รีวิว : All New Suzuki Swift GLX-Navi ขับดี ถ้ามีตังค์พอ จบและคุ้มในครั้งเดียว
อัดอั้นรอคอยกันมานานพอควร พอได้ฤกษ์คลอด ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ 2018 เจนเนอเรชั่นที่ 3 ก็เลยต้องตามกระแส ทดลองขับกันดูสักหน่อย ไหนๆ ก็ได้รถมาขับแล้ว ก็ลองตัวท้อป All New Suzuki Swift GLX-Navi มันเสียเลย เพราะราคาเพิ่มขึ้นมาจาก GLX แค่ 2 หมื่น แต่มันมีอะไรให้น่าดึงดูดใจ จนต้องทดลองขับดู
ถ้าว่ากันตามสเป็กแล้ว ในรุ่นท้อป GLX-Navi จะมี ราคา ค่าตัวแพงกว่า รุ่น GLX อยู่ 2 หมื่นบาท ออปชั่นตัวรถ ระบบต่างๆ รวมถึงหน้าตาภายนอกเหมือนกันหมดทุกอย่าง…แต่พอเข้ามาภายในนี่สิ ถ้าเทียบอารมณ์ ความรู้สึกแบบสัมผัสได้ด้วยตาแล้ว เจ้ารุ่น Navi มันดูชวนมอง และดูมีอะไรดึงดูดใจ
ดีไซน์ทันสมัย เข้ากับยุคใหม่
มองผ่านๆ All New Suzuki Swift อาจจะมีความคล้ายคลึงกับโฉมที่แล้ว แต่ถ้าไปเทียบสเป็กแล้ว นี่คือตัวถังใหม่ และมีความกว้างมากกว่าเดิม
เริ่มตั้งแต่ไฟหน้า All New Suzuki Swift GLX-Navi จะเป็นแบบ LED Projector ปรับระดับสูง-ต่ำได้ ให้ความส่องสว่าง ชัดเจนดีในยามค่ำคืน ที่ผมขับอยู่บนถนนมืดๆ บนเขาสะเมิง จ.เชียงใหม่
ส่วนไฟ Day time Running Light แบบเป็นเส้นไกด์ที่มีความสว่างมาก ฝังอยู่ในโคมไฟหน้า ยิ่งเวลาค่ำคืน อาจลืมเผลอเปิดไฟหน้าได้ เพราะของเค้าสว่างจริงๆ แต่ไม่ต้องกลัวว่าตอนเปิดไฟหน้าแล้วมันจะสว่างเป็นทวีคูณ เพราะแสงของเจ้า DRL จะดรอปลง เพื่อให้ไฟหน้าทำการส่องพื้นถนนแทน
ด้านหลังก็เช่นกัน ไฟท้ายแบบ LED ที่ทันสมัยมาก จนไม่คิดที่จะหาของแต่ง (ไม่รู้มีหรือเปล่า) มาเปลี่ยนเพิ่ม รวมถึงล้อแม็กขนาด 16” พร้อมยางขนาด 185/55R16 ที่จัดว่าเฟี้ยวพอตัว
ภายใน สปอร์ตเต็มตัว
ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปขับ มีความตกใจเล็กน้อยตอนเปิดประตูหลัง ดีว่าไหวตัวทัน ที่เห็นมือเปิดซ่อนตัวอยู่ตรงเสา C ซึ่งเป็นดีไซน์ที่เก๋ดีไม่หยอก สำหรับรถยุคนี้
พอเข้ามานั่งที่ตำแหน่งคนขับ ให้ความรู้สึกที่โอเคมากสำหรับเบาะนั่งที่ให้ความกระชับ พวงมาลัยแบบท้ายตัด ดูสปอร์ต และเข้ากับยุคสมัยแบบรถยุโรปมักใช้กัน โดยซูซูกิให้ความใส่ใจในการความสนุกของการขับขี่ ด้วยการให้พวงมาลัยปรับได้ถึง 4 ทิศทาง จึงสามารถปรับจูนให้เข้ากับท่านั่งที่ถนัดที่สุดได้
