รีวิว เบาๆ กับ BMW 6-Series Gran Turismo 2017-2018 สมาชิกใหม่ตัวถังสไตล์ GT พร้อมราคาเริ่มต้น “น่าสน” แต่ถ้าส่งตรงมาเมืองไทย ใครตอบได้จะ “จบ” ที่กี่ตังค์
BMW “เข็น” สมาชิกใหม่ล่าสุด 6-Series สไตล์ตัวถัง GT (Gran Turismo) เพื่อเป้าหมายในการเติมเต็มความสมบูรณ์แบบมากขึ้นในทุกๆ ด้าน ชนิดที่ว่า “แค่ดู” รายละเอียดก็สร้างความน่าสนใจได้ไม่น้อยทีเดียว จริงมั้ยครับ “สาวก Bimmer เมืองไทย”
BMW 6-Series Gran Turismo ปรับรูปลักษณ์ใหม่ เพื่อสื่อสารความเร้าใจด้าน “สมรรถนะ”
ในส่วนของรูปลักษณ์งานดีไซน์นั้นเป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของ 2 สิ่ง คือ ความหรูหราสไตล์ Luxury Sedan และความเร้าใจของงานดีไซน์ในแบบฉบับรถ Coupe ครอบทับโครงสร้างที่มีการปรับมิติตัวถังใหม่ ทำให้โดยรวมมีความยาวที่เพิ่มขึ้นอีก 87 มม. เป็น 5,091 มม. บนความกว้างที่เท่าเดิม คือ 1,902 มม.
ในขณะที่ความสูงมีการปรับลดลง 21 มม. เป็น 1,538 มม. วางตัวบนฐานล้อยาว 3,070 มม. พร้อมด้วยการวางแนวเส้นสายหลังคา, งานออกแบบประตูคู่หน้าแบบไร้กรอบ และหน้าต่างด้านหลังที่ออกแบบให้เพรียวบางมากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มอารมณ์ความสปอร์ต ส่วนรายละเอียดความโดดเด่นนั้นยังคงรักษาไว้ซึ่งสไตล์ของ BMW เช่น กระจังหน้าแบบไตคู่ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับชุดโคมไฟหน้าที่ดีไซน์ให้ตัวรถดูกว้างขึ้น โดยในชุดไฟหน้าจะเป็นแบบ LED ที่ และมาพร้อมชุดไฟ Daytime Driving Lights แบบ LED โดยในส่วนของไฟหน้านั้นสามารถเลือกเป็นออพชั่นชุดไฟ Adaptive LED ได้
ส่วนมุมมองด้านข้างเสา A-Pillar จะให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่ง และสร้างความต่อเนื่องด้วยการวางแนวหลังคาผ่านเสาจุดสูงสุดของ B-Pillar ตามด้วยการปรับองศาให้ลาดลงสู่ด้านหลัง ซึ่งโดยรวมแล้วมีความสูงที่น้อยกว่ารุ่นที่แล้วอยู่ 64 มม. สำหรับด้านหลังของตัวรถนั้นออกแบบให้มีความรู้สึกกว้างขวางด้วยเส้นแนวนอน พร้อมกับสร้างจุดเด่นความสปอร์ต เฉียบมคมด้วยงานออกแบบชุดโคมไฟท้ายทรงเฉี่ยวสไตล์ L-Shape แบบ LED 3 มิติ
ตามมาด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ด้วยเทคโนโลยี Active Air Flap Control บริเวณกระจังหน้า ซึ่งจะทำหน้าที่เปิดรับอากาศเมื่อต้องการอากาศเย็น ทั้งยังมีการติดตั้งแผ่นปิดใต้ท้องรถมาให้ เพื่อลดการเกิดกระแสลมแปรปรวนในบริเวณซุ้มล้อด้านหน้า ตามด้วยการติดตั้ง Active Rear Spoiler ในด้านหลัง ซึ่งจะเริ่มทำงานตั้งแต่ความเร็ว 120 กม./ชม. และจะกลับสู่ตำแหน่งเดิมเมื่อความเร็วต่ำกว่า 80 กม./ชม. โดยทั้งหมดช่วยให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียทานอากาศที่ดีขึ้นจากรุ่นที่แล้ว 0.29 Cd เป็น 0.25 Cd
เน้นไฮไลต์สำคัญ ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำจาก BMW Group
BMW 6-Series Gran Turismo นำเสนอจุดเด่นสำคัญ ด้วยทางเลือกขุมพลังที่หลากหลาย และเปี่ยมด้วยสมรรถนะจากเทคโนโลยีอันเป็นจุดเด่น เช่น เครื่องยนต์ที่ทำจากวัสดุอลูมิเนียม, ระบบอัดอากาศแบบ Twinscroll จากเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo, ระบบฉัดจ่ายเชื้อเพลิงแรงดันสูง High Precision Direct Injection และวาล์วแปรผัน VALVETRONIC และ Double-VANOS ซึ่งติดตั้งอยู่ในขุมพลังเจนเนอเรชั่นใหม่ทั้งแบบ 4 สูบ และ 6 สูบจากเครื่องยนต์เบนซิน และรุ่น 6 สูบแถวเรียงในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนที่มีทั้งแบบ 2 ล้อหลัง และแบบ 4 ล้อ BMW xDrive intelligent All-Wheel Drive ให้เลือก
เลือก “เสพ” ความเร้าใจ ได้ทั้ง “เบนซิน” และ “ดีเซล”
