รีวิว : MITSUBISHI Triton PLUS Double Cab 2.5 GLS A/T

เป็นข้อสงสัยส่วนตัวของผมมานานว่า…ทำไม MITSUBISHI Triton ซึ่งเป็นกระบะขนาด 1 ตัน ที่ออกมาจำหน่ายในบอดี้นี้มานานกว่า 7 ปี จึงยังครองยอดขายเป็นอันดับที่ 3 ในเซ็กเมนต์นี้ มาโดยตลอด ทั้งๆ ที่คู่แข่งต่างค่ายมีบอดี้ใหม่ออกมาให้เปรียบเทียบอยู่เสมอ ผมจึงนำ MITSUBISHI Triton PLUS Double Cab 2.5 GLS A/T ที่มีการปรับเปลี่ยนโฉม เติมแต่งความหรูหรา พร้อมระบบเอนเตอร์เทนเมนท์ล้ำสมัยเข้าไป เพื่อตอบโจทย์ของผู้บริโภคให้ครบถ้วนมากขึ้น

 

เพิ่ม…ความจุการบรรทุก

ครั้งแรกที่ MITSUBISHI Triton ก้าวเข้าสู่ตลาดประเทศไทย นับเป็นกระบะ 1 ตัน ที่สร้างเสียงฮือฮาให้กับวงการยานยนต์ และผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ซึ่ง ณ ปัจจุบันกระแสนั้นยังไม่เสื่อมคลาย จำนวนยอดจำหน่ายยังครองอันดับที่ 3 อย่างต่อเนื่องมามากกว่า 7 ปีทั้งๆ ที่ค่ายอื่นๆ ปรับโฉมเปลี่ยนบอดี้กันไปเกือบหมดแล้ว จากยอดขายนี้ทำให้ผมรู้สึกถึงความไว้วางใจในเรื่องคุณภาพสินค้า ที่ผู้บริโภคมีให้ต่อแบรนด์ MITSUBISHI แต่เพื่อคลายข้อสงสัยให้กระจ่างแจ้งต่อผู้บริโภคที่ยังไม่ได้เป็นเจ้าของ MITSUBISHI Triton ผมจึงขออนุญาตนำ MITSUBISHI Triton PLUS Double Cab 2.5 GLS A/T ใหม่ มาพิสูจน์สมรรถนะแบบจัดเต็มสักครั้ง

 

ดีไซน์ภายนอก

เรื่องการดีไซน์ภายนอกยังคงใช้พื้นฐานความแข็งแกร่ง ดุดันเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นกันชนหน้าขนาดใหญ่ที่อาศัยกระจังหน้าแบบรังผึ้งสามารถมองเห็นอินเตอร์คูลเลอร์ที่ซ้อนอยู่ด้านใน ตัดขอบชายล่างของกระจังด้วยคิ้วโครเมียม ขนาบไว้ด้วยไฟตัดหมอกเพื่อเพิ่มความปลอดภัยยามค่ำคืนทั้งด้านซ้ายและขวา มุมมองด้านข้างแต่งเติมความหรูหราด้วยกระจกมองข้างขนาดใหญ่สีโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ในส่วนของคิ้วข้างประตูทำการดีไซน์ใหม่ให้ดูคมเข้มมากขึ้น เพื่อให้ตัดกับความโค้งมนของตัวรถด้านข้าง ในส่วนของกระบะด้านหลังมีการเพิ่มพื้นที่การบรรทุกให้มากขึ้น โดยเปลี่ยนกระบะท้ายให้มีความสูง 462 มม. กว้าง 1.470 มม. ยาว 1.505 มม. ทำให้ด้านท้ายของกระบะมีความจุในการขนสัมภาระมากขึ้นไปอีก และยังมีกันชนท้ายพร้อมบันไดขึ้น – ลง ที่ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย และสวยงาม หรูหราอีกด้วย

