รีวิว+ภาพสวยๆ : Chevrolet Colorado High Country Storm 2017 (เชฟโรเลต โคโลราโด ไฮ คันทรี สตอร์ม 2017) … ขี่พายุ ทะลุตะนาวศรี กับรถกระบะที่ผมว่า “เจ๋ง” สุดๆ ทีเดียว
Chevrolet Colorado High Country Storm 2017 (เชฟโรเลต โคโลราโด ไฮ คันทรี สตอร์ม 2017) ค่าตัว 1,098,000 บาท เรียกได้ว่าเป็นชั้นบนสุดของปิรามิดในอนุกรม Colorado High Country (โคโลราโด ไฮ คันทรี) ก็ว่าได้ เพราะมากับการตกแต่งที่เสริมภาพลักษณ์ความแกร่ง และสร้างแรงดึงดูดทางสายตาได้ดี
แต่เหนืออื่นใดถ้าไม่ซีเรียสเรื่องความหล่อเหลา แต่เอาเป็นมองแค่สมรรถนะเพียงอย่างเดียวล่ะก็ Colorado High Country (โคโลราโด ไฮคันทรี) รุ่นมาตรฐานสเปคเดียวกัน กับค่าตัวที่น้อยกว่า คือ 1,068,000 บาท ผมว่าก็เป็นอะไร “เพียงพอ” แล้วล่ะ ถ้าต้องการรถกระบะที่มีความสามารถรอบด้านซักคัน
Chevrolet Colorado High Country Storm แต่งหล่อ ขอเพิ่มความดุดัน
Colorado High Country Storm (โคโลราโด ไฮคันทรี สตอร์ม) คือ รุ่นที่อัพเกรดรูปลักษณ์ขึ้นใหม่จากเวอร์ชั่นพื้นฐาน โดยเพิ่มควมสปอร์ต และดุดันให้กับรายละเอียดภายนอกเป็นหลักจากฝีมือของทีมออกแบบระดับโลกจาก Chevrolet (เชฟโรเลต) เพื่อเนรมิตภาพลักษณ์สไตล์อเมริกัน
โดยจะประกอบด้วย ด้านหน้าที่มากับชุดสติ๊กเกอร์สีดำด้านบนฝากระโปรงหน้า ที่รับกับชุดกระจังหน้าแบบใหม่ ส่วนด้านข้างโดดเด่นด้วยโทนสีดำตัดกับตัวรถ จากสติ๊กเกอร์ลายสปอร์ต, มือจับเปิดประตู, กระจกมองข้าง และล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/60 R18 ตามด้วยด้านหล้ง
รวมถึงบ่งบอกความสามรถในการขับเคลื่อนด้วยสติ๊กเกอร์ 4×4 ในขณะที่ด้านหลังนั้นดูแกร่ง และโฉบเฉี่ยวด้วยชุดสปอร์ตบาร์สีดำ และกันชนหลังสีดำ Anthracite ที่ดูลงตัวกับมือจับเปิดฝาท้ายสีดำ “ซึ่งทั้งหมดอยู่ในงบส่วนต่างราว 30,000 บาทจากรุ่นมาตรฐาน เพื่อขยับมาคว้าความสปอร์ตดุในสไตล์ Strom”
ภายในคุ้นเคย เลยใช้งานได้ง่าย และคล่องมือ
Colorado High Country Storm (โคโลราโด ไฮคันทรี สตอร์ม) ยังคงมากับภายในจากรุ่นพื้นฐาน เพราะฉะนั้นจึงมีทั้งความกว้างขวางเป็น “ทุน” เนื่องจากเป็นรุ่นตัวถัง 4 ประตู รวมถึงยังเป็นเรื่องง่ายที่จะทำความคุ้นเคยกับสิ่งต่างๆ เช่น เบาะนั่งปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางฝั่งคนขับ, หน้าจอแสดงผลสำหรับผู้ขับขี่, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