ส่วนรุ่นย่อยของ BMW 6-Series Gran Turismo เริ่มต้นความแรงกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบพิกัด 2.0 ลิตรในรุ่น 630i ซึ่งมีกำลังอยู่ที่ 258 แรงม้า และแรงบิด 400 นิวตันเมตรตั้งแต่ 1,550 ถึง 4,400 รอบต่อนาที และสมรรถนะอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 6.3 วินาที
บล็อคต่อมาเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบพิกัด 3.0 ลิตรในรุ่น 640i และ 640i xDrive กับเรี่ยวแรงที่เพิ่มขึ้นเป็น 340 แรงม้า และแรงบิดระดับ 450 นิวตันเมตรตั้งแต่ 1,380 ถึง 5,200 รอบต่อนาที โดยในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อจะมากับอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ที่ 5.4 วินาที และในรุ่น xDrive ที่ 5.3 วินาที
รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล BMW BluePerformance Technology มาพร้อมเทคโนโลยีเทอร์โบแปรผัน และหัวฉีด Piezo แรงดันสูงถึง 2,500 บาร์ กับพิกัดเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบ 265 แรงม้า และแรงบิด 620 นิวตันเมตรที่ 2,000-2,500 รอบต่อนาที ซึ่งมีทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ xDrive ส่วนอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ จะอยูที่ 6.1 วินาที และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อที่ 6.0 วินาที
ด้านระบบช่วงล่างด้านหน้าจะเป็นแบบดับเบิ้ลวิชโบน และด้านหลังแบบ 5-Link พร้อมระบบ Air Suspension และระบบ Automatic Self-Levelling ปรับระดับความสูงอัตโนมัติ ซึ่งปรับแต่งใหม่ให้มีความนุ่มนวล ผสมผสานด้วยความเฉียบคมในการควบคุม เช่น การติดตั้งจุดยึด Subframe ขนาดใหญ่ด้านหลัง ในขณะที่ระบบพวงมาลัยนั้นมากับระบบ Servotronic พร้อมฟังค์ชั่น Speed-Sensitive Power Assistance ที่แปรผันน้ำหนักตามความเร็วรถ โดยมีออพชั่นให้เลือกจ่ายเพิ่มเป็นระบบพวงมาลัยแบบ Integral Active Steering จะช่วยทำหน้าที่ “เลี้ยวล้อหลัง” เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเข้าโค้งมากขึ้น
นอกจากนี้ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive ยังมากับออพชั่นแบบจัดเต็มเพื่อเสริมสมรรถนะหากต้องการ เช่น ระบบ Adaptive suspension with Dynamic Damper Control ที่จะทำงานร่วมกับช่วงล่างด้านหลังแบบ Two-Axle Air Suspension โดยเมื่อกดปุ่มจะทำหน้าที่ยกช่วงล่างสูงขึ้นอีก 20 มม. และเมื่อความเร็วเกินกว่า 35 กม./ชม. ระบบจะปรับให้กลับมาอยู่ในระดับความสูงปกติ
ในขณะเดียวกันหากใช้โหมด Sport จากฟังค์ชั่น Driving Experience Control ระบบจะทำการปรับลดความสูงลง 10 มม. โดยอัตโนมัติ หากใช้ความเร็วสูงกว่า 120 กม./ชม. ทั้งยังรวมถึงการสั่งการระบบ Active Roll Stabilisation ที่ทำงานร่วมกับระบบ Integral Active Steering เพื่อทำหน้าลดลดอาการ “โคลง” ของตัวถังขณะเข้าโค้ง
ซึ่งในฟังค์ชั่น Driving Experience Control นั้นนอกจากนี้โหมด Sport แล้ว ยังมีโหมดอื่นๆ อีกด้วย เช่น ECO PRO, และ Comfort เป็นอุปกร์มาตรฐาน โดยถ้าเลือกติดตั้งออพชั่นนี้เพิ่มเติมจะมีโหมดการขับขี่เพิ่มขึ้นมาอีก 2 ระบบ คือ Comfort+ และ Sport+
ราคารถใหม่ BMW 6-Series Gran Turismo
(ราคาเริ่มต้น US Dollar ณ อัตราค่าเงินบาทปัจจุบัน)
ราคา BMW 6-Series Gran Turismo เริ่มต้น 70,695$ (2,354,143 บาท)
บทความแนะนำ
บทสรุป ” 5 อันดับรถ Eco Car ราคาถูกสุดๆ ” จากหนุงหนิง … สวิงแรง เที่ยวในงาน Big Motor Sale 2017
แนะนำ 9 รุ่นรถใหม่ในงาน Big Motor Sale 2017 กับค่ายยักษ์ใหญ่ Audi, BMW, Hyundai, Kia, Toyota
อีซูซุพาเที่ยวเส้นทาง Unseen กัมพูชา กับอีซูซุคาราวานสัญจร 2017 “เที่ยวดี ทำดี…ฉลอง 60 ปีอีซูซุ”