อหน้าและล้อหลัง

ตอบโจทย์…การยึดเกาะ

ในส่วนระบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระแบบดับเบิ้ลวิชโบน คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทรีลิงค์ ทอคล์อาร์ม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง พร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว มีการปรับใหม่ให้ความนุ่มนวลและเกาะถนนมากขึ้น ซึ่งในจุดนี้ต้องยอมรับว่านิ่มนวลขึ้นชัดเจน แม้คุณจะไปนั่งในเบาะแถวที่ 3 ซึ่งมีปัญหาเรื่องความกระด้างในรถประเภทนี้ แต่ MITSIBISHI Pajero Sport แก้ไขจุดนี้มาได้ดี ทำให้ทั้ง 7 ที่นั่งนุ่มนวลตลอดเส้นทาง เสน่ห์อีกอย่าง คือ รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร ทำให้ควบคุมการเลี้ยวในพื้นที่จำกัดได้สะดวกขึ้น การเข้าโค้งต่างๆ ทำได้เสถียรไม่น้อย

MITSUBISHI Pajero Sport 4WD 2.5 GT 5A/T ในราคา 1,327,000 บาท ตอบโจทย์อะไรได้บ้างสำหรับผม คือ “สามารถเก็บสมรรถนะดีๆ ให้คงอยู่คู่กับตัวรถ และเปิดเส้นทางใหม่ให้ชีวิต มาพร้อมความประหยัด เพิ่มความสุขทุกคนในครอบครัว” เท่านี้คงพอแล้ว สำหรับรถที่มีราคาเท่านี้