ตลอดจนความล้ำสมัยจาก Chevrolet MyLink (เชฟโรเลต มายลิ้งค์) ระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร และความบันเทิง ต่างๆ จากฟังค์ชั่นพื้นฐาน เช่น วิทยุ หรือการเชื่อมต่อจาก AUX และ USB ตลอดจน iPhone ผ่านแอพพลิเคชั่น Apple CarPlayTM รวมถึงระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ด้วย Bluetooth ซึ่งสามารถสั่งการใช้งานได้ง่ายๆ ทั้งจากบนหน้าจอ Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว และจากระบบสั่งการด้วยเสียง (Voice Recognition)
พละกำลังประทับใจ … ไปไหนไปกัน
Colorado High Country Storm (โคโลราโด ไฮคันทรี สตอร์ม) มากับขุมพลังที่ไว้วางใจได้เช่นเดิม กับเครื่องยนต์ Duramax (ดูราแมกซ์) ดีเซล คอมมอนเรล ไดเรค อินเจคชั่น ความจุ 2.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พ่วงตัวช่วยเทอร์โบแปรผัน VGT – Variable Geometry Turbocharger และอินเตอร์คูลเลอร์ โดยมีกำลังสูงสุดมาให้ใช้ที่ 180 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 440 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที ซึ่งถือว่าไม่มาก ไม่น้อยเกินไป แต่น่าประทับใจด้วยแรงบิดรอบต่ำ ที่ทำให้ขับขี่ได้อย่างสนุก เร่งแซงทันใจ หรือจะเพิ่มอรรถรสด้วย Manual Mode ก็ได้
เพราะระบบส่งกำลังกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เค้ามีฟังค์ชั่น Manual Mode มาให้ หาก Performance ที่มีในโหมด D ปกติยังไม่ทันใจ ก็จัดไปในสไตล์เกียร์ธรรมดา ตามด้วยระบบขับเคลื่อนที่มีให้เลือกมันส์ทั้ง 3 รูปแบบ เช่น แบบ 2 ล้อ (2H), 4 ล้อ (4H) และ 4 ล้อความเร็วต่ำ (4L) โดยระหว่าง 2H เป็น 4H สามารถ Shift-on-the-Fly ได้เลยที่ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม.
แต่ถ้าจะให้ชัวร์ซัก 80 กม./ชม. ก็โอเคนะ เพราะผมเชื่อว่าในสถานการณ์ขับขี่ ที่ถึงขนาดต้องเปลี่ยนจาก 2H เป็น 4H มันน่าจะเป็นอะไรที่เลวร้ายขนาดใช้ความเร็วได้ไม่ถึง 100 กม./ชม. แล้วก็ต้องการความมั่นใจด้วยเสถียรภาพจากล้อทั้ง 4 เช่น ฝนตกหนัก หรือน้ำท่วมขังอะไรเป็นต้น ฉะนั้นผมจึงคิดว่าความเร็วที่ต่ำกว่า 100 กม./ชม. ควรจะเป็นอะไรที่เหมาะสมกับการ Shift-on-the-Fly จาก 2H ไปเป็น 4H ได้ดีที่สุด
สมรรถนะ On Road โดยรวม สรุปสั้นๆ “ชอบ”
ผมว่าหลายคนคงได้อ่านกันบ่อยๆ ว่า Colorado High Country Storm (โคโลราโด ไฮคันทรี สตอร์ม) มีสมรรถนะเป็นอย่างบ้างกับการขับขี่บนนถนปกติทั่วไป เพราะงั้นผมเลยสรุปง่ายๆ ว่า “น่าประทับใจ” แม้ไม่ได้โดดเด่น ด้านใด ด้านหนึ่ง แต่ผลรวมกลมๆ คือ มันทำให้ “ผมชอบ” ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานปกติที่ไม่ลำบาก แม้จะต้องขับขี่ในเมือง เพราะด้วยขนาดตัวรถที่กำลังพอเหมาะไม่ได้ใหญ่โตเกินไป