เพิ่ม…ความบันเทิงที่คุณต้องการ

เอกลักษณ์การออกแบบภายใน Triton Double Cab หรือในรุ่น 4 ประตู อยู่ที่ตำแหน่งที่นั่งตอนหลัง เพราะลักษณะการออกแบบที่กว้างขวาง เบาะนั่งตอนหลังที่มีการวางองศาเอียงเล็กน้อยให้คล้ายกับการนั่งรถซีดานทั่วไป ทำให้การเดินทางไกลๆ ไม่เกิดอาการเมื่อยล้า แต่ใน Triton ใหม่ ถือเป็นการพลิกโฉมให้ออกมาในรูปแบบ “Luxury Pick Up” ด้วยอาศัยการคุมโทนสีดำตัดสลับความหรูกับสีโครเมียม ไล่มาดูที่พวงมาลัยแบบสามก้านสามารถปรับขึ้น – ลงได้ มีมัลติฟังก์ชั่นควบคุมเครื่องเสียงในก้านด้านซ้าย ด้านขวายังมีระบบควบคุมความเร็วคงที่อัตโนมัติ Cruise Control เพื่อลดความเหนื่อยล้าเวลาเดินทางไกล แต่พระเอกของความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ต้องยกให้จอภาพแบบ Wide Screen ขนาด 7 นิ้วพร้อมระบบ IMT (Intelligent Magic Touch) และช่องต่ออุปกรณ์ USB สามารถเชื่อม iPHONE & iPOD ได้อย่างง่ายดาย

 

IMT (Intelligent Magic Touch)

แต่ก่อนจะข้ามไปดูส่วนอื่นๆ ผมว่า IMT (Intelligent Magic Touch) มีความน่าสนใจสูงมาก มาลองใช้งานไปพร้อมๆ กับผมว่าทำอะไรได้บ้าง ส่วนแรกเป็นเรื่องของความบันเทิงที่สามารถใช้งานง่ายๆ โดยการใส่แผ่น CD/DVD หรือเพียงคุณเสียบ USB, iPHONE หรือ iPOD ที่มีไฟล์หนังหรือเพลงเข้าไปที่ช่องเสียบ USB ระบบจะทำการอ่านไฟล์ได้ทั้งภาษาไทย-อังกฤษ ให้คุณ เพียงคุณมาสัมผัสที่หน้าจอเลือกไฟล์เพลงหรือหนังที่คุณต้องการเท่านั้น แต่ที่เพิ่มเข้ามาอีก คุณสามารถดูไฟล์ภาพนิ่งได้อีกด้วย จุดต่อมาที่น่าสนใจ คือ การวางแผนในการรองรับระบบนำทาง Navi แบบ 3 มิติ, การเชื่อมต่อ Bluetooth หรือจะเป็นการเชื่อมเพื่อดูทีวี สามารถทำได้นะครับ เพียงคุณเข้าไปปรึกษากับศูนย์บริการ เพิ่มค่าใช้จ่ายเล็กน้อยออกมาออฟชั่นเต็มแน่นอน

 

ในส่วนของเบาะนั่งคู่หน้าหุ้มด้วยหนังสไตล์สปอร์ต ตรงคอนโซลเกียร์จะเห็นเกียร์อัตโนมัติพร้อมระบบ Sportronic สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์แบบ (+) – (-) ด้วยตัวคุณเอง ขยับลงมาจะเป็นที่วางแก้ว 2 จุดพร้อมเบรกมือที่วางในตำแหน่งที่ใช้งานง่าย ที่สำคัญยังมีกล่องเก็บของที่สามารถเป็นที่เท้าแขนในตัว ด้านหลังเป็นเบาะหนังเช่นกัน ตรงกลางมีที่เท้าแขนพร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 จุดในตัว หากเราดูจากออฟชั่นที่ Triton ใหม่ ให้มา จะเห็นว่าไม่ได้ต่างอะไรกับรถซีดานหรูมากนัก แต่สิ่งสำคัญที่ผมรู้สึกชอบ คือ การใช้งานที่เข้าใจง่ายของ IMT (Intelligent Magic Touch) เพราะแทนปุ่มสั่งงานต่างๆ ด้วยภาพพร้อมตัวอักษร ทำให้ไม่ต้องเรียนรู้การใช้งานด้วยการเปิดคู่มือ แค่มองก็ทราบแล้วว่าจะสั่งงานระบบได้อย่างไรครับ

 

