New Toyota C-HR … ปรับโฉมเพิ่มเฉี่ยวด้วย Silver Roof และราคาสุดคุ้ม
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด สร้างกระแสนิยมครั้งใหม่ให้รถ Sub-Compact SUV ด้วย New Toyota C-HR (Coupe High Rider) รุ่นปรับโฉม อัพเกรดความโฉบเฉี่ยวมากขึ้นด้วยโทนสีตัวถังภายนอกใหม่ คือ สีขาว Platinum White Pearl และสีน้ำเงิน Nebula Blue ซึ่งมีการเพิ่มความสะดุดตาด้วยโทนหลังคาสีดำ Black Roof ให้กับตัวถังสีขาว Platinum White Pearl, สีแดง Premium Red, สีบรอนซ์ Metal Stream Metallic ขณะที่ในรุ่นตัวถังสีดำ Attitude Black Mica และสีน้ำเงิน Nebula Blue เลือกสร้างความต่างด้วยโทนสีหลังคาแบบ Silver Roof
ตามด้วยการเพิ่มความโดดเด่นให้งานดีไซน์ ด้วยชุดไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ Full LED, ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL, ไฟเลี้ยวแบบ Sequential ไปจนถึงระบบไฟส่องสว่างที่กระจกมองข้างแบบ LED (Welcome Lamp) ทั้งยังเสริมด้วยความปลอดภัยจากฟังค์ชั่นการปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ, ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ตลอดจนระบบ Follow-Me-Home ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เช่นเดียวกับล้ออัลลอยด์สไตล์ทูโทนขนาด 17 นิ้ว
ด้านห้องโดยสารภายในยังคงความพรีเมี่ยมในทุกมิติ ตั้งแต่เบาะนั่งคู่หน้าสไตล์สปอร์ตที่โอบกระชับรับสรีระ และมาพร้อมปุ่มปรับดันหลังด้านคนขับ (Lumbar Support) ตามด้วยระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone แยกซ้าย-ขวาได้อย่างอิสระ จับคู่มากับระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสารแบบ Nanoe ไปจนถึงพวงมาลัย ที่มาพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และจอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว ซึ่งเลือกระบบสัมผัสได้ ทั้งยังสามาถรองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay, การเชื่อมต่อ USB / Bluetooth
New Toyota C-HR ยังคงขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริด เจเนอเรชั่นใหม่ (4th Generation Hybrid) ที่ใช้การผสานของ 2 พลัง ทั้งจากมอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์เบนซินรหัส 2ZR-FXE พิกัด 1.8 ลิตร VVT-i ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ คือ EV Mode, Eco Mode และ Sport Mode เพื่อสร้างภาพรวมที่นอกเหนือจากความเร้าใจแล้ว อัตราการประหยัดน้ำมันก็ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน การันตีด้วยตัวเลข 24.4 กม./ลิตร (ข้อมูลจาก Eco Sticker) ตลอดจนความมั่นใจกับโปรแกรมรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดนาน 10 ปี และการรับประกันระบบไฮบริดถึง 5 ปี
Fun to Drive Experience ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ ที่เกิดขึ้นจากสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ (Toyota New Global Architecture – TNGA) ซึ่งประกอบด้วยการมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ, โครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่ง ไปจนถึงช่วงล่างอิสระปีกนกคู่ Double Wishbone และงานดีไซน์ที่สร้างทัศนวิสัยการขับขี่อันยอดเยี่ยม ผสานรวมเข้ากับความมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense ที่ผ่านการรับรองจากการทดสอบระดับ 5 ดาวโดย ASEAN NCAP
ทั้งยังเสริมด้วยนวัตกรรมมาตรฐานความปลอดภัยแบบป้องกัน (Active Safety) และแบบปกป้อง (Passive Safety) เช่น Pre-Collision System ระบบความปลอดภัยก่อนการชน, Lane Departure Alert with Steering Assist ระบบเตือนเมื่ออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ, ระบบ Auto High Beams ปรับไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบเบรกมือไฟฟ้า Electric Parking Brake, ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold และใหม่ล่าสุดกับระบบควบคุม และปรับลดความเร็วอัตโนมัติ All-Speed Dynamic Radar Cruise Control with Lane Tracing Assist ที่สามารถปรับลดความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่งตามรถยนต์คันหน้า และจะเร่งความเร็วกลับสู่ระดับที่ตั้งไว้ เมื่อไม่มีรถขวางหน้า โดยจะมาพร้อมระบบ Lane Tracing Assist คอยช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลนอีกด้วย
นอกจากนี้ New Toyota C-HR ยังมากับการมอบประสบการณ์การใช้งานรูปแบบใหม่ (New Usage Experience) เต็มรูปแบบ ผ่านยเทคโนโลยีเชื่อมต่อแห่งอนาคตเจเนอเรชั่นที่ 2 (T-Connect by TOYOTA) ผ่านแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนได้อย่างครบครันทุกฟังค์ชั่นจาก 3 คุณสมบัติหลัก ซึ่งประกอบด้วย Always Located and Protect บริการเพื่อความอุ่นใจ ปลอดภัย ไร้กังวล, Telematics Care ที่ช่วยให้การดูแลรถยนต์เป็นเรื่องง่าย สำหรับผู้ใช้รถยนต์โตโยต้า และสุดท้ายกับ Happiness Mobility บริการเพิ่มความสุขทุกเส้นทาง โดยทั้งหมดทั้งมวลนั้นอยู่ภายใต้ราคาสุดคุ้มเพียง 1,139,000 บาทเท่านั้น
ราคารถใหม่
New Toyota C-HR รุ่น HV Premium Safety ราคา 1,139,000 บาท