Mercedes-Benz Driving Events 2022 … โปรแกรมอัพเกรด “ทักษะ” ฉลองครบรอบ 55 ปี Mercedes-AMG
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ฉลองครบรอบ 55 ปี AMG ตรึงพื้นที่ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์ จัดกิจกรรมพิเศษ Mercedes-Benz Driving Events 2022 ส่งทัพยานยนต์หรู Mercedes-Benz เช่น A 200 AMG Dynamic, A 200 Progressive, GLA 200 AMG Dynamic, GLA 200 Progressive, C 200 Coupe AMG Dynamic, C 220 d AMG Dynamic, C 200 d Avantgarde, E 200 Coupe AMG Dynamic, S 350 d Exclusive และ S 580 e AMG Premium
ประกบคู่สายพันธ์แรง Mercedes-AMG แบบครบไลน์ มาลงสนามตั้งแต่ Mercedes-AMG GLA 35 4Matic, Mercedes-AMG C 43 4Matic Coupe, Mercedes-AMG GLC 43 4Matic Coupe, Mercedes-AMG GLE 53 4Matic+, Mercedes-AMG CLS 53 4Matic+ ไปจนถึงยนตรกรรมพลังไฟฟ้าล้วนอย่าง Mercedes-Benz EQS 450+ อีกด้วย
ซึ่งงานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่บททดสอบเพื่อท้าพิสูจน์สมรรถนะเท่านั้น หากแต่ยังมาพร้อมกับโปรแกรมพัฒนาทักษะการขับขี่ให้ก้าวขึ้นไปอีกระดับ ด้วยทีมผู้ฝึกสอน (Instructor) มืออาชีพระดับโลก นำโดย Peter Hackett (ปีเตอร์ แฮคเก็ตต์) ในตำแหน่ง Chief Instructor ยอดนักขับชาวออสเตรเลีย ผู้สร้างประวัติศาสตร์ในการคว้าแชมป์จากรายการ Australia Formula 4000 และ Formula 3 Championship เป็นคนแรก
พร้อมด้วย Mikko Petteri Nässi (มิคโค เพ็ตเทอรี นาสซี) Professional Coach ที่เป็นทั้งนักขับรถแข่ง และผู้ฝึกสอนนักขับมืออาชีพชาวฟินแลนด์ มาคอยให้คำแนะนำด้านเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยขั้นสูงอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้ขับขี่มีความเข้าใจ และสามารถนำทักษะไปใช้ประโยชน์ทั้งในด้านสมรรถนะ และเทคโนโลยีอันทันสมัยได้อย่างเต็มที่ จากแบบฝึกหัด 4 สถานีที่ได้จัดเตรียมไว้ ซึ่งประกอบด้วย
สถานีที่ 1 “Emergency Brake and Avoid” ซึ่งจะทดสอบความเร็วในการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของตัวผู้ขับขี่ ร่วมกับระบบความปลอดภัย เช่น ระบบเบรก ABS และ ระบบ ESP® โดยการขับรถออกจากจุดเริ่มต้นด้วยความเร็วประมาณ 80-120 กม./ชม. และทันทีที่ได้รับสัญญาณจากผู้ฝึกสอน ผู้ขับขี่จะต้องเหยียบเบรก และหักเลี้ยวหลบสิ่งกีดขวาง
สถานีที่ 2 “Drag Race” จุดนี้จะได้ทดสอบอัตราเร่งของอย่างเต็มที่ ไปพร้อมๆ กับการทดสอบปฏิกิริยาตอบสนองของผู้ขับขี่ด้วยสัญญาณไฟสตาร์ท ตลอดจนการได้ทดสอบระยะเบรกอีกด้วยเช่นกัน Mercedes-AMG GLA 35 4Matic
สถานีที่ 3 “Gymkhana” สนุกกันอย่างเต็มที่กับการจำลองสไตล์ของกีฬามอเตอร์สปอร์ตชนิดหนึ่งมาใช้ ซึ่งจะเน้นไปในเรื่องของการฝึกบังคับควบคุมรถในสนามจำลองเล็กๆ ที่มีอุปสรรคมากมาย ให้ผ่านไปได้ในเวลาที่รวดเร็ว และปลอดภัยที่สุด โดยไม่ชนสิ่งกีดขวางใดๆ
สถานีที่ 4 “Corner Theory” แบบฝึกหัดที่เน้นการเข้าโค้ง บนพื้นที่สนามทั้งหมด 5 โค้ง ซึ่งมีองศาแตกต่างกันไป เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ทดสอบการควบคุมทั้งความเร็ว และทิศทาง ไปจนถึงจุดเบรก และจุดปล่อยเบรกที่เหมาะสม โดยบริเวณขอบสนามจะมีสิ่งกีดขวางที่วางไว้เป็นเสมือนสัญลักษณ์ ให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบได้ทราบถึงสิ่งที่ควรกระทำเมื่อเข้าโค้งในแต่ละโค้ง เช่น จุดเบรก จุดที่ต้องหักเลี้ยว และจุดที่เรียกว่า Apex หรือ Clipping Point ซึ่งเป็นจุดที่สามารถเดินคันเร่งได้มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยที่สุด
และท้ายสุดหลังผ่านแบบฝึกหัดจากทุกสถานี ก็คือความท้าท้ายจากโปรแกรม Lead & Follow ที่จะได้ขับกันแบบ Full Track โดยมีเหล่าผู้ฝึกสอน (Instructor) มืออาชีพประจำการในตำแหน่ง Leader ขณะที่ผู้เข้ารับการฝึกจะทำการขับรถ Follow ตามผู้นำ ด้วยรถที่มีการสลับสับเปลี่ยนกันหลากหลายรุ่นทั้ง Mercedes-Benz และ Mercedes-AMG เพื่อให้สัมผัสสมรรถนะที่มีความแตกต่าง ไปพร้อมๆ กับนำแบบฝึกหัดทั้ง 4 สถานีที่ได้เรียนรู้ไปแล้วมาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม ถือเป็นการจบโปรแกรมการฝึกฝนทักษะอย่างสมบูรณ์แบบ ก่อนจะรับประกาศนียบัตร (Certificate) ผ่านหลักสูตร MBDE 2022 กลับไปอย่างภาคภูมิใจ