รีวิว : Mercedes-Benz A200 AMG Dynamic … “รถขับสนุก ไม่จำเป็นต้องแรงเสมอไป”
จาก A-Class ที่คุ้นเคยในรูปแบบของตัวถัง Hatchback ซึ่งมีการแยกในส่วนของรูปแบบตัวถัง Sedan ไปใช้ชื่อ CLA-Class … สู่ความเปลี่ยนแปลง ณ ปัจจุบัน ที่ส่งให้รูปโฉม 5 ประตู Hatchback สุดซ่าส์ของ A-Class ก้าวสู่สไตล์ของรถ 4 ประตู Sedan และในฐานะของ A-Class เจนเนอเรชั่นที่ 4 ซึ่งในบ้านเรามีให้เลือกเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นกับรุ่น Mercedes-Benz A200 AMG Dynamic
Mercedes-Benz A200 AMG Dynamic … ดีไซน์ “ซีดานสายเปรี้ยว”
Mercedes-Benz A200 AMG Dynamic หรือ A-Class รุ่นหนึ่งเดียวในบ้านเรานั้น มากับสไตล์ของรถ 4 ประตู ที่มีขนาดมิติตัวถัง ประกอบด้วยความยาว 4,549 มม. ความกว้าง 1,796 มม. ความสูง 1,425 มม. และระยะฐานล้อที่ 2,729 มม. พร้อมการเติมรายละเอียดความสปอร์ตเข้าไปให้สมฐานะรุ่นย่อย AMG Dynamic
เช่น ชุดแต่ง AMG Bodystyling ในส่วนของชุดกันชนหน้า และกันชนหลัง ที่ทำให้ชุดกระจัง Diamond Grille สีเงิน พร้อมตราสัญลักษณ์ Mercedes-Benz จากมุมมองด้านหน้าสะดุดตาขึ้น เช่นเดียวกับด้านหลังที่จัดท่อไอเสียปลายโครเมี่ยม 2 ตำแหน่งมาให้ทั้งซ้าย และขวา ส่วนในมุมมองด้านข้างหล่อเหลาด้วยล้ออัลลอยด์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว ที่มากับยาง Runflat ขนาด 225/45 R18 และการซุกคาลิปเปอร์เบรกหน้าประทับอักษร Mercedes-Benz เอาไว้อย่างโดดเด่น
สำหรับรายละเอียดไฮไลต์ด้านออพชั่น A200 AMG Dynamic ในฐานะท็อปสุด หนึ่งเดียวในรุ่น ได้รับการติดตั้งมาอย่างครบๆ ว่ากันไป ด้วยชุดไฟหน้าที่มากับระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist และชุดไฟ Daytime Running Light ตลอดจนไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง, ไฟเบรก, ไฟเบรกดวงที่ 3 และชุดไฟท้าย ซึ่งเลือกใช้เป็นแบบ LED ทั้งหมด
ด้านภายในเรียกได้ว่าให้อารมณ์ “สปอร์ต” เต็มขั้น ตั้งแต่งานดีไซน์ช่องแอร์แบบ Turbine Airvents, การตกแต่งด้วยชุด AMG Interior Package เช่น เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sport Seats หุ้มด้วยหนัง ARTICO สลับ DYNAMICA microfibre สีดำ ตัดสลับด้วยตะเข็บด้ายสีแดง โดยที่ฝั่งคนขับ จะมาพร้อมระบบปรับไฟฟ้า และระบบบันทึกตำแหน่ง Memory Seat ส่วนฝั่งผู้โดยสานปรับด้วยมือ ประกบกับพวงมาลัยแบบ Sport Steering Wheel จับถนัดกระชับมือด้วย “ขนาด” และการหุ้มด้วยหนัง Nappa ทั้งยังควบคุมง่ายด้วยระบบ Multi-function บนด้านพวงมาลัยทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนแป้นคันเร่ง และแป้นเบรกก็จัดมาให้แบบสปอร์ต ที่มาพร้อมปุ่มยางกันลื่น