เพิ่ม…ความสปอร์ต แบบประหยัด

ในส่วนเครื่องยนต์เน้นความประหยัดสูงสุด เพื่อเอาใจผู้บริโภคจึงใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร DI-D ไฮเปอร์คอมมอนเรล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมท่อร่วมไอดีแบบทวิน อินเทคแมนิโฟลด์ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-3,500 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ INVECS II พร้อม Sportronic สามารถเรียนรู้และจดจำรูปแบบการขับขี่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างเหมาะสมและทำให้ประหยัดน้ำมันได้
มากขึ้น ในส่วนของอัตราเร่งแม้จากหยุดนิ่งถึงรอบกลางจะไม่หนักหน่วงมากนัก แต่พอความเร็วถึง 90 กม./ชม. คราวนี้แหละไหลเป็นพายุเลยทีเดียว หันมองเรือนไมล์อีกทีปาเข้าไป 170 กม./ชม.แบบไม่ยากเย็น ที่สำคัญการปรับเปลี่ยนจังหวะของเกียร์ราบรื่นไม่กระชากให้รู้สึกรำคาน แต่เสน่ห์ที่มีมากกว่านั่นคือ Sportronic เพราะนอกจากคุณจะปรับจังหวะของเกียร์ได้เอง โดยการผลักไปที่ด้านซ้ายจากตำแหน่ง “D” แล้วดันลงเป็นการลดเกียร์ และดันขึ้นเป็นการเพิ่มเกียร์ คุณยังสามารถเพิ่มความปลอดภัยจากระบบชุดนี้ได้อีกด้วย เช่น เวลาที่คุณขับด้วยความเร็วสูง แล้วมีรถตัดหน้าอย่างกระทันหัน หากคุณกระแทกเบรกแรงๆ เหมือนรถกระบะทั่วๆ ไป รถจะต้องเกิดอาการหมุนแน่นอน แต่หากคุณใช้ Sportronic ลดเกียร์ลงในลักษณะของเกียร์ธรรมดาที่ใช้แรงหน่วงจากเครื่องยนต์ เข้ามาช่วยเบรกก่อนที่จะเสริมแรงเบรกเข้าไป จะทำให้ตัวรถไม่มีการถ่ายเทน้ำมันมาด้านหน้าเร็วเกินไปจนเกิดอาการท้ายเบาและปัดครับ

 

เพิ่ม…ความนิ่มนวลในการเดินทาง

ระบบช่วงล่างอิสระ แบบปีกนกสองชั้น คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลงในด้านหน้า แหนบแผ่นซ้อนพร้อมช็อคอัพไขว้ในด้านหลังเป็นมนต์เสน่ห์ที่ MITSUBISHI วางไว้ให้ Triton ก่อให้เกิดความนิ่มนวลในการเดินทาง มีการยึดเกาะในทางตรง ทางโค้งที่ดี ส่วนระบบบังคับเลี้ยวเป็นแบบแร็คแอนด์พิเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรง ที่สามารถสร้างวงเลี้ยงได้แคบเพียง 5.9 เมตร ระบบเบรกแบบดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อนในด้านหน้า ดรัมเบรกในด้านหลัง เติมระบบป้องกันล้อล็อค ABS และระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรก EBD เข้าไป เท่านี้ก็สามารถหยุดรถได้อย่างมั่นใจแล้ว

 

MITSUBISHI Triton PLUS Double Cab 2.5 GLS A/T ในราคา 845,000 บาท สำหรับผม คือ ความครบถ้วนที่เติมเต็มในฟังก์ชั่นความเป็นกระบะที่สามารถบรรทุกได้มากขึ้น เติมเต็มความบันเทิงภายในให้ขึ้นไปเทียบชั้นซีดานหรู ที่สำคัญยังคงเอกลักษณ์ที่ดีเอาไว้เต็มเปี่ยม คุณๆ ยังไม่ต้องเชื่อผมทั้งหมด ลองไปสัมผัสด้วยตัวเองได้ทุกๆ โชว์รูมของมิตซูบิชิทั่วประเทศครับ

ราคารถยนต์ใหม่

MITSUBISHI Triton PLUS Double Cab 2.5 GLS A/T ราคา 845,000 บาท


บทความแนะนำ

MITSUBISHI  Triton Plus Double Cab 2.4 GLS M/T CNG ความประหยัดที่เหนือกว่า
รีวิว : Mitsubishi  Triton 2014 ( มิตซูบิชิ ไทรทัน ) พร้อมหน้าจอใหม่ที่มี Navi คอยบอกเส้นทางในการเดินทาง
มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ กระบะพันธุ์ใหม่ หน้าเข้ม! เปิดตัวชิงส่วนแบ่งตลาดรถกระบะไทย