รีวิว : Mitsubishi Outlander PHEV … ท้าพิสูจน์เทคโนโลยีล้ำ กับ One Day Trip รอบกรุงฯ
หลังจากที่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้ทำการเปิดตัวนวัตกรรม Plug-In Hybrid อันล้ำสมัย ผ่านยนตรกรรมอเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Mitsubishi Outlander PHEV ไปในช่วงปลายปี 2020 ที่ผ่านมา … การพิสูจน์ว่า “ของดี” มีอยู่จริงก็เริ่มขึ้นทันทีในต้นปี 2021 กับรูปแบบ One Day Trip รอบกรุงเทพฯ รวมเป็นระยะทางกว่า 220 กม.
จุดเริ่มต้น One Day Trip กับ Mitsubishi Outlander PHEV ออกสตาร์ทจากบริเวณริมทะเลสาบเมืองทองธานี ที่ถูกเนรมิตเป็นลานแคมป์ปิ้งรับกับกระแสไลฟ์สไตล์ยอดนิยม ตามด้วยการโชว์จุดเด่นสำคัญเช่น การผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าโดยตัวรถ เพื่อนำมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ขนาดไม่เกิน 1,500 วัตต์ ที่การใช้งานนั้นก็ง่ายแสนง่าย แค่ทำการเสียบปลั๊กเข้ากับช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าในตัวรถ จนทำให้ทั้งเบคอน, ไส้กรอก ไข่ดาว และเหล่าขนมปังต่างๆ กลายเป็นอีกหนึ่งมื้อเบาๆ ในเช้าวันนั้น ด้วยเวลาเพียงแป๊บเดียว (เชื่อได้ว่าจุดนี้โดนใจสายแคมป์แน่นอน)
โปรแกรมต่อมาเป็นรอบของการทดลองขับ ซึ่งเป็นท้าพิสูจน์ความสามารถผ่าน EV Mode ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ จากริมทะเลสาบเมืองทองธานี มุ่งหน้าสู่ร้านกาแฟ Peter Rabbit บนถนนอุทยาน ระยะทางรวมกว่า 50 กม. ท่ามกลางการจราจรที่ดูเหมือนการใช้ความเร็วสูงจะเป็นเรื่องยาก ฉะนั้นการขับขี่ในวันนี้ส่วนใหญ่จึงเป็นปกติสามัญทั่วไป จนถึงจุดหมายปลายทาง พร้อมตัวเลขบอกระยะทางที่สามารถวิ่งได้อีกราวๆ 9 กม. (ฉะนั้นสรุปง่ายๆ ว่าคันเร่งเนียน เท่ากับใช้ไฟน้อย และวิ่งได้ระยะทางมากขึ้น)
ช่วงที่ 2 จากร้านกาแฟ Peter Rabbit บนถนนอุทยาน เรากลับเข้าเมืองอีกครั้ง เพื่อมาทานมื้อเที่ยงร้าน The Tara Bar and Restaurant ริมแม่น้ำย่านพระราม 3 แบบ Series Hybrid Mode ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ในการขับเคลื่อนหลัก แต่รอบนี้เราเรียกพวกมาช่วยด้วยการเลือกใช้โหมด Save/Charge สั่งการให้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร เข้ามาทำหน้าที่เป็น Generator เพื่อปั่นไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่
และด้วยสภาพการจราจรที่ไม่ต่างกัน ฉะนั้นการใช้คันเร่งแบบเต็มเม็ด เต็มหน่วยจึงเป็นไปได้ยาก ทำให้น้อยครั้งที่เราจะมีโอกาสก้าวไปสู่การทำงานแบบ Parallel Hybrid Mode ที่เครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า เข้ามาช่วยขับเคลื่อนพร้อมกัน โดยส่วนใหญ่ที่พบเจอก็คือ การขับขึ้นทางลาดชัน ที่คอมพิวเตอร์จะคำนวณ และสั่งการให้เครื่องยนต์เข้ามามีส่วนช่วย ถ่ายทอดกำลังลงล้อเพื่อสร้างเรี่ยวแรงมาขึ้นในการการขับเคลื่อน