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของฟังค์ชั่นอำนวยสะดวกสบายที่จัดมาให้เอาใจทั้งผู้ขับ และผู้โดยสารแบบครบๆ เช่น ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button, มาตรวัดความเร็ว และวัดรอบเครื่องยนต์แบบ All-Digital Instrument Display ขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอ Multi-Media แบบ MBUX พร้อมระบบสัมผัสบนหน้าจอขนาด 10.25 นิ้ว ที่ความหล่อก็คือ ทั้ง 2 หน้าจออยู่ในกรอบยาวต่อกันบนคอนโซลหน้า ตามด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Thermotronic แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับด้านหลัง ไปจนถึงเบาะนั่งด้านหลังที่แยกพับอิสระได้แบบ 40 : 20 : 40
มีเซอร์ไพรส์ “ความมันส์” … แบบไม่จำเป็นต้อง “เครื่องแรง”
A200 AMG Dynamic คือ ยนตรกรรมที่ทำเซอร์ไพรส์ ด้วยความสามารถของขุมพลังพิกัดเล็กเพียง 1.3 ลิตร แบบเบนซิน 4 สูบ พ่วง Turbocharged ซึ่งผลิตเรี่ยวแรงสูงสุดมาให้ใช้ที่ 163 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch 7G-DCT แบบ 7 สปีด พร้อม Paddle Shift สู่การขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า
โดยจะมากับฟังค์ชั่น Eco Start / Stop และโปรแกรมเลือกโหมดการขับขี่ Dynamic Select ที่ประกอบด้วย Eco, Normal, Sport, Sport+ และ Individual ส่วนระบบช่วงล่างจะมากับพื้นฐานด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม แต่ได้รับการปรับในรูปแบบที่เรียกว่า Lowered Comfort Suspension
และทั้งหมด คือ ส่วนประกอบอัน “สมดุลย์” ที่สามารถสร้าง “ความมันส์” ได้ง่ายๆ อย่างคาดไม่ถึง แบบไม่ต้องพึ่งฝูงม้าเยอรมันหลายตัว หรือแรงบิดมหาศาล หากแต่เป็นความพอดิบ พอดีจากทั้งน้ำหนักพวงมาลัยที่เฉียบคม และระบบช่วงล่าง ที่สอดรับกันอย่างลงตัว จนทำให้แม้ขับขี่ในโหมด Comfort ที่ให้ภาพรวมเน้นความสบายในการขับขี่ แต่ก็มีความพร้อมที่จะหยิบยื่น “ความสนุก” ให้สัมผัสได้อย่างชัดเจน แค่การ “จุ่มคันเร่ง” ลงไปลึกๆ
และด้วยเงื่อนไขง่ายๆ ดังที่กล่าวมา เพราะฉะนั้นอารมณ์การ “ซิ่ง” ในโหมด Sport คงไม่ต้องพูดถึงว่าเจ้า A200 AMG Dynamic ทำได้อย่างยอดเยี่ยมขนาดไหน ซึ่งเรารับรองว่า “ถูกใจ” แน่นอน ด้วยทั้งจากน้ำหนักของพวงมาลัยที่ตึงมือขึ้น รับกับระบบช่วงล่างที่แม้จะยังแอบผสมความนุ่มแน่นเอาไว้ แต่รับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแนวไปเป็นแข็งขันได้ค่อนข้างชัดเจน เช่นเดียวกับการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่จริงจังมากขึ้น ผ่านน้ำหนักหน่วงของแป้นคันเร่ง เพื่อประกอบเป็นอรรถรสการขับขี่ที่ “สนุก เร้าใจ” ส่วน Paddle Shift หลังพวงมาลัย คุณจะเลือกใช้ หรือไม่ก็ตามสะดวก แต่ที่แน่ๆ คือ เราสนุกได้โดยไม่ต้องใช้ Paddle เลยซักนิด
หรือจะให้พูดง่ายๆ ก็คือ บุคลิก และรสชาติ โดยรวมนั้นเกือบๆ จะทำให้ย้อนนึกถึง A250 AMG รถ Hatchback ซึ่งเคยทำตลาดในช่วงที่ผ่านมาก่อนหน้า เพียงแต่ดีกรีความโหดร้ายยังไม่มากเท่า ด้วยเพื่อให้เราเข้าถึง และควบคุมได้ง่าย และสนุกไปกับการขับขี่แบบที่ “ซิ่ง” ได้โดยไม่เครียด แถมด้วยการเติมรอยยิ้มให้กับแม่บ้าน หรือครอบครัวได้ง่ายๆ กับการตอบโจทย์แบบครบเครื่องความต้องการ ในสไตล์ของยนตรกรรมแบบ Sedan 4 ประตูนั่นเอง
ราคารถใหม่
Mercedes-Benz รุ่น A200 AMG Dynamic ราคา 2,490,000 บาท