ส่วนเครื่องเสียงถ้าไม่ระดับ “หูเทพ” ก็ฟังได้เพลิดแพลินดี ทัศนวิสัยก็โปร่งด้วยความสูงของตัวถัง และ Position เบาะนั่งเอื้ออำนวย แถมด้วยของเจ๋งๆ อย่างกุญแจรีโมทสตาร์ท (Remote Start) ที่สั่งสตาร์ทรถเปิดแอร์ได้จากระยะไกล โดยไม่มีการปลดล็อครถ เรียกว่าต่อให้จอดกลางแดดก็ไม่ต้องกลัวร้อน ทั้งยังปลอดภัยด้วยซ้ำ เพราะตราบใดที่ไม่เอากุญแจเสียบเข้าไป ก็จะไม่สามารถขยับรถได้ ส่วนถ้าเดินทางออกนอกเมืองก็ยิ่งสบายเข้าไปใหญ่ ไม่ว่าจะเดินทางด้วยความเร็วปกติ หรือสูงกว่าปกติก็ตาม
เพราะด้วยขนาดตัวรถรวมกับทัศนวิสัยที่ดี ทำให้เคลื่อนที่ได้อย่างคล่องแคล่ว ตลอดจนพละกำลังที่เหลือๆ ช่วงล่างที่หนึบแน่น อาจจะดีดดิ้นบ้างเบาๆ ด้านหลัง แต่สำหรับผมนั่นไม่ใช่ปัญหาเมื่อมองจากภาพรวมทั้งหมด อีกอย่างที่ชอบก็คือน้ำหนักพวงมาลัยไฟฟ้า (Electric Power Steering) ที่แม่นยำในทุกระดับความเร็ว ด้วยการแปรผันน้ำหนักอย่างเหมาะสม ซึ่งช่วยให้เบาแรงกับความเร็วต่ำ และสร้างความมั่นคงกับความเร็วสูงๆ
Off Road เบาๆ ภายใต้ขีดจำกัดที่รับไหว
ผมมุ่งหน้าบนถนนที่คุ้นเคยย่านพระราม 2 ด้วยสมรรถนะที่ไม่มีข้อสงสัยใดๆ ของ Colorado High Country Storm (โคโลราโด ไฮคันทรี สตอร์ม) โดยมุ่งหน้าหา “สีเขียวๆ” ของธรรมชาติ และถนนเส้นอื่นๆ ที่ไม่ได้พบเห็นอยู่เห็นประจำ โดยมีถิ่นคุ้นเคยแถวๆ จังหวัดราชบุรี เป็นที่หมายแบบ “หลง” เข้าไป พร้อมกับ “มือลั่นชัตเตอร์” 1 นาย ที่มักจะไปไหน ไปกันตลอด
ผมใช้เวลาลุยเข้ามาลึกจากถนนใหญ่ จนสายตาเหลือบไปเห็นถนนสายหนึ่งที่ดูเหมือนทอดยาวมุ่งหน้าไปหาเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งในขณะสมองกำลังคิดอยู่ว่าไปดีหรือไม่ … ? มือกลับหมุนพวงมาลัยเลี้ยวเข้ามาแล้ว เพราะงั้นก็เลยตามเลยสิครับ มุ่งหน้าต่อไปบนถนนสายกรวด พร้อมกับทิ้งฝุ่นดินก้อนใหญ่เป็นทางยาวไว้เบื้องหลัง
ตลอด 2 ข้างทางไร้วี่แววของผู้คน จนทำให้แอบคิดว่าเราควรไปต่อหรือไม่ เพราะยิ่งลึกเข้าไปก็ยิ่งหวั่นด้วยเส้นทางที่เริ่มแคบ ในขณะที่เบื้องบนก็เริ่มมืดครึ้มจากการปกคลุมของเมฆฝน ราวกับเป็นคำเตือนบางอย่าง ประกอบเวลาที่ล่วงเลยมาถึงบ่ายแก่ๆ กว่าเราจะมาถึง เลยทำให้ต้องตัดสินใจหันหลังกลับน่าจะโอเคกว่า เพราะคงไม่ดีแน่ๆ หากต้องหลงอยู่กลางป่ายามมืดค่ำ ในสภาพที่มีเพียงแสงไฟจากหน้ารถ