มาตรวัดหน้าปัด บอกเลยว่าแพรวพราวเกินตัวของความเป็นอีโคคาร์ กดเปิดสวิทช์สตาร์ทก็มีไฟโชว์ต่างๆ ติดมากมาย ทำให้ได้อารมณ์แบบรถแพงๆ
ระบบแอร์ก็เช่นกัน ดีไซน์ทรงกลม ผสมผสานการใช้ลูกบิดและปุ่มกดเอาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมจอดีสเพลย์ดิจิตอล ออกแบบได้ดีมากพอๆ กับรถคันใหญ่ๆแพงๆ
อย่างที่เกริ่นแต่แรก หน้าจอวิทยุเป็นแบบสัมผัส เพราะรุ่นนี้มีระบบนำทาง หรือ navigation หน้าจอวิทยุจึงดูหรูหรายิ่งขึ้น ซึ่งถ้าใครที่เคยใช้ซูซูกิมาก่อน จะมีความคล้ายคลึงกับในรุ่น CIAZ ฟังก์ชั่นการใช้งานจะรองรับไลฟ์สไตล์คนชอบเทคโนโลยี เพราะนอกจากจะมีแผนที่นำทางแล้ว ระบบเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน อย่าง CarPlay ก็มีให้ เรียกว่าไม่ต้องหาฟร้อนท์ไฮเอนด์มาเสริมแต่ง
เครื่องไม่ได้แรง แต่ขับดีกว่าเดิม
เครื่องยนต์รหัสใหม่ K12M ความจุ 1,2 ลิตร ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Dual Jet หัวฉีดคู่ ฉีดน้ำมันเป็นละอองฝอยได้เพียงพอในทุกรอบความเร็ว ผสานกับเกียร์ CVT ชุดใหม่
ให้การขับขี่ที่ต่อเนื่องดี โดยเฉพาะการขับทดสอบบนทางขึ้น-ลง เขาสะเมิง รับความรู้สึกตรงนี้ได้ชัดเจนว่า เครื่องยนต์ขนาดเพียงเท่านี้ แรงม้าเพียงแค่ 83 แรงม้า แต่ไม่ออกอาการรอ หรือเร่งไม่ไปให้เห็น ทางชันๆ ขาขึ้นนี่ มีกำลังให้เรียกใช้ได้ตลอด
บวกกับน้ำหนักตัวที่เบาลงกว่ารุ่นเดิมราว 80 กก.จากโครงสร้างตัวถัง Heartect ที่ซูซูกิภาคภูมิใจ ทำให้ขับได้สนุกมาก เลี้ยวได้คม คอนโทรลรถได้ง่าย จนทำให้การขับขั้น-ลงเขา ไม่มีความรู้สึกว่าเป็นภาระต่อเครื่องยนต์ และช่วงล่างเลย
ตอนที่เหยียบเบรกเพื่อชะลอหรือหยุด สร้างความประทับจากระบบเบรกแบบดิสก์ 4 ล้อ เนื่องมาจากแป้นเบรกให้น้ำหนักในการกดได้เนียนเท้า ควบคุมแรงกดบนเท้าได้ง่าย
สรุปเลยแล้วกัน All New Suzuki Swift GLX-Navi ซึ่งเป็นรุ่นท้อปสุด มี ราคา อยู่ที่ 629,000 บาท แม้จะแพงกว่ารุ่นรองท้อป GLX อยู่ 20,000 บาท แม้สมรรถนะการขับขี่จะไม่ต่าง แต่อารมณ์ในยามที่เข้าไปนั่งขับอยู่ภายในรถ มันก็ให้ฟีลลิ่งที่รู้สึกดีแบบไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะสรรหา ระบบนำทาง มาติดตั้งเพิ่ม รวมทั้งยังได้ CarPlay ที่มัน ครบ จบ ในครั้งเดียวครับท่านผู้อ่าน
