New Ford Ranger ยกระดับความดุดัน พร้อมเคาะราคาเริ่มต้นสุดเร้าใจที่ 669,000บาท
ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดตัว New Ford Ranger ตอกย้ำความเป็นผู้นำ ผ่านความโดดเด่นด้วยรูปโฉมใหม่ทั้งไลน์อัพ เพื่อนำเสนอนิยามการใช้ชีวิตที่แตกต่าง และสร้างแรงบันดาลใจ ภายใต้แนวคิด “Live The Ranger Life” ที่สะท้อนความแข็งแกร่งจากภายในสู่ภายนอก และบ่งบอกตัวตนอย่างชัดเจน
รายละเอียดการปรับโฉม ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เริ่มต้นด้วยรุ่นย่อย Ranger Wildtrak ที่สะดุดตาด้วยชุดกระจังหน้าแบบใหม่ อันดุดันด้วยตะแกรงสีดำตัดขอบด้วยสีส้ม Saber พร้อมโลโก้แบรนด์ Ford สีดำสไตล์สปอร์ต ลงตัวกับล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว, มือจับเปิดประตู, กรอบกระจกมองข้าง, ช่องอากาศที่แก้มหน้า, ราวแร็คหลังคา, สปอร์ตบาร์ และชุดกันชนหลัง ซึ่งเลือกใช้โทนสีดำเช่นกัน ทั้งยังมีการเปลี่ยนไปใช้ชุดไฟหน้าใหม่ที่ออกแบบให้มีสีเข้มขึ้นด้วย
และที่สำคัญก็คือด้านหลังที่มาพร้อมออพชั่นใหม่ล่าสุดเป็นชุดเปิด-ปิดฝากระบะท้าย ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า (Power Roller Shutter) มาให้เป็นครั้งแรก ขณะที่ภายในห้องโดยสารนั้นจะมากับเบาะนั่งดีไซน์ใหม่หุ้มด้วยวัสดุหนัง และหนังสังเคราะห์
ส่วนขุมพลังนั้นยังคงเร้าใจด้วยพื้นฐานเครื่องยนต์ดีเซลพิกัด 2.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศ Bi-Turbo ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น จนได้เรี่ยวแรงระดับ 213 แรงม้า และแรงบิดที่สูงถึง 500 นิวตันเมตร
นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่น่าสนใจอย่าง Ranger XL Stereet ใหม่ ในสไตล์ของปิคัพตอนครึ่งตัวเตี้ย ที่ตกแต่งมาเป็นพิเศษ ด้วยดีไซน์สปอร์ตรอบคัน โดยสติ๊กเกอร์ซึ่งเป็นผลงานของทีมดีไซเนอร์จากออสเตรเลียที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งของทีม Ford Thailand Racing -FTR) รับกับชุดแต่งโทนสีดำ ในส่วนของชุดกระจังหน้าตะแกรงสีดำ ตัดขอบด้วยเส้นสีแดง พร้อมด้วยล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้วโทนสีดำ
ส่วนภายในห้องโดยสารนั้นมากับออพชั่นแบบครบครัน จากหน้าจอสีระบบสัมผัสแบบ Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับระบบปฏิบัตการได้ทั้ง Apple Car Play และ Android Auto ตลอดจนรองรับระบบเชื่อมต่อ Bluetooth พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB 2 จุด และระบบเครื่องเสียงที่มีลำโพงมาให้ถึง 6 ตำแหน่ง
ด้านขุมพลังมากับเครื่องยนต์ ดีเซล เทอร์โบแบบแปรผัน ในพิกัด 2.2 ลิตร ที่มีกำลังสูงสุด 160 แรงม้า และแรงบิด 385 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด
ต่อเนื่องด้วยรุ่น Ranger XL+ Sport ที่โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วยชุดกระจังหน้าลวดลายตะแกรงโทนสีดำที่ดุดัน และโฉบเฉี่ยว มาพร้อมกับล้ออัลลอยด์สีดำขนาด 17 นิ้ว เช่นเดียวกับชุดกันชนหลัง ส่วนไฮไลต์สำคัญคือ ออพชั่นมาตรฐานที่จัดเต็มตั้งแต่ ระบบล็อค และปลดล็อคประตูด้วยกุญแจรีโมทอัจฉริยะ ตามมาด้วยหน้าจอสีระบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว รองรับระบบ Apple Car Play และ Android Auto พร้อมการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth และช่องต่อ USB 2 ตำแหน่ง รวมถึงระบบเครื่องเสียงที่มีลำโพงมาให้ 6 ตำแหน่ง
ขณะที่ขุมพลังจะมากับเครื่องยนต์ ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.2 ลิตร พร้อมเรี่ยวแรงที่ 160 แรงม้า และแรงบิดสู.สุด 385 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด
ปิดท้ายด้วยรุ่นย่อย Ranger XLT กับการปรับรูปโฉมใหม่ พร้อมใส่อุปกรณ์ตกแต่ง ที่ประกอบด้วย ชุดกระจังหน้าตะแกรงสีดำตัดขอบโครเมี่ยม พร้อมกระจกมองข้าง, มือจับประตู และกันชนหลังโทนสีดำเงา ซึ่งสำหรับรุ่น 4 ประตู XLT จะมากับการอัพเกรดภายในห้องโดยสารใหม่ ด้วยเบาะหนัง โดยด้านคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง พร้อมกับยกระดับประสิทธิภาพการขับขี่ ด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control ตลอดจนระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA รวมไปถึงระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM
ส่วนเครื่องยนต์ก็ยังคงมากับพื้นฐาน ดีเซล เทอร์โบขนาด 2.2 ลิตร มีกำลังสูงสุด 160 แรงม้า พร้อมแรงบิด 385 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เช่นเดิม
ราคารถใหม่
Ford Ranger XL Street ราคา 669,000 บาท
Ford Ranger XL+ Sport ราคา 689,000 บาท
Ford Ranger DBL XLT (M/T) ราคาพิเศษ 799,000 บาท
Ford Ranger Wildtrak 4×2 (M/T) ราคา 979,000 บาท
Ford Ranger Wildtrak 4×2 (A/T) ราคา 1,029,000 บาท
Ford Ranger Wildtrak 4×4 (A/T) ราคา 1,265,000 บาท
Ford Ranger Raptor ราคา 1,699,000 บาท
