รีวิว (เบาๆ) : 10 Minutes Impression with New Mitsubishi Triton (L200)

โพสต์เมื่อ 26th พฤศจิกายน 2018 หมวดหมู่: Test Drive by iAMCAR โดย Poyee Poyee

หลังจากที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เปิดตัว New Mitsubishi Triton (L200) ครั้งแรกในโลก ไปไม่กี่วันการระดมเชิญสื่อมวลชนทั้งในเมืองไทย และจากต่างประเทศ ก็เริ่มขึ้นทันที โดยทำการปรับเปลี่ยนพื้นที่ลานดิน บริเวณลานจอด P9 เมืองทองธานีเป็นสถานที่ทดสอบ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ “Flat Dirt Couse, Off-Road Obstacle Couse” และปิดท้ายด้วยประสบการณ์สุดเร้าใจในสถานี “Extreme Experience Course”

Flat Dirt Couse … New Mitsubishi Triton (L200) กับความมันส์ทางฝุ่น

สถานีแรกประเดิมกันที่ทางฝุ่นระยะทางประมาณเกือบๆ 1 กม. ที่คล้ายๆ อารมณ์สนามแข่งแรลลี่ ซึ่งมีทั้งเนิน และโค้งที่จัดไว้ให้หลายหลากองศาให้ลองขับเพียง 1 รอบสนามเท่านั้น โดยความเร็วที่ใช้จะอยู่ราวๆ 50-60 กม./ชม. ในขณะที่รถก็มีให้เลือกหลากหลายรุ่น เช่น เกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติทั้งพวงมาลัยซ้าย และพวงมาลัยขวา

แต่ด้วยความต้องการจากเพื่อนผู้สื่อข่าวที่มากกว่า จำนวนรถซึ่งเตรียมไว้ในสถานีนี้ โดยเฉพาะเกียร์อัตมัติพวงมาลัยขวา เลยทำให้เราจำเป็นต้องโดดขึ้นไปขับรุ่นเกียร์อัตโนมัติพวงมาลัยซ้าย ก่อนจะมาเปลี่ยนอีกครั้งโดยได้รุ่นเกียร์ธรรมดามาลองขับ

ส่วนความรู้สึกคร่าวๆ หลังจากขับไปรุ่นละ 1 รอบสนาม ก็พบว่าจุดเด่น คือ เรื่องของช่วงล่างที่ถือว่าซับแรง และให้การทรงตัวได้ดี ในขณะที่ระบบพวงมาลัยนั้นก็รู้สึกว่ามีการควบคุมที่ค่อนข้าง “คม” สุดท้ายคือเรื่องของอัตราเร่งที่ยังคงประทับใจโดยเฉพาะในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ส่วนในรุ่นเกียร์ธรรมดานั้นจะรู้สึก “หนืด” นิดๆ

แต่ทั้งหมดทั้งมวล ต้องบอกว่านี่เป็นเพียงความรู้สึกเบื้องต้นเท่านั้นจากการขับเพียงรุ่นละ 1 รอบสนาม แถมรุ่นเกียร์อัตโนมัติยังเป็นพวงมาลัยซ้ายที่ไม่ค่อยจะคุ้นชินซักเท่าไหร่ เลยทำให้ข้อสังสัยหลายๆ อย่างต้องเก็บเอาไว้ “ลอง” อีกครั้งบนถนนดำ

Off-Road Obstacle Couse … ลองของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

สำหรับในสถานีนี้จะเป็นการ “ลองของ” พละกำลังจากเครื่องยนต์ และสมรรถนะระบบขับเคลื่อน 4 ล้อโดยเฉพาะ ด้วยการขับขี่ไต่ขึ้น “เนินสูง” ที่ผ่านไปได้แบบสบายจากการเดินคันเร่งเบาๆ เพื่อดึงเอาแรงบิดระดับ 430 นิวตันเมตรที่ 2,500 รอบต่อนาทีมาใช้ในการ “ไต่” รวมถึงโชว์ให้เห็นสมรรถนะของระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control ที่ลงเนินชันได้ง่ายๆ เพียงแค่บังคับทิศทางของพวงมาลัยเท่านั้น

ตามด้วยจุดต่อไปกับ “เนินเอียง” ที่เคลื่อนตัวค่อยๆ ไต่ระดับความสูงในด้านข้าง สลับทั้งซ้าย และขวา เพื่อ “วัด” กันไปให้เห็นๆ ในเรื่องของการทรงตัว แม้จะต้องวิ่งบนเส้นทางลาดเอียง เพื่อสร้างความมั่นใจในการขับขี่สไตล์ออฟโรดมากขึ้น ก่อนจะปิดท้ายด้วย “เนินสลับ” ที่แสดงให้เห็นค่อนข้างชัดในเรื่องของระบบช่วงล่างที่ “นุ่มนวล” รวมถึงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มากับฟังค์ชั่นต่างๆ ครบครัน จนแม้ล้อข้างใด ข้างหนึ่ง “แขวนลอย” ตัวระบบก็สามารถจัดการให้ขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างสบาย

Extreme Experience Course ประสบการณ์สุดเร้าจากแชมป์ Dakar 2 สมัย

จุดสุดท้ายแม้จะไม่ได้ขับ แต่ก็ได้รับความสนใจมากที่สุด เมื่อสถานีนี้มีคนขับให้นั่งเป็น Hiroshi Masuoka นักแข่งรถแรลลี่ชาวญี่ปุ่นเจ้าของแชมป์ Dakar Rally 2 สมัย เดินทางมาเพื่อโชว์ศักยภาพ New Mitsubishi Triton (L200) แบบ “เต็มข้อ” บนสนามคล้าย Flat Dirt ที่ปรับแต่งใหม่ให้ “ยาก” กว่า

แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเมื่อ Hiroshi Masuoka คือผู้ที่ประจำการหลังพวงมาลัย New Mitsubishi Triton (L200) เดิมๆ จากโรงงาน แม้จะ “จัดเต็ม” ตั้งแต่ออกสตาร์ท ทั้งสาดโค้ง, เบรกหนัก กระทั่งโดดเนิน จนล้อลอยก็ตาม ซึ่งทั้งหมดคือสิ่งที่ตอกย้ำได้อย่างชัดเจนถึง “สมรรถนะ” ที่บอกเลยว่าน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว