รีวิว : New SUZUKI Swift MT ( ซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นเกียร์ธรรมดา ) โดดเด่น ดูมีสไตล์ เหมาะสำหรับผู้บริโภคยุคใหม่
เปิดตัวอย่างสวยงามกับ New SUZUKI Swift MT ( ซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นเกียร์ธรรมดา ) เพื่อออกมาเสริมตราทัพในรุ่นเกียร์ออโต้ ที่พากันขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เรียกได้ว่าล็อตแรก 600 คันสำหรับเกียร์ธรรมดา ไม่ต้องโฆษณาก็ขายหมดอย่างง่ายดาย แต่สมรรถนะจะดีขนาดไหนตามไปสัมผัสพร้อมๆ กันครับ
ไม่แตกต่าง แต่ลงตัว
New SUZUKI Swift ในรุ่นเกียร์ธรรมดาออกมาจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่น คือ GA กับ GL ซึ่งออฟชั่นทั้งหมดจะเทียบเท่ากับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ GA และ GL เช่นกัน จะต่างกันในจุดเดียว คือ “เกียร์” ครับ ส่วนรุ่นที่เรานำมาทดสอบในครั้งนี้เป็นรุ่น GL ซึ่งเป็นตัว TOP สุดในรุ่นเกียร์ธรรมดา
พื้นฐานโครงสร้าง และขนาดของบอดี้เท่ากัน มิติตัวรถกว้าง 1,695 มม. ความยาว 3,850 มม. ตัวถังเสริมความแข็งแรงทั้งหน้า-หลัง เพื่อความปลอดภัยจากการชน รูปลักษณ์ภายนอกทั้งกันชนหน้า ไฟหน้า กันชนท้าย ไฟท้าย เป็นตังบ่งชี้ถึงความหรูหราได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ซึ่งโดยรวมผมว่าเป็นรถยนต์ ECO Car ที่มีความลงตัวในการออกแบบไม่น้อย ทั้งเส้นสายที่ร้อยเรียงต่อเนื่องอย่างงดงาม ทำให้เวลาวิ่งอยู่บนท้องถนนโดดเด่น ดูมีสไตล์ เหมาะสำหรับผู้บริโภคยุคใหม่
วัสดุเกรดพรีเมี่ยม จัดวางอย่างเป็นระเบียบ
การออกแบบห้องโดยสารที่กว้างขวาง คอนโซลสีดำตัดกับสีเงิน มาตรวัดเล่นระดับทรงกลม จอแสดงผลแบบ MID (Multi Informatioin Display) ที่สามารถเป็นได้ทั้งนาฬิกาดิจิตอล, มาตรวัดอุณหภูมิภายนอก, มาตรวัดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง, มาตรวัดระยะการเดินทาง, มาตรวัดระยะทางในแต่ละทริป และมาตรวัดค่าเฉลี่ยการใช้น้ำมันต่อระยะทาง พวงมาลัยสามก้านสามารถปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมพาวเวอร์ไฟฟ้า เครื่องเสียงแบบ 2 DIN MP3 CD USB รองรับ iPod และ iPhone พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB
เบาะนั่งทั้งด้านหน้า – ด้านหลัง ใช้วัสดุพิเศษลดการสั่นสะเทือน เบาะหลังสามารถพับเก็บได้ เพิ่มพื้นที่ราบกว้างได้อีก ทำให้ที่เก็บสัมภาระด้านท้ายสามารถจัดเรียงสัมภาระขนาดใหญ่ได้หลากหลายรูปทรง และจัดวางได้ง่ายต่อการใช้งาน นอกจากนี้ ยังมี ระบบ Keyless push start และ Keyless Entry เพิ่มความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงรถ และสตาร์ทเครื่องยนต์
ภายใน
ภายในของ New SUZUKI Swift MT อย่างแรกที่สัมผัสได้ คือ ความกว้างขวาง และความอเนกประสงค์ แต่ที่ให้คะแนนเพิ่มไปอีกในความรู้สึกผม คือ การนำวัสดุเกรดดีมาใช้ในส่วนภายใน ทำให้รู้สึกถึงความคุ้มค่าในราคาทุกครั้งที่ขับขี่ ส่วนเรื่องทัศนวิสัยด้านหน้าถือว่าดีชัดเจนทุกเส้นทาง
ขับดีๆ ประหยัดน้ำมันกว่า AT อีก
พร้อมออกเดินทางไปกับเครื่องยนต์รหัส K12B แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันทั้งด้านไอดี-ไอเสีย (Dual VVT) ความจุกระบอกสูบ 1,242 ซีซี. ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก 73.0 มม. x 74.2 มม. ตัวลูกสูบเคลือบสารลดความฝืด (Dry Film Coating) เพื่อลดความสึกหรอของลูกสูบ อัตราส่วนกำลังอัด 11.0 : 1 ระบบจุดระเบิดแบบคอยล์แยก ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดมัลติพอยท์ MPI ซึ่งสามารถฉีดน้ำมันได้เป็นฝอย ทำให้การเผาไหม้รวดเร็วและสมบรูณ์ และยังรองรับแก๊สโซฮอล E 20 ให้กำลังสูงสุดที่ 91 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 188 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที ส่วนระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ในรุ่นนี้ก่อนจะกด “Engine Start” คุณต้องเหยียบคลัทช์ด้วยนะครับ เพราะเป็นระบบความปลอดภัยของ SUZUKI ที่จะไม่ทำให้รถของคุณพุ่งไปข้างหน้าเวลา “Start” เครื่องยนต์ เรื่องสมรรถนะของเครื่องยนต์บล็อคนี้ เมื่อบวกกับเกียร์ธรรมดาเข้าไป ความสนุกแบบ Racing ก็บังเกิด เพราะในตัวเกียร์ CVT ก็เป็น ECO Car น้องใหม่มาแรงในท้องตลาดอยู่แล้ว เมื่อมาเป็นเกียร์ธรรมดาลากแบบเต็มรอบเต็มแรง ปลายเกียร์ 4 ก็ไปแตะที่ 160 กม./ชม. แล้วครับ และเมื่อเปลี่ยนเกียร์ 5 นับในใจหนึ่งสองสาม มองเลขไมล์อีกที 170 กม./ชม. เข้าไปแล้ว แถมยังจะไหลได้อีก สรุปได้ว่าการตอบสนองทำได้ดีมากในพิกัดความจุไม่เกิน 1,300 ซีซี. อัตราเร่งแซงถือว่าน่าพอใจครับ
เรื่องอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน ผมใช้ระยะทาง 310 กม. กับความเร็วเฉลี่ยประมาณ 100 กม./ชม. ใช้เงินเต็มน้ำมันไปทั้งหมด 485 บาท (แก๊สโซฮอล อี 20 ลิตรละ 34.48 บาท) คำนวณแล้วประหยัดกว่าเกียร์ CVT ครับ
เอาอยู่ทุกเส้นทาง
ระบบช่วงล่างยังใช้พื้นฐานเดิม ด้านหน้าเป็น แม็คฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีมที่ใช้วัสุดที่แข็งแรงขึ้น แต่น้ำหนักเบา พร้อมคอยล์สปริงที่สามารถลดแรงสั่นสะเทือนลง 25 เปอร์เซ็นต์ เรื่องการทรงตัวทางตรงและทางโค้ง เรื่องนี้ต้องยกให้ว่า “ไม่เป็นรอง ECO Car” ค่ายไหนๆ จะขึ้นชั้นไปเทียบกับช่วงล่างพิกัด 1.5 ลิตรได้อย่างสบาย ความนิ่มนวลในการเดินทาง จุดนี้ถือว่าไม่นิ่มจนเวียนหัว หรือว่าแข็งจนเกินไปครับ
ในราคาค่าตัวเพียง 467,000 บาท สำหรับ New SUZUKI Swift GL MT คุ้มค่าครับ เพราะมันไม่ใช่เป็นเพียง ECO Car ที่จะนำมาใช้เพียงในเมืองเท่านั้น คุณจะไปเหนือจรดใต้ของประเทศ ผมเชื่อว่า คันนี้ พาคุณไปได้อย่างสบาย พร้อมความเร้าใจในรูปแบบการขับขี่ที่สนุกสนานมากขึ้นครับ