แต่ถ้าหากอยู่ในสภาวะปกติ บนถนนที่ราบเรียบ เครื่องยนต์ก็จะทำหน้าที่เป็นแค่ Generator ปั่นไฟ ฉะนั้นเท่ากับว่า ตลอดระยะทางตั้งแต่ Peter Rabbit จะกระทั่งมาถึง The Tara Bar and Restaurant เครื่องยนต์จะทำหน้าที่ปั่นสร้างกระแสไฟเป็นหลัก เสริมด้วยระบบ Re-Generative ที่เกิดขึ้นจากการยกคันเร่ง หรือการเบรกเข้าไปอีกขั้น ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม Mitsubishi Outlander PHEV ถึงชาร์จไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ได้รวดเร็วจนน่าเซอร์ไพรส์ โดยผลประกอบการที่ได้ก็คือ ปริมาณแบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟกลับด้วยเครื่องยนต์ แสดงผลเป็นระยะทางที่วิ่งได้อีกราว 47 กม. (เงื่อนไขที่เข้าใจได้ง่ายสุดๆ ก็คือ การขับขี่แบบสบายๆ ส่งผลให้เกิดการใช้พลังงานออกไป น้อยกว่าปริมาณการชาร์จเข้า)
หลังจากมื้อเที่ยงย่านพระราม 3 เราไปซดกาแฟต่ออีกครั้งเป็นระยะทางเกือบๆ 30 กม. สู่ร้าน Yesteryear Book Bar & Bistro แถวๆ ธัญบุรี โดยใช้ถนนวงแหวนรอบนอก เส้นรังสิต-นครนายก ที่เอื้ออำนวยให้ใช้ความเร็วได้สูงขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่ก็อยู่ในระดับความเร็วเดินทางปกติ โดยมีเซอร์ไพรส์แถมมาอีกเล็กน้อยในช่วงเริ่มออกเดินทาง จากตัวเลขที่แสดงผลเพิ่มขึ้นจาก 47 กม. เป็น 49 กม.
และน่าจะเป็นตัวเลขสูงสุดที่ทั้งเรา และระบบทำได้ ซึ่งนั่นก็ถือเป็นตัวเลขในระดับที่มากพอ สำหรับการใช้งาน โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนคาดหวังความสามารถในการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นประเด็นหลัก ผสมผสานด้วยคุณสมบัติส่วนตัวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น พื้นฐานของตัวรถแบบเอนกประสงค์ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุม, ระบบ Plug-In Hybrid ที่ล้ำไปอีกขั้น ด้วยการ “ชาร์จไฟ” ที่ทำได้ทั้งแบบเสียบปลั๊กชาร์จ หรือ ชาร์จจากเครื่องยนต์ด้วยตัวเอง แถมยังนำพลังงานออกมาใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อีกด้วย
ซึ่งข้อดีก็คือทำให้คุณสามารถที่จะบริหารจัดการเรื่องการใช้พลังงานได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องของเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสายความบันเทิง และสายความปลอดภัยที่การันตีความดีที่สุด เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน
มากไปกว่านั้นก็คือความปลอดภัยที่ช่วยยกระดับความมั่นใจในการขับขี่แบบสายลุย ที่เราได้ลองขับในช่วงท้ายของโปรแกรม ด้วยการ “หวด” บนทางฝุ่นเพื่อลองของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super All Wheel Control (S-AWC) ที่มีความต่างกันในแต่ละโหมด ตั้งแต่ Normal Mod ตามด้วย Sport Mode ที่เฉียบคม แต่อนุญาตให้คุณสนุกได้เบาๆ กับอาการ Oversteer ก่อนปิดท้ายด้วย Lock Mode ที่จัดระเบียบอาการของรถให้อยู่ภายใต้การควบคุมอย่าง “แน่นหนา” จนได้ข้อสรุปสั้น “เอาอยู่” ไม่ว่าจะโหมดไหนก็ตาม
ราคารถใหม่
Mitsubishi Outlander PHEV รุ่น GT ราคา 1,640,000 บาท
Mitsubishi Outlander PHEV รุ่น GT – Premium ราคา 1,749,000 บาท