แต่ดูท่าจะโชคไม่เข้าข้าง เพราะดันเลี้ยวผิด ทำเอากว่าจะรู้ตัวก็ลึกเกินจะกลับลำ เพราะด้วย 2 ข้างทางที่แคบจะเกือบพอดีกับตัวรถ เลยทำให้ผมต้องเดินหน้าต่อไป และใช้การคาดเดาว่าทิศทางไหนจะพาเรากลับขึ้นไปบนถนน ซึ่งในความโชคร้ายที่เลี้ยวผิดก็ยังมีความโชคดีอยู่ เนื่องจากเส้นทางที่ต้องผ่านนั้นราวกับสร้างมาเพื่อดึงศีกยภาพของรถขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยเฉพาะ ทั้งบ่อน้ำ ดินแฉะๆ ที่บางจุดผมเองก็แอบหวั่นใจ เพราะได้รับรู้อาการล้อหลังปั่นฟรีทิ้งบ่อยครั้ง แต่ก็ยังไม่หนักหนาขนาดต้องเปลี่ยนจาก 2H มา 4H
ซึ่งเป็นเพราะระบบ Traction Control คือ ฮีโร่ที่มักจะเข้ามาช่วยจัดการแรงบิดให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ เพื่อให้เราหลุดพ้นออกมาได้ง่ายๆ แต่ก็มีบ้างบางจุดที่ Traction ทำงานจนสุดความสามารถ แต่ก็ไม่อาจปั่นตัวรถให้หลุดออกมาได้ เลยเป็นคราวของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4H ออกโรงดึงเราออกมา และแม้ผมจะต้องเจอสภาพถนนอะไรแบบนี้ตลอดทางก็ตาม แต่เชื่อหรือไม่ว่า ผมแทบไม่ต้องหมุนปุ่มเลยไปถึงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ 4L เลยทีเดียว
ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเส้นทางที่อาจจะไม่โหดร้ายเกินไปนัก และอีกส่วนก็อาจเป็นความยอดเยี่ยมในสมรรถนะของ Colorado High Country Storm (โคโลราโด ไฮคันทรี สตอร์ม) เองด้วยเช่นกัน และก็ด้วยสิ่งนั้นเองที่ทำให้ผมมั่นใจมากขึ้น ว่าเส้นทางที่ผ่านมา และเบื้องหน้า คือ บททดสอบชั้นดีที่ตอกย้ำประสิทธิภาพของตัวรถ เพื่อให้เรา “ลุยเต็มที่” แถมมีจังหวะให้เก็บภาพสวยๆ มายืนยันตลอดทาง จนกระทั่งกลับออกมาสู่ถนนดำได้สำเร็จ พร้อมกับรอยยิ้มที่แสดงออกถึงความโล่งใจ พร้อมกับแสงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าไป จนดูราวกับฉากปิดท้ายเท่ห์ๆ ในหนังเลยทีเดียว
ราคารถใหม่ Chevrolet Colorado รุ่น High Country Storm
รุ่น 2.5L VGT High Country Storm 4×2 AT ราคา 1,028,000 บาท
รุ่น 2.5L VGT High Country Storm 4×4 AT ราคา 1,098,000 บาท
Gallery : Chevrolet Colorado High Country Storm
แนะนำบทความรีวิวอื่นๆ
- รีวิว : Audi Q7 (ออดี้ คิว 7) จากกรุงเทพฯ – อยุธยา รอบนี้ “โคตรมันส์” เมื่อมีรถ SUV รุ่นใหญ่ให้ได้หวดแบบ
- รีวิว : Toyota Yaris Ativ ลองขับแล้วในหลากหลายรูปแบบ มีดีตรงที่..
- Review : New Mitsubishi Triton 2017 ( มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ) มาใหม่ เข้มขึ้น ลบทุกขีดจำกัดของรถกระบะ ใน ราคา 1,061,000 บาท
- Review : Foton Tunland ( โฟตอน ทูนแลนด์ ) รถกระบะสัญชาติจีนหัวใจอเมริกัน ใน ราคา เพียง 8.2 แสนบาท
- รีวิว New MAZDA BT 50 PRO 2016 ทดลองขับ มาสด้า บีที 50 โปร ใหม่
